ย้อนรอย Batman ว่า 33 ปีที่ผ่านมา แบทแมนฉบับไลฟ์แอคชั่นกับ 6 อัศวินรัตติกาลแห่งเมืองก็อตแธมซิตี้ เป็นอย่างไรบ้าง
ปฏิเสธไม่ได้ว่า เจ้ามนุษย์ค้างคาว หรือ แบทแมน (Batman) เป็นหนึ่งในซูเปอร์ฮีโร่ที่โด่งดังและเก่าแก่มากที่สุดตัวหนึ่ง แม้อาจไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่คนแรกที่โลกรู้จักอย่าง ซูเปอร์แมน (Superman) ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1938 แต่ Batman ก็ตีพิมพ์ในปีถัดมา ปี 1939
ทว่า Batman เป็นซูเปอร์ฮีโร่คนแรกที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็นฉบับไลฟ์แอคชั่น หรือ คนแสดงจริง
วันนี้เราจะมาย้อนประวัติของมนุษย์ค้างคาวกัน ว่า 33 ปีที่ผ่านมา กับ 6 อัศวินรัตติกาลเป็นอย่างไรบ้าง (นับเฉพาะฉบับภาพยนตร์)
คนที่ได้เป็น Batman คนแรกคือ ลูวิส วิลสัน (Lewis Wilson) ที่มีมาตั้งแต่ในปี 1944 ซึ่งเป็นทีวีซีรีส์ มีชุดเป็นลักษณะผ้ายืดคล้ายกับต้นแบบในฉบับคอมมิค
ถัดมาอีก 22 ปี ในปี 1966 ถือเป็น Batman ที่คนทั่วโลกรู้จักมากที่สุด รวมถึงถือว่าเป็นฉบับทางการมากของลูวิส วิลสัน โดยในครั้งนี้ได้ อดัม เวสท์ (Adam West) มารับบทเป็น Batman ออกอากาศไปถึง 120 ตอน
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Batman ฉบับทีวีซีรีส์ในปี 1966 คือ โจ๊กเกอร์ (Joker) ตัวละครคู่ปรับตลอดกาลของ Batman ที่ได้ ซีซาร์ โรเมโร (Cesar Romero) นักแสดงผู้มีหนวดเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งใช้การแต่งหน้ากลบหนวดเอา แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ยังสังเกตเห็นได้อยู่ดี
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :
Batman ได้ขึ้นจอเงินเป็นครั้งแรกในฉบับของ ไมเคิล คีตัน (Michael Keaton) ในชื่อเรื่อง Batman ปี 1989 และปี 1992 ในชื่อ Batman Returns ทั้งสองภาคนี้ ได้ทิม เบอร์ตัน (Tim Burton) มาเป็นผู้กำกับ ภาพยนตร์จึงมีกลิ่นอายตามสไตล์ทิม เบอร์ตัน กล่าวคือ มีความเซอร์เรียล มีความเป็นการ์ตูน ๆ นิด แต่ทำให้ผู้ชมเชื่อและอินไปกับตัวภาพยนตร์ได้อย่างน่าทึ่ง
ซึ่งในความเซอร์เรียลของ Batman ของทิม เบอร์ตันทั้งสองภาค คือเรื่องการจัดเซ็ตติ้งและตัวร้าย โดยในภาคแรก Batman มีโจ๊กเกอร์ (Joker) เป็นตัวชูโรง ได้ป๋าแจ็ค นิโคลสัน (Jack Nicholson) มาเล่น และใน Batman Returns ได้ แดนนี่ เดวิโต้ (Danny DeVito) มารับบทแพนกวิ้น (Panguin)
นอกจากนี้ Batman ของทิม เบอร์ตัน เป็นครั้งแรกที่แบทแมนนำอายชาโดว์มาทารอบดวงตาให้เป็นสีดำเพื่อกลืนไปกับชุดสีดำ และกลายเป็นขนบทำเนียบของมนุษย์ค้างคาวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
หลังจากจบ Batman ของทิม เบอร์ตัน ไป ก็มาถึง Batman ของโจเอล ชูมัคเกอร์ (Joel Schumacher) อีก 2 ภาค อย่าง Batman Forever ในปี 1995 และ Batman & Robin ในปี 1997 ซึ่งทั้งสองภาคนี้ ได้นักแสดงมารับบทหนุ่มเพลย์บอย บรูซ เวย์น (Bruce Wayne) ที่แตกต่างกัน
โดย Batman Forever ได้วาล คิลเมอร์ (Val Kilmer) มาแสดง และ ใน Batman & Robin ได้จอร์จ คลูนีย์ (George Clooney) มาทำหน้าที่แทนวาล คิลเมอร์ ที่ตัดสินใจไม่ไปต่อกับโจเอล ชูมัคเกอร์
ซึ่ง Batman ทั้งสองภาคของโจเอล ชูมัคเกอร์ มีความเป็นแฟนตาซีที่มากขึ้นจากของทิม เบอร์ตัน อยู่พอสมควร และอีกสิ่งหนึ่งที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงคือสีสันที่ฉูดฉาดเป็นอย่างมาก และชุดแบทสูท (Bat Suit) อันมีเอกลักษณ์ที่มีหัวนมอยู่ในชุดเกราะ กลายเป็นเรื่องด่างพร้อยในวงการ Batman มาจนถึงปัจจุบัน
พูดได้ว่า Batman ฉบับโจเอล ชูมัคเกอร์ ได้ขนทัพตัวละครและนักแสดงดังมาเต็ม ใน Batman Forever มีทั้งทูเฟซ (Two-Face) และ Riddle ที่ได้ ทอมมี่ ลี โจนส์ (Tommy Lee Jones) และ จิม แคร์รี่ย์ (Jim Carrey) มารับบทโดยลำดับ
ในขณะที่ Batman & Robin ได้ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ (Arnold Schwarzenegger) กับ อูมา เธอร์แมน (Uma Thurman) มาเล่นมิสเตอร์ฟรีซ (Mr.Freeze) และพอยซั่นไอวี (Poison Ivy)
เกร็ดเล็กน้อย ภาพยนตร์ทั้งสี่ภาคของ Batman ทั้งฉบับของทิม เบอร์ตัน และโจเอล ชูมัคเกอร์ ได้ไมเคิล กอฟ (Michael Gough) มาเป็น อัลเฟรด (Alfred) พ่อบ้านที่แสนดีแห่งตระกูลเวย์น
ผ่านไป 8 ปี ก็มาเริ่มตำนานบทใหม่ กับ Batman Begins ต่อด้วย The Dark Knight และ The Dark Knight Rises ในปี 2005 , 2008 และ 2012 ตามลำดับ ภาพยนตร์มนุษย์ค้างคาวไตรภาคของคริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) มานั่งแท่นผู้กำกับ และได้คริสเตียน เบล (Christian Bale) มารับบทบรูซ เวย์น หนุ่มเพลย์บอยผู้มีปมในใจตั้งแต่เยาว์วัย
แม้ Batman ไตรภาคของเฮียคริสโตเฟอร์ โนแลน จะดีทุกภาค แต่ต้องยอมรับว่า The Dark Knight หรือ Batman ภาคที่สองเป็นภาคที่ดีที่สุด โดยได้คะแนนไปถึง 9.1 ใน IMDb สูงที่สุดเป็นรองก็แค่ The Shawshank Redemption ที่ได้ไป 9.3 คะแนน
เชื่อว่า The Dark Knight ยังคงเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ตราตรึงใจของใครหลาย ๆ คน ด้วยการแสดงของฮีธ เลดเจอร์ (Heath Ledger) นักแสดงผู้ล่วงลับ แต่ทิ้งผลงานที่ดีที่สุดในชีวิต กับบทของ Joker ซึ่งได้รับรางวัลออสการ์ด้วย
เมื่อทางค่ายวอร์เนอร์บราเธอส์พิคเจอร์ส (Warner Bros. Pictures) ที่ถือลิขสิทธิ์ดีซีคอมมิคส์ (DC Comics) อยู่ เห็นความสำเร็จของมาร์เวลคอมมิคส์ (Marvel Comics) ของวอลต์ ดิสนีย์ (Walt Disney) จึงเร่งทำจักรวาลภาพยนตร์ดีซี (DC Extended Universe) ออกมาบ้าง
ด้วยการเปิดให้ Batman มาชนกับ Superman เลยใน Batman v Superman: Dawn of Justice ปี 2016 ภายใต้การกำกับโดย แซ็ค สไนเดอร์ (Zack Snyder) ตามด้วย Justice League ปี 2017 ซึ่งได้ เบน แอฟเฟล็ก (Ben Affleck) มารับบท Batman
แต่ด้วยความเร่งรัดที่อยากจะเปิดจักรวาลเร็ว ๆ เพื่อให้ตามทันจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (Marvel Cinematic Universe: MCU) ทำให้จักรวาลดีซีล้มไม่เป็นท่า
แม้แซ็ค สไนเดอร์ พยายามจะกลับมาแก้เกมด้วย Zack Snyder's Justice League ในปี 2021 ซึ่งควรจะเป็นไปอย่างที่ Justice League ควรจะเป็น แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว เพราะ เบน แอฟเฟล็ก ได้ขอถอนตัวจากโปรเจ็ค Batman แล้ว
ล่าสุด ปีนี้ 2022 กับภาพยนตร์เดี่ยวในรอบ 10 ปีของ Batman ใน The Batman ได้ โรเบิร์ต แพตทินสัน (Robert Pattinson) มาแสดง และอยู่ภายใต้การดูแลของ แมตต์ รีฟส์ (Matt Reeves) รีบูทเรื่องราวของมนุษย์ค้างคาวครั้งใหญ่ และย้ำเตือนถึงความเป็นสุดยอดซูเปอร์ฮีโร่ของ Batman ที่ไม่ใช่อุปกรณ์สุดไฮเทค หรือ "ฉันรวย" (I'm Rich) แต่เป็นความเป็นสุดยอดนักสืบ และผู้ชายคนหนึ่งที่ต้องการหาคำตอบกับนิยามของการเป็น Batman
แมตต์ รีฟส์ ย้ำว่า บรูซ เวย์น หรือ Batman ใน The Batman จะมีความเป็นมนุษย์มากยิ่งขึ้น มากกว่าครั้งใด ๆ ที่เคยผ่านมา
สามารถไปรับชม The Batman ได้แล้ววันนี้ ทุกโรงภาพยนตร์