น้ำท่วม พายุโนรู กับ ยาสามัญประจำบ้าน ที่ต้องมีติดตู้สู้ภัยพายุฝน

หน้าฝนปี 2565 นี้นอกจากลุ้นว่าจะมีน้ำท่วมเหมือนอุทกภัยปี 2554 หรือไม่แล้วยังต้องคอยจับตาพายุโนรู ที่ทำท่าว่าจะมีกำลังแรงทำให้เกิดน้ำท่วมได้ในหลายพื้นที่ของไทย รวมทั้งกรุงเทพฯ 
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• แม่ ณเดชน์ คูกิมิยะ เผยภาพน้ำท่วมบ้านที่ขอนแก่น หลังพายุเข้าไทย ทำฝนตกหนัก

• เปรียบเทียบ น้ำท่วมปี 2554 และ 2565 ต่างกันอย่างไรบ้าง ปีนี้จะท่วมหรือไม่

• อ.เสรีเผย ในอนาคตพายุไต้ฝุ่นมีโอกาสกลายเป็นพายุซูเปอร์ไต้ฝุ่นได้ง่าย

และปัจจัยปริมาณฝนสะสมในปีนี้ที่เพียงเดือนกันยายนอย่างเดียวมีปริมาณมากที่สุดในรอบ 30 ปีเลยทีเดียว ดูท่าว่าเราจะยังอยู่กับฝนฟ้า พายุโนรูกันไปอีกตลอดหน้าฝนจนถึงเดือนตุลาคม การตระเตรียมหาเสื้อผ้าและยาที่จำเป็นติดตู้ไว้ ก็จะช่วยให้อุ่นใจได้ไม่น้อย 

สำหรับโรคที่มักพบได้บ่อยในช่วงหน้าฝนประกอบด้วย 

• ไข้หวัดใหญ่ เกิดจากเชื้อไวรัส
• ไข้หวัดธรรมดา เนื่องจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียในอากาศ
• โรคต่อมทอนซิลอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อทางระบบหายใจ
• โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน เนื่องจากรับประทานอาหารที่ไม่สะอาด ปนเปื้อน
• โรคเยื่อบุตาอักเสบ ติดเชื้อไวรัสทำให้ตาแดง
• โรคไข้เลือดออก มียุงลายเป็นพาหะแพร่พันธุ์
• โรคฉี่หนู ติดเชื้อทางบาดแผล

ส่วนยาสามัญประจำบ้านเบื้องต้นที่ควรหาซื้อมาติดตู้ไว้มี ดังนี้ 

• ผงน้ำตาลเกลือแร่ ชดเชยการสูญเสียน้ำเนื่องจากท้องเสีย
• ยาเม็ดผงถ่านคาร์บอน สำหรับดูดซับสารพิษ 
• ยาลดไข้ ยาแก้แพ้ ต้องรับประทานทุกๆ 6 ชั่วโมงเป็นเวลา 3-4 วัน ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นอาจเป็นเพราะมีโรคอื่นร่วมควรไปพบแพทย์

แต่ถ้าใครที่ต้องลุยน้ำท่วมในช่วงนี้ต้องระวังน้ำสกปรก หลังจากที่กลับถึงบ้านให้ล้างเท้าด้วยสบู่ทันที หรือ ถ้าใครอยู่ในพื้นที่เสี่ยงก็ควรหารองเท้าบู๊ทที่เหมาะกับการลุยน้ำ ช่วยลดความอับชื้นที่อาจนำไปสู่ปัญหาการเกิดเชื้อราได้ ซึ่งรักษาได้ด้วยครีมฆ่าเชื้อรา ทาทั้งเช้าเย็น

โดย รศ.ภญ.ดร.ณัฏฐดา อารีเปี่ยม จากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลไว้ว่า ถ้ารักษาเชื้อราจนไม่รู้สึกคันหรือไม่มีรอยทิ้งไว้แล้ว ก็ยังต้องทายาต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อให้หายสนิท แต่ถ้าทาต่อเนื่องนานเกินสองสัปดาห์แล้วยังไม่ดีขึ้น ยิ่งมีอาการคันมากกว่าเดิม ควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อหาที่มาที่ชัดเจน 

ที่มา

Rama

Thaihealth