ปตท. ชู 2 นวัตกรรมเปลี่ยนอนาคต ลดโลกร้อน และ ยกระดับคุณภาพชีวิต

เครือเนชั่น นำโดย สปริงนิวส์ เนชั่นทีวี และโพสต์ทูเดย์ เปิดเวทีสัมมนา NEXT STEP THAILAND 2023 ทิศทางแห่งอนาคต ซึ่งมีการเชิญบรรดาหัวหน้าพรรคเข้าร่วมแสดงวิสัยทัศน์ ในช่วง INNOVATION OF SUSTAINABILITY เพื่อประเทศไทยยั่งยืน   โดยในงานสัมมนา ครั้งนี้ นาย อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้พูดถึงประเด็นนวัตกรรมเปลี่ยนอนาคตไว้อย่างน่าสนใจ โดย ปตท. มองว่า มี 2 นวัตกรรมเปลี่ยนอนาคต นั่นคือ 1. ลดโลกร้อน และ 2. นวัตกรรมยกระดับคุณภาพชีวิต

โดยนาย อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ให้ความเห็นว่า ในสมัยก่อน อาจจะเหมือนว่าประเทศไทย ไมตระหนักกับปัญหาเหล่านี้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประเทศไทยถือว่าเสี่ยงภัย เสี่ยงได้รับผลกระทบมากที่สุด เป็นอันดับ 9 ของโลกเลยทีเดียว 

โดย ปตท. มองว่า นวัตกรรมที่จะลดโลกร้อน จะต้องมีเรื่องพลังงานทดแทน Renewable Energy , การกักเก็บคาร์บอน Carbon Capture Storage และ การต่อยอดการใช้คาร์บอน โดย ปตท. ตั้งเป้าไว้ว่า จะทำ พลังงานทดแทน Renewable Energy ให้ได้ 1.2 หมื่นเมกะวัตต์ต่อปี

โดยสิ่งที่จะเป็นอนาคตได้แก่ Solar Road (ถนนติดแผงโซลาร์) , Solar Floating ซึ่งประเทศไทยมีพื้นที่สันเขื่อนจำนวนมาก , ส่วนเรื่อง พลังงานลม Vortex Blodeless ซึ่งเป็นการใช้แรงสั่นสะเทือน  ทั้งโลกช่วยกันพัฒนา 

ส่วนนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต นวัตกรรมที่ประเทศต้องมีที่จะใช้ยกระดับคุณภาพชีวิต และประเทศต้องมีและประเทศก็มีศักยภาพด้วย 

โดย ปตท. ตั้งเป้าลงทุนในพลังงานทดแทนให้ได้ 1.2 หมื่นเมกะวัตต์ ภายในปี 2030 ซึ่งเรื่องพวกนี้จะเป็นการลดพลังงานฟอสซิล  และ นวัตกรรมที่ประเทศต้องมีที่จะใช้ยกระดับคุณภาพชีวิต และประเทศต้องมีและประเทศก็มีศักยภาพด้วย ก็คือ   1.เรื่องของเกษตร  2.  เรื่องของ next generation automative (ธุรกิจยานยนต์อนาคต ยานยนต์ไฟฟ้าและรถไฮโดรเจน)  3. เรื่องของ Med Tech และ  Health Care (เรื่องเทคโนโลยีสุขภาพ) และ นวัตกรรรมที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคต คือ นวัตกรรมที่ดักจับคาร์บอนและเอามาใช้ประโยชน์ต่อไปได้