ทั่วโลกได้เริ่มเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ประเภท Battery Electric Vehicle (BEV) หรือรถยนต์ไฟฟ้า 100% แทนการใช้รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากสถานีชาร์จมีทั่วถึงมากยิ่งขึ้นและในประเทศไทยก็เช่นกัน
จากสถิติของ EV-Volumes ได้เผยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า Battery Electric Vehicle (BEV) หรือรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่เพิ่มขึ้นสองเท่าจากปีก่อน
ในยุโรปส่วนแบ่ง EV เพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 17%
ในอเมริกาเหนือ EVs มีส่วนแบ่ง 4.4% เพิ่มขึ้นจาก 2.3 %
ในประเทศจีน 5.5 % เป็น 13.3 %
สำหรับตลาดที่เหลืออีก 70 แห่งที่เรากำลังติดตาม ส่วนแบ่ง EV รวมกันคือ 1.5%
แบรนด์ยี่ห้อรถยนต์ไฟฟ้าในตลาด ในแง่ของการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด Tesla ยังคงเป็นอันดับหนึ่ง ตัวเลขคือ 564,000 คัน แต่ส่วนแบ่งการตลาดลดลงอีก 2-3% เปอร์เซ็นต์ขณะนี้อยู่ที่ 19% ซึ่งส่วนแบ่งที่ลดนั้นมาจาก BYD
BYD คู่แข่งของ Tesla มียอดจดทะเบียนมากกว่า 326,000 คัน และส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นสองเท่าเมื่อเทียบปีต่อปีที่ 11% แซง SAIC และสร้างความได้เปรียบเหนือแบรนด์ยุโรปที่จริงจังด้านรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Volkswagen Group ซึ่งทั้งคู่สูญเสียส่วนแบ่งการตลาดไปด้วยเช่นกัน
ฮุนได มอเตอร์ กรุ๊ป ยังคงเป็น OEM รายใหญ่อันดับ 5 ในกลุ่ม Battery Electric Vehicle (BEV) ด้วยจำนวนมากกว่า 167,000 คัน และส่วนแบ่ง 5.6% รองลงมาคือ Geely-Volvo (ส่วนแบ่ง 4.3%)
สถิติ 5 อันดับ รถยนต์ไฟฟ้า EV ที่ขายดีที่สุดในครึ่งปีแรกของปี 2565
Tesla 564,873 คัน
ส่วนแบ่งทางการตลาด 19% ปีที่แล้ว 22.7%
BYD 326,236 คัน
ส่วนแบ่งทางการตลาด 11% ปีที่แล้ว 5.5%
SAIC 321,289 คัน
ส่วนแบ่งทางการตลาด 10.8% ปีที่แล้ว 14.5%
Volkswagen Group 216,004 คัน
ส่วนแบ่งทางการตลาด 7.3% ปีที่แล้ว 10.7%
Hyundai Motor Group 167,305 คัน
ส่วนแบ่งทางการตลาด 5.6%
ที่มา : insidesev (2 ส.ค 2565)
ดังนั้น BYD ผู้ผลิตรถยนต์จีนเพิ่มขึ้นจากอันดับที่ 4 ของปีที่แล้วโดยมีส่วนแบ่ง 5.5% มาอยู่ที่อันดับ 2 อย่างรวดเร็วในปัจจุบัน โดยมีส่วนแบ่ง 11% ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น 5.5% ในเวลาเพียง 1 ปี
ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนที่เป็นผู้นำด้านแบตเตอรี่ของโลกและกำลังจะทำการตลาดในไทยเร็วๆนี้ เพราะยอดขายที่พุ่งสูงเชื่อว่าทั้งการตลาดและรถยนต์ต้องมีคุณภาพมากพอสมควรจึงทำให้คนตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของ BYD