เปิด 18 หมวดสินค้า-บริการ ที่หากขึ้นราคาสูง-บ่อยเกินไป จะพาให้ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลระส่ำ
จากสภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ ทั้งจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกหยุดชะงักทันที และภาวะสงครามที่ต่อเนื่องมาจากการสู้รบระหว่างยูเครนและรัสเซีย ทำให้ราคาสินค้าต่าง ๆ ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เงินในมือประชาชนมีมูลค่าน้อยลงกลายเป็นภาวะเงินเฟ้อตามมา
SPRiNG จะชวนคุณมาดู 18 หมวด สินค้าและบริการ ที่หากปรับราคาขึ้นสูงหรือบ่อยเกินไปจะทำให้ความเชื่อมั่นที่ประชาชนมีต่อรัฐบาลลดลง จากประกาศมาตรลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ที่กระทรวงพาณิชย์ ออกมา
อ่านเรื่องราวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
18 หมวดสินค้า-บริการ ที่จำเป็นต่อการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน
ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะถูกชีวัดออกมาผ่านสิ่งที่เรียกว่า “ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค” ซึ่งเป็นดัชนีที่แสดงถึงทัศนคติของผู้บริโภคต่อตลาดแรงงาน ภาวะเศรษฐกิจ และการใช้จ่ายในอนาคต โดยตัวเลขตัวนี้จะมีความสัมพันธ์กับเรื่องของ การว่างงาน อัตราเงินเฟ้อ และรายได้ที่แท้จริง
หากผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นว่าธุรกิจในอนาคตยังคงมีแนวโน้มที่ดี ผู้บริโภคก็จะใช้จ่าย และลงทุนเพิ่มขึ้นซึ่งทำให้เศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้นไปด้วย ในทางกลับกันหากผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่น กิจกรรมทางเศรษฐกิจในอนาคตก็จะลดลงตามไปด้วย
นั่นแปลว่าถ้าสินค้า-บริการปรับขึ้นราคา คนก็จะอยากซื้อของ-จับจ่ายใช้สอยลดลง และเมื่อลดลงก็จะทำให้ดัชนีชีวัดลดลงตามไปด้วย
ข้อมูลจาก สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม เดือนมีนาคม 2565 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 43.8 เทียบกับระดับ 44.6.ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันและในอนาคตก็ปรับลดลงเช่นกัน โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบัน ปรับตัวลดลงจากระดับ 35.1 มาอยู่ที่ระดับ 34.5 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคต (3 เดือนข้างหน้า) ปรับลดลงจากระดับ 50.9 มาอยู่ที่ระดับ 50.0
เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ.ที่ยังมีความเสี่ยงจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่าง รัสเซีย–ยูเครน ราคาน้้ามันเชื้อเพลิงปรับตัวสูงขึ้น และราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นประกอบกับ สถานการณ์โควิด-19 ที่ยังระบาดอยู่
หากย้อนกลับไปในช่วงที่โควิด-19 ระบาดรอบแรก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม ลดลงไปอยู่ที่ 33.3 ช่วงเวลานั้นผู้คนต่างตั้งคำถามและขาดความเชื่อมั่นที่มีต่อรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลเองก็พยายามออกนโยบายให้ดชนีชี้วัดนี้กลับขึ้นมาด้วยนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่าง คนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน เรารักกัน
ตรึงราคาแต่จะตรึงได้นานแค่ไหน ?
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาสินค้า เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 65 ว่า เป็นผลกระทบมาจากราคาน้ำมัน เรื่องนี้รัฐบาลได้ช่วยในการตรึงราคาในระยะเวลาหนึ่งตอนนี้เป็นการตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายที่จะต้องดำเนินการ ที่สำคัญต้องรับความจริงว่า เมื่อมีการปรับราคาน้ำมันจะมีผลกระทบต่อต้นทุนและค่าขนส่งสินค้า จะไปกระทบกับราคาสินค้าที่จำหน่ายให้กับผู้บริโภคด้วย
"ที่ต้องช่วยดูให้ดีที่สุดคือสินค้าที่จำเป็นต่อการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน ซึ่งมีอยู่ 18 รายการ จะพยายามช่วยยืดระยะเวลาอั้นให้ได้นานที่สุด แต่บางตัวก็จำเป็น กรมการค้าภายในช่วยดูลึกลงไปในรายละเอียด เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขณะนี้ยังไม่มีการอนุมัติให้สินค้ารายการใดปรับราคาขึ้น สำหรับ 18 รายการนี้”
ต้องจับตามองต่อว่าหลังจากนี้ 18 หมวดสินค้านี้จะตรึงราคาไม่ให้ขึ้นไว้ได้นานแค่ไหน เพราะยิ่งตรึงราคาผู้ประกอบการเองก็ยิ่งได้รับผลกระทบ แต่ถ้าไม่ตรึงราคาผู้บริโภคเองก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน