ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ชี้ ความจริง 4 ประการ กับ 8 ปีนายกรัฐมนตรี คือการอมทุกข์ ซึ่งเป็นหัวใจของกิเลสตัญหา ไม่ใช่ความจริงอันประเสริฐ “อริยสัจ 4” ที่ประกอบด้วย “ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค” ที่เป็นหนทางในการดับทุกข์
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส.พรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ความจริง 4 ประการ เรื่อง 8 ปี” โดยมีรายละเอียดดังนี้
ความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ ที่ถูกยกให้เป็น “หัวใจของพระพุทธศาสนา” นั้นคือ “อริยสัจ 4” ประกอบด้วย “ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค”
หากคนยุคนี้ไม่ซึ้งเข้าถึงรสพระธรรมก็ไม่แปลก เพราะคนพูดแท้จริงไม่ได้ “ดับทุกข์” แต่กลับ “อมทุกข์” เอาไว้ ย่อมไม่ได้เข้าใจอย่างถ่องแท้
เวอร์ชั่นของ “องคุลีมาลชูวิทย์” อธิบายได้ว่า หัวใจของกิเลสตัณหา ประกอบด้วย “เก่ง เบ่ง ดัง ดับ” อันเป็นหนทางสู่ความล่มสลายของคนในยุค 2.0 เป็นความจริงในทุกวงการ
ทั้งคนเดินดินกินข้าวแกงริมถนน ไปยันดารา ไฮโซ เซเลบริตี้ หรือแม้แต่วงการการเมืองเรื่อง 8 ปี นับเป็นความจริงที่เริ่มจาก
บทความที่น่าสนใจ
ชมรมแพทย์ชนบท ออกแถลงการณ์ถึงนายกรัฐมนตรี “8 ปีแล้ว พอเถอะนะ”
จากกรณีค่าไฟแพง และตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นว่า บิ๊กตู่ เป็นคนธรรมะธัมโม
Soft Power สไตล์บิ๊กตู่ ผลงานการแต่งเพลง ตลอด 8 ปี ที่เป็นนายกฯ
1. "เก่ง"
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ระบุว่า คนที่มีจังหวะของชีวิต ตำแหน่งหน้าที่ ความสามารถ ทุกคนเริ่มต้นด้วยความเก่งทั้งสิ้น ซึ่งล้วนต้องดิ้นรนขวนขวาย ไม่ใช่ใครจะเก่งได้ทุกคน การเป็นนายกรัฐมนตรีถึง 8 ปีได้ ย่อมต้องยอมรับว่า เก่ง จะมีนายกรัฐมนตรีกี่คนในประเทศไทย ที่อยู่ได้นานเท่านี้ พ่อค้า นายทุนใหญ่ ไปยันนายพลขุนศึก
การมาถึงจุดสูงสุดนี้ได้ต้องมีความเก่งมาก งัดทุกกลยุทธ์ ทั้งหักหลัง ทิ่มแทง มือยาวสาวได้สาวเอา เหยียบหัวคนอื่น ทำลายคู่แข่งขันเพื่อให้ได้เป็นหนึ่งของวงการผู้ชนะสูงสุด มีอยู่แค่หนึ่งเดียวเท่านั้น เปรียบไปนี่คือฐานของ “ทุกข์”
2. "เบ่ง"
เป็นธรรมดาของสัตว์โลกทั้งหลาย เมื่อขึ้นเป็น “จ่าฝูง” ย่อมต้องคงสถานะของตัวเองเอาไว้ตลอด ใครคิดมาแหยมเป็นต้องสู้สุดดิ้นถึงจะเป็นจ่าฝูงได้ ทั้งลิง ทั้งเสือ ทั้งหมา ทุกวงการสัตว์ย่อมต้องมี จ่าฝูง ไม่พ้นแม้แต่มนุษย์สุดประเสริฐข้าราชการ ย่อมต้องมีนายใหญ่สูงสุด ประเทศ ก็ย่อมต้องมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำ นับวันยิ่งต้องเบ่งขึ้น คอยระวัง ไม่ไว้วางใจใคร และอวดบารมีให้ทุกคนเชื่อฟัง เปรียบไปนี่คือ “การดำรงอยู่ของทุกข์”
3. "ดัง"
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ระบุว่า ตามลำดับโลกแห่งกิเลสตัณหาอันเป็นอนิจจาความจริง เมื่อถึงขั้นเบ่งแล้วจะไม่ดังหาใช่ไม่ ไปไหนมีแต่คนกราบไหว้ ผู้คนใกล้ชิดพะเน้าพะนอ ยกยอปอปั้นสารพัด สปอตไลท์ฉายแสงไปที่คนดังที่สุดเท่านั้น เปรียบไปนี่คือ “ความจริงแห่งทุกข์”
4. "ดับ"
หนทางของโลก ท้ายสุดล้วนไปสู่จุดจบดับสิ้นสูญสลาย ไม่มีใครที่อยู่ค้ำฟ้า จ่าฝูงย่อมถูกท้าทาย เมื่อถึงเวลาสัตว์ในฝูงที่ใหญ่กว่า หนุ่มกว่า แข็งแรงกว่า ต้องต่อสู้ขึ้นมาทดแทน ดาราแก่ตัวลง จากนางเอก พระเอก ก็ต้องถึงเวลาลาโรง ข้าราชการก็ต้องเกษียณ หากเป็นมนุษย์ปุถุชนก็ต้องเข้าโลง ดินกลบหน้า สูญสลายตายจากเป็นเรื่องธรรมชาติ เปรียบไปนี่คือ “การหมดสิ้นทุกข์” นั่นเอง
มีคนพูดถึงการดำรงตำแหน่งระยะ 8 ปี ว่ากันไป ว่าครบเมื่อไหร่อย่างไร มีคนวิพากษ์วิจารณ์มากมาย คงไม่ต้องฟังให้เวียนหัวเพิ่ม เพราะตามขั้นตอน “เก่ง เบ่ง ดัง ดับ” มีอยู่แค่นี้
จะเก่งอย่างไร จะเบ่งยังไง จะดังแค่ไหน ท้ายสุดต้องดับ แบบฉบับจากประสบการณ์มากกิเลสตัณหาของชูวิทย์ ไม่ได้ลบหลู่ แต่คือความจริงอันเสมือน “เกิด แก่ เจ็บ ตาย” แล้วจะเข้าใจว่า ไม่ว่าในวันที่ 24 สิงหาคม นี้ ผลออกมาเป็นอย่างไร ก็เป็นเพียงหนึ่งในความจริงในวังวนของกิเลสตัณหาเท่านั้น
ที่มา FB : ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์