จากการสำรวจของ ซีบีอาร์อี เกี่ยวกับเทรนด์ที่อยู่อาศัยปี 2566 พบว่า ผู้อยู่อาศัยต้องการที่พักที่มีพื้นที่มากขึ้น คำนึงถึงสุขภาพ สภาพแวดล้อมที่ดี มีเทคโนโลยี และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เน้นความคุ้มค่า ความปลอดภัย ซึ่งบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรีก็กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้
เทรนด์การพัฒนาบ้านและที่อยู่อาศัยปี 2566
-สเปซหรือพื้นที่
ผู้คนในปัจจุบันต้องการบ้านขนาดใหญ่หรือที่อยู่อาศัยที่มีฟังก์ชั่นที่มากขึ้น แต่ข้อจำกัดคือ ราคาที่ดินแพง ต้นทุนก่อสร้างแพง ซึ่งเป็นเรื่องท้าทายสำหรับดีเวลลอปเปอร์ในการพัฒนาโครงการ เพราะความต้องการไม่เหมือนกัน หากบ้านขนาดเล็กก็ต้องรวมฟังก์ชั่นในห้องให้มีฟังก์ชั่นครบ มีการปรับพื้นที่ให้เป็นมัลติฟังก์ชั่น หรือมีความยืดหยุ่นในการที่ปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ เช่น ห้องนอนควรจะมีมุมสำหรับการทำงาน การเรียน ครบทุกฟังก์ชั่น
-ผู้อยู่อาศัยให้ความสำคัญกับสุขภาพ
ผู้คนเริ่มให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น สาเหตุหนึ่งก็มาจากคนเริ่มเป็นโรคภูมิแพ้ซึ่งเป็นผลมาจากฝุ่น PM 2.5 และโควิด-19 เพราะฉะนั้นบ้านแะลโครงการที่อยู่อาศัยระดับบนหลายแห่ง เริ่มใส่เครื่องกรองอากาศและทำให้อากาศหมุนเวียนได้ดีในที่พักอาศัย นอกจากนี้ ในแง่ดีไซน์ห้องครัวก็มีความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ เพราะคนต้องการมีพื้นที่สามารถทำอาหารได้จริง ต้องการมีครัวไทยเพิ่มนอกเหนือจากส่วนเตรียมอาหารในครัว (Pantry) มีพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
กฟผ.สนับสนุน APEC 2022 ด้วยการใช้คาร์บอนเครดิตชดเชยการปล่อยมลพิษจากงาน
ไทยเตรียมตัวรับเทคโนโลยี "ดวงอาทิตย์ประดิษฐ์" จากจีน หวังผลิตพลังงานสะอาด
-เทคโนโลยีสมาร์ทโฮม
บ้านและที่อยู่อาศัยยุคนี้เป็นสมาร์ทโฮมมีฟีเจอร์ใหม่เข้าไปทำให้สะดวกมากขึ้น เน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก เช่น สั่งปิดเปิดไฟได้ในระยะไกลจากอุปกรณ์ หรือมือถือ หรือถ้าน้ำรั่วจะสามารถรู้ได้ทันที “อีวีชาร์ท” ที่สามารถรู้ได้ว่าชาร์ทได้กี่เปอร์เซ็นต์แล้ว
-ความยั่งยืน
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และภาวะโลกร้อน ทำให้คนหันมาสนใจกับการประหยัดพลังงาน นิยมใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น หันมาใช้ Solar Panel แบตเตอรี่สำรอง โซลาร์ เซลล์, โซลาร์ รูฟท็อป, อีวี ชาร์จเจอร์ เพื่อรองรับการใช้รถไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ในอนาคตบ้านหลังหนึ่งต้องมีหัวชาร์จหนึ่งหัว
อลิวัสสา พัฒนถาบุตร ประธาน ซีบีอาร์อี ประเทศไทย เผยว่าเทรนด์ที่เกิดขึ้นมาจากไลฟ์สไตล์ของคนที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ที่เห็นได้ชัดคือรูปแบบของบ้าน โดยเฉพาะบ้าน 3 ชั้น บ้านใหญ่ในที่ดินเล็ก จากเดิมที่อยู่บ้าน 2 ชั้นในที่ดินใหญ่ แต่ปัจจุบันกลายเป็นบ้าน 3 ชั้นที่ดินเล็กแต่คงยังต้องการพื้นที่สีเขียว คือถ้าทำบ้านหลังใหญ่เต็มพื้นที่แล้วไม่มีพื้นที่สีเขียวก็จะไม่ต่างอะไรจากการอยู่ทาวน์เฮ้าส์
พื้นที่สีเขียวทั้งในส่วนในบ้านและพื้นที่ส่วนกลาง เป็นสิ่งจำเป็นเช่นเดียวกันที่แต่ละโครงการควรจะให้ความสำคัญ เพราะเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ และสำหรับ ภาพรวมตลาดบ้านเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากหลังโควิด-19 คนอยากได้พื้นที่ส่วนตัว และช่วงโควิด สร้างบ้านเอง ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะที่ดินราคาแพงและไม่ได้ได้อยู่ในทำเลที่ต้องการ ขณะที่ดีเวลลอปเปอร์พัฒนาโครงการบ้านออกมาจำนวนมาก ทำให้กลุ่มคนที่คิดจะสร้างบ้านเองเปลี่ยนใจมาซื้อบ้านในโครงการมากขึ้นมีตั้งแต่ตลาดล่างไปจนถึงตลาดซูเปอร์ลักชัวรี โดยเฉพาะตลาดลักชัวรีโตมาปีละ 30-40%