แผ่นดินไหวตุรกี - ซีเรีย นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของโลก จากภัยพิบัติในปี 2023 โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตที่มีรายงานออกมา ขยับขึ้นสูงไปมากกว่า 23,000 คนแล้ว และความเสียหาย อาจจะไม่รุนแรงขนาดนี้ ถ้าหากอาคารบ้านเรือนต่างๆ มีความแข็งแรง มากกว่านี้
แผ่นดินไหวตุรกี- ซีเรีย นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของโลก จากภัยพิบัติในปี 2023 โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่วันจันทร์ที่ 6 ก.พ. 66 จนกระทั่งถึงตอนนี้ 11 ก.พ. 66 ซึ่งเป็นเวลา 6 วันเต็มแล้ว โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตที่มีรายงานออกมา ขยับขึ้นสูงไปมากกว่า 23,000 คนแล้ว และความเสียหาย อาจจะไม่รุนแรงขนาดนี้ ถ้าหากอาคารบ้านเรือนต่างๆ มีความแข็งแรง และนี่จะเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของตุรกี เพราะเมื่อการก่อสร้างอาคารที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ความเสียหายจากแผ่นดินไหวรุนแรงกว่าที่ควรจะเป็น
โครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศตุรกีมีความต้านทานต่อแรงสั่นสะเทือนต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในซีเรีย นั่นจึงทำให้ เกิดภาพความเสียหายจำนวนมากต่ออาคารบ้านเรือน โดย คาร์เมน โซลาน่า นักภูเขาไฟวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยพอร์ตสมัธ จากอังกฤษ กล่าวผ่าน บีบีซี ว่า เนื่องจากแผ่นดินไหวไม่สามารถคาดการณ์ได้ อาคารที่ต้านทานแรงสั่นสะเทือนจึงมีความสำคัญในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก และพังถล่มลงมาในที่สุดจากแผ่นดินไหวตุรกี-ซีเรีย
ความเสียหาย จากแผ่นดินไหวตุรกี - ซีเรีย ที่เกิดขึ้น ต่ออาคารโครงสร้างพื้นฐานมากกว่า 6,000 แห่ง แม้แต่อาคารที่เพิ่งสร้างใหม่เอง ก็พังยับเยินเช่นกัน นับเป็นเรื่องน่าเศร้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เรื่องนี้ นำมาสู่ข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่า ตุรกี ในฐานะประเทศที่รู้ตัวดีว่า มีโอกาสเผชิญกับแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง แล้วเพราะเหตุใดจึงไม่มีการสร้างอาคารที่พร้อมจะรองรับหรือทนต่อแผ่นดินไหว อย่างเช่นที่ญี่ปุ่นทำ แต่ก็มีข้อโต้แย้งเช่นกันว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้มีขนาดที่รุนแรงมาก คือ 7.8 แมกนิจูด ยากที่อาคารส่วนใหญ่จะทานทนไหว
ต่อประเด็นเรื่องนี้ ศ.โอคาน ทุยซูซ วิศวกรธรณีวิทยาจากมหาวิทยาลัยเทคนิคอิสตันบูล แสดงความเห็นไว้อย่างน่าสนใจ โดยบอกว่า ทั้งความรุนแรงของแผ่นดินไหวตุรกี-ซีเรีย และการสร้างอาคารที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานการรับมือแผ่นดินไหว ล้วนเป็นปัจจัยที่นำไปสู่ความหายนะที่ทุกคนได้เห็น
ด้าน ซินัน เติร์กกัน วิศวกรโยธาและประธานสมาคมส่วนเสริมอาคารป้องกันแผ่นดินไหวของตุรกี บอกว่า แม้แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวตุรกี-ซีเรียจะรุนแรงมากๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเสียหายต่ออาคารในระดับนี้ได้
ขณะที่ ญี่ปุ่น ประเทศที่เผชิญภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวบ่อยๆ มี ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยในการก่อสร้างจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทการใช้งานของอาคารและพิจารณาพื้นที่ว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวมากน้อยแต่ไหน
อาคารรองรับแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นมีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การเสริมความแข็งแรงอย่างง่าย ไปจนถึงตัวลดการสั่นสะเทือนทั่วทั้งอาคาร ไปจนถึงการวางโครงสร้างทั้งหมดไว้บนโช้กอัปขนาดยักษ์เพื่อป้องกันมันจากการสั่นสะเทือนของพื้นดิน
ที่มา theguardian bbc