เส้นทางประวัติศาสตร์ของ เหล้าบ๊วยดอง ที่นอกจากเคียงคู่วัฒนธรรมอาหารของคนญี่ปุ่นมานานนับร้อยปี ยังมีสรรพคุณช่วยถอนพิษในร่างกายและพืชเศรษฐกิจที่สำคัญที่แปรรูปส่งออกไปทั่วโลก
เหล้าบ๊วยดอง หรือ Umeshu (อุเมะชุ) เป็นเหล้าญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ทำจากผล อุเมะ รสชาติที่ดีเกิดจากการบ่มผลไม้ทั้งผลโดยการแช่ในแอลกอฮอล์ประเภทต่างๆ กรดซิตริกในผลไม้ทำให้ได้รสชาติรสชาติทหวานอมเปรี้ยวที่ถูกใจ ในตลาดญี่ปุ่นแบรนด์ Umeshu ระดับพรีเมียมที่มีอายุยาวนานหลายปี ถึงกับผลิตรสชาติและรูปแบบต่างๆ ออกมามากกว่า 300 ชนิด
เหล้าบ๊วยดอง หรือ Umeshu (อุเมะชุ) เป็นเหล้าโฮมเมดที่พบเห็นได้ทั่วไปในบ้านครอบครัวคนญี่ปุ่น บางคนทำเหล้าบ๊วยของตัวเองทุกปีหรือเก็บไว้เพื่อรอเฉลิมฉลองในโอกาสเหตุการณ์สำคัญๆ จากข้อมูลตามประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นและจีน บ๊วยมีสรรพคุณทางยาแก่ร่างกายมากมาย เช่น ในญี่ปุ่น มีสุภาษิตที่กล่าวว่าเหล้าบ๊วยสามารถฆ่าพิษได้ถึงสามชนิด ได้แก่ สารพิษในอาหาร น้ำ และเลือด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประวัติความเป็นมาของอุเมะ และ อุเมะชุ ต้องเดินทางย้อนเวลาไปกว่าพันปีเลยทีเดียว โดยมีที่มาคร่าวๆ ดังนี้
ในรายงานของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว ปี 2018 สรุปว่า ตลาดสินค้าผลไม้แปรรูปมีแนวโน้มที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากหลายปัจจัยเช่น ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรมีน้อยลง ต้นทุนการปลูกสูงราคาสูงแข่งกับราคาสินค้านำเข้าจากต่างประเทศไม่ได้ และไลฟ์สไตล์คนที่เปลี่ยนไป นิยมสินค้าที่ทานง่ายและเก็บได้นาน
บ๊วยแปรรูปเป็นผลไม้ที่มีอิทธิพลกับการบริโภคของคนญี่ปุ่นมานานกว่า 1,500 ปี ด้วยความเปรี้ยวและกรดไซยานิกภายในเมล็ดจึงไม่นิยมนำมาบริโภคแบบสด จึงมีการแปรรูปเป็น น้ำบ๊วย บ๊วยดอง แยมบ๊วยเป็นต้น ซึ่งบ๊วยดองและ เหล้าบ๊วยดอง หรือ Umeshu (อุเมะชุ) ถือได้ว่าเป็นพระเอกที่สุดในกลุ่มสินค้านี้ ในส่วนของเครื่องดื่มสุราและเหล้าบ๊วย ปี 2017 พบว่ามีการเติบโตเพิ่มขึ้่นถึงเกือบ 20%
โดยปัจจัยและกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญของตลาด เหล้าบ๊วยดอง หรือ Umeshu (อุเมะชุ) ญี่ปุ่นคือ กลุ่มสตรีวัยทำงานและกระแสรักสุขภาพที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2004 จนเมื่อถึงจุดอิ่มตัวในประเทศจึงหาตลาดใหม่ในต่างประเทศเพื่อขยายการส่งออกเริ่มตั้งแต่ปี 2015 ด้วยปัจจัยแวดล้อมที่ประกอบด้วย
โดยความนิยม เหล้าบ๊วยดอง หรือ Umeshu (อุเมะชุ) นี้ทำให้ผู้ประกอบการญี่ปุ่นหลายรายหันมาปลูกบ๊วยและแปรรูปในต่างประเทศที่มีแนวโน้มตลาดที่ดี เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่งและภาษีนำเข้า เช่น ในประเทศไทย จีน อเมริกา และเยอรมัน เป็นต้น ซึ่งต้องควบคุมมาตราฐานการผลิตและค้นหารสชาติที่ถูกใจผู้บริโภคที่แตกต่างกัน
ทั้งนี้ส่วนหนึ่งที่ทำให้วัฒนธรรมญี่ปุ่นแพร่หลายและแทรกซึมไปทั่วโลกก็มาจากสื่อภาพยนตร์ รายการทีวี และอาหาร ที่สอดรับส่งเสริมกัน โดยกฏหมายญี่ปุ่นเกี่ยวกับการควบคุมสุรา ก็ไม่ได้เข้มงวดแบบไทยสามารถซื้อและโฆษณาเหล้าเบียร์ได้ปกติ ไม่มีการเซ็นเซอร์เครื่องดื่มในสื่อต่างๆ กลายเป็นว่ายิ่งวัฒนธรรมการดื่มเข้มแข็งและเป็นธรรมชาติมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งส่งเสริมเศรษฐกิจและการส่งออกของประเทศ
คลิปจากซีรี่ย์เรื่อง Midnight Diner Tokyo Stories S1E6: Umeshu / Plum Wine
คลิปจากภาพยนตร์เรื่อง Our Little Sister (2016)
เรื่องราวของสี่สาวพี่น้อง ที่ในซีนหนึ่งมีการดื่มเหล้าบ๊วยดอง เพื่อฉลองที่น้องสาวทำคะแนนสอบได้ดี
ยังไม่พอแค่นั้น ความฮอตฮิต ของ อุเมะ ถูก Nestle นำไปผลิตเป็น คิทแคท รส อุเมะชุ
KIT KAT รสใหม่ Umeshu เหล้าบ๊วยหอมหวาน รสนี้ผสมแอลกอฮอลล์จ้า จะเริ่มวางขาย 18 ก.ย. นี้ที่ร้านขายของฝากทั่วไปในญี่ปุ่น#รีวิวญี่ปุ่น pic.twitter.com/9vNzefLqkN
— พี่แป้ง คิราริ 🌸 キラリ (@Kirarista) September 7, 2018
โดยบทความจาก Forbes ในปี 2018 แสดงให้เห็นว่า เหล้าบ๊วยดอง หรือ Umeshu (อุเมะชุ) กำลังจะกลายเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของญี่ปุ่นในอนาคต แซงหน้า สาเก ด้วยข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจสหภาพยุโรป-ญี่ปุ่น (EPA) ได้กำหนดอัตราภาษีศุลกากรสำหรับสุราญี่ปุ่นเป็นศูนย์ ซึ่งช่วยกระตุ้นยอดขายเครื่องดื่มในยุโรป ตามรายงานของสำนักงานภาษีแห่งชาติของญี่ปุ่น (NTA) ระบุว่าการส่งออกสุราซึ่งหลักๆ แล้ว umeshu มีค่อนข้างมากกว่านั้นเพิ่มขึ้นสองเท่าจาก 1.84 พันล้านเยน (18 ล้านดอลลาร์) เป็น 4.21 พันล้าน (38 ล้านดอลลาร์) ระหว่างปี 2554 ถึง 2559 นอกจากนี้ NTA ระบุว่า umeshu เป็นที่นิยมอย่างมากในไต้หวัน ฮ่องกง และค่อยๆ เป็นที่นิยมในฝั่งตะวันตก ในฮ่องกง เครื่องดื่มเป็นที่นิยมมากในหมู่หญิงสาว
ซึ่งก็หน้าแปลกใจว่าทำไมเมืองไทยมีกฏหมายที่เข้มงวดตั้งแต่การผลิตจนถึงยกเครื่องดื่มเข้าปากแต่สถิติการเกิดเหตุ เมาแล้วขับ กลับสูงกว่าประเทศที่สามารถดื่มได้ในที่สาธารณะ เช่น ญี่ปุ่น
ทิ้งท้ายเป็นเกร็ดความรู้เกี่ยวกับ เหล้าบ๊วยดอง หรือ Umeshu (อุเมะชุ)
ที่มา