การประท้วงต่อต้านการก่อรัฐประหารเมียนมา นับวันยิ่งมีเหตุสะเทือนใจรายวัน โดยเฉพาะกรณีโศกนาฏกรรมครั้งล่าสุด เด็กญิงอายุ 7 ปี ในเมืองมัณฑะเลย์ ถูกลูกหลงจนเสียชีวิต ก่อนที่ผู้ประท้วงชาวเมียนมาจะวางแผนประท้วงด้วยความเงียบ ยุติการดำเนินธุรกิจทุกอย่าง ไม่ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านใดๆ ในวันนี้ (24 มี.ค) เพื่อให้เมียนมากลายเป็นเมืองร้าง
รายงานข่าวหลายสำนัก รายงานว่านักเคลื่อนไหวในเมียนมา วางแผนยกระดับการประท้วงต่อต้านรัฐประหารในวันนี้ (24 มี.ค) ซึ่งรวมถึง การประท้วงด้วยความเงียบ (Silent Strike) กล่าวคือผู้ประท้วงให้สถานประกอบการและธุรกิจต่าง ๆ หยุดดำเนินการ ไม่ออกไปบนท้องถนนหรือตามสถานที่ต่างๆ โดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อเป็นแนวทางในการประท้วงแบบสงบและให้ภาพที่ออกมาต่อสายตาประชาคมโลก ให้ได้มองเห็นว่า ปัจจุบันเมียนมา ได้กลายเป็นเมืองที่ไร้ชีวิตไปแล้ว
สำหรับการประท้วงที่พลิกโฉมไปในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากเด็กหญิงอายุ 7 ปี เสียชีวิตคาบ้านของตัวเอง เหตุเพราะถูกลูกหลง ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงสาดกระสุนปราบปรามการประท้วงในเมืองมัณฑะเลย์
โดยเมื่อวานนี้ ผู้ประท้วงได้จัดพิธีจุดเทียนในช่วงกลางคืนเพื่อเป็นการไว้อาลัยแก่เด็กหญิงอายุ 7 ปีที่เสียชีวิตลง ซึ่งถือเป็นเหยื่อที่อายุน้อยที่สุดระหว่างการปราบปรามผู้ประท้วง นับตั้งแต่การรัฐประหาร ภายใต้การนำของ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์
ความเคลื่อนไหวประท้วงด้วยความเงียบครั้งนี้เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่นางอองซาน ซูจี มีกำหนดรับฟังการพิจารณาคดีผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ หลังการพิจารณาคดีครั้งก่อนหน้าต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากปัญหาเรื่องอินเทอร์เน็ตที่คณะรัฐประหารเมียนมาพยายามตัดสัญญาณทั่วประเทศ
สิ่งที่เกิดขึ้นในเมียนมาขณะนี้ สะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ที่คณะรัฐประหารเมียนมาพยายามไล่ล่าปราบปรามจับกุมผู้ประท้วง เหมือนนายพรานล่าสัตว์ โดยที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงเป็นฝ่ายไล่ล่าผู้ประท้วงตามท้องถิ่น จนกระทั่งรายงานผู้เสียชีวิต ณ ปัจจุบันพุ่งขึ้นสูงถึง 275 รายแล้ว ส่วนตัวเลขนักเคลื่อนไหวที่ถูกจับกุม เพิ่มขึ้นถึง 2,000 คนแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม นักเคลื่อนไหวสนับสนุนประชาธิปไตยได้เปลี่ยนยุทธวิธีเป็นรูปแบบการประท้วงด้วยความเงียบ ตามที่ปรากฏออกมาสู่สายตาชาวโลก
ส่วน คณะรัฐประหารเมียนมา ยังไม่แสดงท่าที หรือแสดงความเห็นใดๆ ต่อกรณี เด็กหญิง 7 ขวบเสียชีวิต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จากจุดเริ่ม"รัฐประหาร"เมียนมา เบนเป้าไปนักลงทุนต่างชาติ : Whats next?
พม่าเดือด! ม็อบร่วงอีก 38 ศพ พร้อมประกาศกฎอัยการศึกหลายพื้นที่