svasdssvasds

นักวิชาการเผย ไทยเสี่ยงน้ำท่วมหนักสิ้นปีนี้ โลกร้อนและลานีญายาวนานขึ้น

นักวิชาการเผย ไทยเสี่ยงน้ำท่วมหนักสิ้นปีนี้ โลกร้อนและลานีญายาวนานขึ้น

นักวิชาการไทยเตือน ไทยเสี่ยงเจอมรสุม ฝนตกหนักกว่าเดิมและเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่อาจมากกว่าปี 2554 เนื่องจากปริมาณฝนสะสมมากกว่าปกติ ลานีญาที่แข็งแกร่งขึ้น โลกร้อนขึ้น

ทำไมช่วงนี้ฝนตกบ่อย น้ำท่วมขังนาน รถก็ติด ปัญหาทั้งหมดนี้มีที่มา เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2565 ที่ผ่านมา รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผอ.ศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ ม.รังสิต ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวใจความว่า

# ความเสี่ยงสูงน้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2565 ตระหนัก แต่ไม่ตระหนก !!!

  • ปัจจัยที่ทำให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่มาครบทั้ง 3 ปัจจัย 1) ปริมาณฝนสะสมช่วงก่อนฤดูฝนมากกว่าค่าปกติ 2) ปรากฏการณ์ลานีญายังทรงพลังช่วงปลายปีทำให้อุณหภูมิน้ำทะเลฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกสูงกว่าฝั่งตะวันออก ความชื้นสูง 3) ปรากฏการณ์ไอโอดีเป็นลบทำให้อุณหภูมิน้ำทะเลฝั่งตะวันออกของมหาสมุทรอินเดียสูงกว่าฝั่งตะวันตก ความชื้นสูง
  • ปริมาณฝนคาดการณ์ช่วงปลายปี (สิงหาคม-พฤศจิกายน) มีสูงกว่าค่าปกติ และมากกว่าปี 2564 ที่ผ่านมา หากปริมาณฝนในภาคกลางมีมากกว่า 18 % ของค่าปกติ มีความเสี่ยงสูงจะเกิดน้ำท่วมใหญ่  2554 แต่พฤติกรรมน้ำหลากจะไม่เหมือนกัน (ถ้าฝนตกเหนือเขื่อน ปริมาตรรองรับน้ำเขื่อนขนาดใหญ่ในภาคเหนือยังมีประมาณ 50% แต่หากตกใต้เขื่อน จะสร้างปัญหาให้กับภาคกลางแบบน้ำท่วมทุ่ง ค่อยๆหลากเข้าเมือง) สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ตอนกลาง ตอนล่าง) ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีความเสี่ยงสูงที่จะเผชิญเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ได้เช่นกัน

 ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 ปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ที่ทำให้สถานการณ์รุนแรง หรือเบาลงประกอบไปด้วย

  1. จำนวน ทิศทาง และความรุนแรงของพายุจรตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป (โดยในปีนี้มีการคาดการณ์จะเกิดพายุ 23 ลูก ช่วงครึ่งปีแรกเกิดแล้ว 8 ลูก ยังเหลืออีกประมาณ 15 ลูก) 
  2. ความสามารถรับน้ำของลุ่มน้ำลดลง บีบให้ระดับน้ำสูงขึ้น (เช่นปีที่แล้วในภาคกลางปริมาณน้ำมีน้อยกว่าปี 2554 ประมาณ 20% แต่ระดับน้ำสูงเท่า หรือมากกว่า) 
  3. การเตรียมความพร้อม และความเข้าใจภาคครัวเรือนในพื้นที่เสี่ยง (เพื่อให้องค์ความรู้ และความตระหนัก จัดการความเสี่ยงได้ด้วยตัวเอง)
  4. ความขัดแย้งภาคประชาชนในพื้นที่เสี่ยง (มีการประกอบอาชีพ ทำนา ทำไร่ หรืออาชีพอื่นๆ  การจะเอาน้ำจากที่หนึ่งไปเก็บในอีกที่หนึ่ง เช่นแก้มลิงหรือประตูน้ำต่างๆ ย่อมส่งผลกระทบกับการทำมาหากินของเขาเหล่านั้น)
  5. การบริหารจัดการเอาอยู่หรือไม่ (การประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ชี้แจงมาตรการต่างๆต่อภาคประชาชนในการลดผลกระทบต่อพื้นที่เสี่ยง)

นอกจากนี้ อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญอีกท่านหนึ่ง อย่างอาจารย์ สนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมก็โพสต์ลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ในประเด็นเดียวกันนั่นก็คือ กรุงเทพฯเตรียมรับมือ Extream rainfall หรือฝนจะตกหนักขึ้นกว่าเดิมจากปรากฎการณ์ลานิญญาที่ยาวนานขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น ใจความว่า

Extreame rainfall..ใกล้มาถึงกรุงเทพแล้ว

1.ปรากฎการณ์ที่ฝนตกหนักในพื้นที่บางแห่งได้เริ่มเกิดขึ้นให้เห็นเป็นประจำโดยเฉพาะในเขตกทม. สมุทรปราการและจังหวัดที่ใกล้กับทะเลแล้ว สาเหตุสำคัญมาจากปัจจัย3อย่างคือโลกร้อนขึ้น+ปรากฎการณ์ลานิญา+ฤดูของลมมรสุม...

ปัจจุบันโลกร้อนขึ้นจากช่วงก่อนปฎิวัติอุตสาหกรรมถึง1.2องศาเซลเซียสทำให้มีไอน้ำจากทะเล(water vapor) ระเหยขึ้นถึง7% จากก่อนยุคอุตสาหกรรม น้ำจากทะเลและมหาสมุทรระเหยกลายเป็นเมฆบนท้องฟ้าเมื่อมีปริมาณมากจะรวมตัวกลายเป็นเมฆฝนครึ้มลอยเข้าฝั่งตามทิศทางลม

หากลมแรงก็ลอยลึกเข้าไปอีก มาเจออากาศที่เย็นกว่าทำให้เกิดการกลั่นตัวเป็นฝนตกลงมายิ่งผสมกับสภาวะลานีญาซึ่งเป็นภาวะที่น้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิคร้อนขึ้นและพัดมายังฝั่งตะวันตกแถบอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย ทำให้เกิดเมฆฝนในมหาสมุทรมากขึ้นและเป็นเหตุให้พื้นที่ใกล้เคียงมีฝนตกหนักมากขึ้นไปอีก ยิ่งหากเป็นช่วงฤดูมรสุมด้วยแล้วลมจะพัดพาเอาไอน้ำเข้าฝั่งมากขึ้นด้วยหากกลายเป็นเป็นพายุโซนร้อนหรือพายุดีเปรสชั่นหรือความกดอากาศต่ำทำให้ฝนตกบนฝั่งรุนแรงมากขึ้นไปอีกเท่าตัว

.................................

2.พื้นที่เป็นเมืองมีตึกสูงจำนวนมากหรือเป็นที่ราบลุ่มมีต้นไม้จำนวนมากอยู่ใกล้ทะเลและเป็นร่องลมพัดผ่าน จะเกิดปรากฎการณ์ฝนตก หนักมากเพราะอาคารสูงต่างๆและต้นไม้หนาแน่นจะลดความเร็วของลมลง จึงทำให้เกิดฝนตกหนักเป็นหย่อมๆในเมืองดังกล่าวเกิดน้ำท่วมหนักได้ ดังเช่นกรุงโซลเกาหลีใต้ บางเมืองในประเทศจีนและบังคลาเทศ

................................

3.ปีนี้ปรากฎการณ์ลานีญาเกิดขึ้นเกือบตลอดปี2565 กรุงเทพและสมุทรปราการเป็นเมืองที่มีความเสี่ยงน้ำท่วมสูงเนื่องจากมีปัจจัยครบคืออยู่ในร่องมรสุม ใกล้ทะเล อาคารสูงจำนวนมากและสภาวะลานิญาที่ทำให้ฝนตกหนัก+น้ำทะเลหนุน+น้ำเหนือไหลหลาก +อยู่ในที่ลุ่มต่ำ ดังนั้นช่วงปลายเดือนสิงหาคมและกันยายนมีความเสี่ยงในเรื่องน้ำท่วม..ซึ่งต้องรีบป้องกันอย่างเร่งด่วน

................................

4.จากการคาดการณ์ด้วยclimate change model พบว่าประเทศไทยจะได้รับความเสี่ยงจากฝนตกหนัก80-100%จากที่เคยเกิดขึ้นในอดีตซึ่งช่วงนี้ฝนตกที่ภาคเหนือและอีสานหนักมากน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาที่ชัยนาทและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่จังหวัดลพบุรีมาเจอกันที่อยุธยาไหลมายังปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพและออกอ่าวไทยที่สมุทรปราการ หากอยุธยาและปทุมธานีรับไม่ไหวกรุงเทพคงไม่รอดแน่

related