ทำไมคนกรุงต้องมีพื้นที่สีเขียว ช่วยให้เมืองน่าอยู่มากขึ้นได้อย่างไร โครงการ ลมหายใจเพื่อเมืองของ ปตท. ร่วมมือกับผู้ว่าฯชัชชาติ ร่วมปลูกต้นไม้ให้คนเมืองมีอากาศที่บริสุทธิ์
พื้นที่สีเขียว มีความสำคัญมากไม่ว่าจะเป็นในสังคมเมืองและชนบท เมืองที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้ามาก ๆ จะยิ่งทำให้สุขภาพของคนเมืองดีขึ้นตามงานวิจัยต่างประเทศ สิงคโปร์เป็นต้นแบบที่ดีของเมืองขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว (Green Space) และความสุขของผู้คน รู้หรือไม่ว่า พื้นที่สีเขียวสามารถนำมาวัดค่าดัชนีความสุขของคนเมืองได้ด้วย
ตามหลักจิตวิทยาแล้ว การมองสีเขียวจะช่วยให้เราผ่อนคลาย ลดความเครียด กรุงเทพฯเป็นตัวอย่างของเมืองที่คนยังมีความเครียดอยู่เยอะ นอกจากนี้ปัญหาภาวะโลกร้อนยังผลักดันให้เราต้องเร่งเพิ่มสีเขียวให้กับทุกมุมบนโลกมากขึ้น จากการประชุม COP26 ไทยเราได้มีส่วนหนึ่งในการหารือร่วมแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน และหนึ่งในนั้นคือการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อสร้างการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศที่เป็นมลพิษของเมือง
และเพื่อให้ไทยเดินหน้าสู่เป้าหมายดังกล่าวได้ ผู้ว่ากรุงเทพฯชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็ได้มีนโยบายที่สอดคล้อง คือ ลุยปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้นทั่วกทม. และเป็นนิมิตหลายที่ดี ที่โครงการนี้ได้มีเสียงตอบรับอย่างล้นหลามจากองค์กรใหญ่ ๆ เช่น สื่อทุกสำนักและปตท.
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ร่วมสนับสนุนเป้าหมายของผู้ว่าฯชัชชาติ จัดโครงการ “ลมหายใจเพื่อเมือง” ปลูกต้นไม้ 100,000 ต้น เพิ่มพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพมหานคร เพื่อเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ให้คนกรุง คล้าย ๆ กับการเพิ่มปอดให้เมือง และเพิ่มร่มเงาที่น่าอยู่ในกับผู้อยู่อาศัยได้ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปตท.จับมือกับกทม. จัดโครงการ ลมหายใจเพื่อเมือง เพิ่มพื้นที่สีเขียวในกทม.
ปตท. เดินหน้าโครงการ “ลมหายใจเพื่อเมือง” ปลูกต้นไม้ 1 แสนต้น
ชัชชาติ ผู้ว่าฯ กทม. ประกาศสงครามกับฝุ่น ชี้อากาศบริสุทธิ์เป็นสิทธิพื้นฐาน
"วราวุธ" ชวนปลูกป่าคืนพื้นที่สีเขียว ดันการค้า "คาร์บอนเครดิต" สร้างรายได้
ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มต้นไม้ยืนต้น และ ไม้ที่มีอายุยาวให้กับกทม. เพราะต้นไม้ 100,000 ต้น ที่จะปลูกในพื้นที่ของ ปตท.และพื้นที่ของ กทม. เน้นปลูกเป็นไม้ยืนต้น ไม้พุ่มอายุยาว และ ไม้เถาที่มีเนื้อไม้ เป็นพันธุ์ที่เหมาะสมกับพื้นที่กรุงเทพฯ เช่น ต้นประดู่ป่า ต้นรวงผึ้ง ต้นไทรย้อยใบแหลม โดยนำร่องพัฒนาพื้นที่บริเวณถนนกำแพงเพชร 6 ซึ่งเป็นพื้นที่ของ ปตท.
นอกจากนี้ปตท.ยังร่วมกับ กทม. ปลูกต้นไม้ในพื้นที่สวนสาธารณะ เช่น สวนจตุจักร สวนรถไฟ และอีกหลายพื้นที่ที่สำคัญทั่วกรุงเทพฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ กักฝุ่นและมลพิษ ซึ่งปตท.มองว่า การเพิ่มพื้นที่สีเขียวนอกจากลดมลพิษแล้ว ยังเป็นการช่วยลดอุณหภูมิรอบพื้นที่ที่ปลูกต้นไม้ ให้ร่มเงา และเพิ่มความน่าอยู่ให้กับสังคมเมืองอีกด้วยตลอดระยะเวลาที่ผ่านและในอนาคตข้างหน้า ปตท. พร้อมสนับสนุนเป้าหมายเพื่อให้ไทยเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ โดยมี 3 กลยุทธ์หลัก คือ
ขณะเดียวกันปตท. ยังได้ดูแลสังคมไทย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ปตท.จัดโครงการ “ลมหายใจเดียวกัน” เพื่อช่วยดูแลผู้ป่วย และ สนับสนุนโรงพยาบาลรวมทั้งบุคลากรการแพทย์ รวมทั้งจัดโครงการ “ลมหายใจเพื่อน้อง” ช่วยมอบโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กและเยาวชน ได้มากกว่า 6 หมื่นคน
ต้องขอขอบคุณปตท. ที่เริ่มดำเนินการเพื่อโลกและสังคมไทย โดยมุ่งหวังให้ประเทศไทยเป็นเมืองที่ปลอดภัยมากขึ้นจากวิกฤตการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทุกวันนี้ เมืองกรุงฯอัดแน่นไปด้วยรถราและฝุ่นควัน บางครั้งสิ่งแวดล้อมที่เราอาศัยอยู่ทำให้ผู้อยู่อาศัยเกิดความรู้สึกอึดอัดไม่สดชื่น ต้นไม้หรือพื้นที่สีเขียวก็เป็นอีกหนึ่งทางออกในการให้คนกรุงมีสุขภาวะที่ดี ไม่ว่าจะทางกายหรือทางใจ อย่างน้อยการได้ลงมือทำจริงก็ดีกว่าเสมอ