ภาพยนตร์ Batman ทั้งหมด 10 ภาคกับ 6 มนุษย์ค้างคาว อัศวินรัตติกาลจากนักแสดงคนไหนที่รับบทแบทแมน กวาดรายได้สูงสุดใน Box Office
Tha Batman ภาพยนต์ภาคล่าสุดของมนุษย์ค้างคาว ที่ได้โรเบิร์ต แพตทินสัน (Robert Pattinson) มารับบทบรูซ เวย์น ซึ่งทางค่าย Warner Bros. เจ้าของ The Batman คาดการณ์ว่านี่จะเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ระดับบล็อกบัสเตอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี
โดยล่าสุดทางบ็อกซ์ออฟฟิศ (Box Office) เปิดรายได้ของ The Batman ประจำวันที่ 12 เม.ย. กวาดรายได้ทั่วโลกไปแล้วมากกว่า 736.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (24,690 ล้านบาท)
แล้วที่ผ่านมา แบทแมนรุ่นพี่ที่ออกมาก่อนหน้านี้อีก 5 คน ทำรายได้ไปเท่าไหร่กันบ้าง
5. จอร์จ คลูนีย์ (George Clooney)
1997 - "Batman and Robin"
บ็อกซ์ออฟฟิศ: 107.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ปรับอัตราเงินเฟ้อแล้ว: 214.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
"Batman and Robin" แบทแมนภาคต่อของผู้กำกับ โจเอล ชูมัคเกอร์ (Joel Schumacher) ที่ได้จอร์จ คลูนีย์ มารับบทแทน วาล คิลเมอร์ ขนทัพวายร้ายมาเต็มอย่าง มิสเตอร์ฟรีซ (Mr. Freeze) ที่ได้ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ (Arnold Schwarzenegger) และ อูมา เธอร์แมน (Uma Thurman) ในบท พอยซั่นไอวี (Poison Ivy)
แม้จะมีกองทัพดารามากมาย แต่ก็ยังแบกเอาไว้ไม่อยู่และถูกตัดสินว่า เป็นภาพยนตร์แบทแมนที่แย่ที่สุด (และเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่แย่ที่สุดที่เคยทำมาเช่นกัน) มีคะแนนเพียง 12% ในเว็บไซต์รีวิว Rotten Tomatoes ขนาดเจ้าตัว จอร์จ คลูนีย์ เองยังเคยพูดติดตลกว่า เขาทำลายแฟรนไชส์แบทแมน
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :
4. วาล คิลเมอร์ (Val Kilmer)
1995 - "Batman Forever"
บ็อกซ์ออฟฟิศ: 184.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ปรับอัตราเงินเฟ้อแล้ว: 387.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
"Batman Forever" ที่ วาล คิลเมอร์ เล่น เป็นแบทแมนอีกหนึ่งภาคที่มีเพียงภาคเดียว แม้ว่าคะแนนวิจารณ์ใน Rotten Tomatoes จะไม่ค่อยสู้ดีเท่าไร ได้ไปเพียง 39% แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า "Batman Forever" เป็นภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์อันดับ 1 ในปี 1995 ด้วยรายได้ที่มากกว่า "Apollo 13" , "Toy Story" และ "GoldenEye" ที่มาในปีเดียวกัน
3. เบน แอฟเฟล็ก (Ben Affleck)
2016 - "Batman v Superman: Dawn of Justice"
2017 - "Justice League"
บ็อกซ์ออฟฟิศ: 559.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ปรับอัตราเงินเฟ้อแล้ว: 583.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
แบทแมนของ เบน แอฟเฟล็ก ค่อนข้างแตกต่างจากอัศวินรัตติกาลคนอื่น ๆ เนื่องจาก เบน แอฟเฟล็ก ไม่ได้มีภาพยนตร์เดี่ยวเป็นของตัวเอง แต่กลับมาเป็นคณะ กับ Justice League
เบน แอฟเฟล็ก แสดงในภาพยนตร์สองเรื่อง "Batman v Superman: Dawn of Justice" และ "Justice League" เฉลี่ยแล้วกวาดรายได้ไปต่อเรื่องอยู่ที่ 291.85 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เบน แอฟเฟล็ก จะกลับมารับบทเป็นแบทแมนอีกครั้งใน "The Flash" ปีนี้ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ตัวตัวเอ่ยปากว่า "สนุกจริงๆ" The Flash มีกำหนดฉาย 4 พ.ย. นี้
2. ไมเคิล คีตัน (Michael Keaton)
1989 - "Batman"
1992 - "Batman Returns"
บ็อกซ์ออฟฟิศ: 415.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ปรับอัตราเงินเฟ้อแล้ว: 939.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ไมเคิล คีตัน ผู้บุกเบิกมนุษย์ค้างคาวฉบับจอเงิน ด้วย "Batman" ในปี 1989 ภายใต้การกำกับของทิม เบอร์ตัน (Tim Burton) ได้สร้างความตื่นเต้นให้แก่ผู้ชมอย่างมาก และใน "Batman Returns" ภาคต่อที่ดังยิ่งกว่าเก่า กระแสตอบรับดีมาก ๆ จนกลายอันดับหนึ่งใน Box Office ของปี 1992
แม้ภายหลัง ไมเคิล คีตัน จะไม่ได้รับบทบรูซ เวย์น มานานรวม 30 ปี แล้วหันไปโลดแล่นอยู่ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (Marvel Cinematic Universe: MCU) ในบทของ เอเดรียน ทูมส์ (Adrian Toomes) หรือ วัลเจอร์ (Vulture) ในไอ้แมงมุม (Spider-Man) แทน
แต่ในปีนี้ เช่นเดียวกับเบน แอฟเฟล็ก ทางไมเคิล คีตันจะกลับไปเป็นแบทแมนอีกครั้งใน "The Flash"
1. คริสเตียน เบล (Christian Bale)
2005 - "Batman Begins"
2008 - "The Dark Knight"
2012 - "The Dark Knight Rises"
บ็อกซ์ออฟฟิศ: 1,190 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ปรับอัตราเงินเฟ้อแล้ว: 1,490 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
คงไม่มีอะไรให้พูดถึงมากนักสำหรับแบทแมนไตรภาคฉบับเฮียคริสเตียน เบล ที่ได้ป๋าคริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) มากำกับ เพราะเชื่อได้ว่าทุกคนน่าจะมีภาพจำของมนุษย์ค้างคาวฉบับนี้มากที่สุด ซึ่งเป็นการรีบูทแบทแมนใหม่ล้างภาพจำของโจเอล ชูมัคเกอร์ เสียใหม่
โดย "The Dark Knight" ภาคสองของแบทแมนจากคริสโตเฟอร์ โนแลนด์ เป็นภาพยนตร์ที่ได้คะแนนใน IMDb ไปถึง 9.1 คะแนน อยู่อันดับสองที่ได้คะแนนสูงที่สุด เป็นรองก็แค่ The Shawshank Redemption ที่ได้ไป 9.3 คะแนน
ทั้งหมดนี้ก็เป็นการทำรายได้ของภาพยนตร์แบทแมนทั้งหมด 10 เรื่อง จาก 6 นักแสดง จะเห็นได้ว่าแม้ "Batman" และ "Batman Returns" ในปี 1989 และปี 1992 ของไมเคิล คีตัน จะเก่า ก็ทำรายได้อย่างสวยงาม มีชัยเหนือแบทแมนของโจเอล ชูมัคเกอร์ รวมถึงแบทแมนฉบับเบน เอฟเฟล็ก ด้วย รายได้เฉลี่ยต่อเรื่องอยู่ที่ 469.55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
น้อยกว่าแบทแมนของคริสเตียน เบล อยู่เพียงนิดเดียว รายได้เฉลี่ยแบทแมนไตรภาคของคริสโตเฟอร์ โนแลนด์อยู่ที่ 496 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ในขณะที่แบทแมนของโรเบิร์ต แพตทินสัน ที่ได้ แมตต์ รีฟส์ (Matt Reeves) มานั่งแท่นกำกับ ภาพยนตร์ยาวกว่า 2 ชั่วโมง 56 นาที เปิดตัวมาแล้วกว่า 39 วัน ทำรายได้ทะลุ 736 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ก็คงหนีไม่พ้นที่จะเรียกว่าเป็นผู้ชนะในศึกอัศวินรัตติกาล เพราะอย่าลืมว่า The Batman เข้าฉายในระหว่างที่มีการแพร่ระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนา (โควิด-19) อยู่ด้วย