คลายสงสัย ซาอุดีอาระเบีย ปูพรมสีม่วงต้อนรับ “บิ๊กตู่” บ่งบอกเอกลักษณ์ชาติ
หลายคนตั้งคำถาม ทำไม? ซาอุดีอาระเบีย ใช้พรมสีม่วงปูต้อนรับนายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งปกติเราจะเห็นพิธีสำคัญใหญ่ๆ มักจะเห็นการปูด้วย “พรมแดง” แท้จริงแล้วมีนัยยะบ่งบอกเอกลักษณ์ชาติ และการต้อนรับอย่างอบอุ่น
เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยสำหรับภาจกิจครั้งประวัติศาสตร์ เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เดินทางไปพบกับผู้นำระดับสูงของประเทศซาอุดีอาระเบีย อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 25 – 26 มกราคม 2565 ถือว่าเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์ ในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมาแนบแน่นอีกครั้ง หลังจากนับตั้งแต่ปี 2532 ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย ย่ำแย่ลงอย่างต่อเนื่อง
แน่นอนที่สุดเมื่อจบภารกิจหลักหลายคนมักจะมีการวิเคราะห์องค์ประกอบและท่าทีต่างๆ นอกเหนือจากสาระหลักในการพบปะหารือ ไม่ว่าจะเป็นท่าทางการทักทาย ลักษณะการนั่ง หรือแม้แต่พรมที่ใช้ปูรับแขกวีไอพี ที่ตามปกติแล้วเรามักจะเห็น “สีแดง” ซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ครั้งนี้ ซาอุดีอาระเบีย ใช้พรมสีม่วงในการต้อนรับ มีความหมายอย่างไร วันนี้ SPRiNG มีคำตอบมาฝาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทำไมต้องปูพรมสีม่วง
เมื่อปีที่แล้วนี้เอง ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยกระทรวงวัฒนธรรมได้ประกาศอย่างเป็นทางการใช้ “พรมสีม่วง” แทน “พรมสีแดง” แบบดั้งเดิมทั้งในงานพระราชพิธีสำคัญและในการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ดังนั้นไม่ว่าจะในสนามบิน ทำเนียบรัฐบาล หรือในพระราชวัง จะถูกประดับตกแต่งด้วยสีม่วงเป็นหลัก
ความหมายของสีม่วง
ซาอุดีอาระเบีย นิยมดอกไม้สีม่วง โดยเฉพาะดอกลาเวนเดอร์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับดอกไม้ป่าที่จะเบ่งบานปกคลุมภูมิทัศน์ทะเลทรายของซาอุดีอาระเบียในฤดูใบไม้ผลิ เป็นการเพิ่มสีสันให้กับภูมิทัศน์ทะเลทรายที่ดูโหดร้าย ด้วยความสวยงามและอ่อนโยนของดอกไม้ และยังเปรียบได้ถึงความแข็งแกร่ง และความงามโดยธรรมชาติของดอกไม้ที่เบ่งบานท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ดูจะไม่เอื้ออำนวยหรือไม่เหมาะสม ถูกมองว่าเป็นคำอุปมาสำหรับความยืดหยุ่นของประเทศซาอุดีอาระเบีย
พรมลาเวนเดอร์สีม่วง
ซาอุดีอาระเบีย ขึ้นชื่อเรื่องการถักทอหัตถกรรม การทอผ้า ซึ่งยูเนสโกได้ยกให้เป็น 1 ในรายการมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ดังนั้น พรมลาเวนเดอร์ลวดลายซาดูดั้งเดิม ซึ่งทำสืบเนื่องกันมานานจากงานฝีมือของชาวเบดูอิน จึงถูกนำมาประดับตกแต่งทั้งภายในและภายนอก รวมถึงพิธีการสำคัญๆ เพื่อต้อนรับผู้มีเกียรติที่มาเยี่ยมเยียนซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการต้อนรับอันอบอุ่น ยินดีและความเอื้ออาทรของซาอุดีอาระเบีย
สื่อความหมายมุ่งไปสู่อนาคต
ความคิดริเริ่มในการเปลี่ยนสีนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมและพิธีสาร สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งขับเคลื่อนโดยวิสัยทัศน์ 2030 และแรงบันดาลใจสำหรับอนาคตที่จะนำประเทศก้าวไปข้างหน้า และเน้นให้เห็นถึงความสำคัญของเอกลักษณ์ประจำชาติ ที่จะโอบรับและส่งเสริมสัญลักษณ์ประจำชาติของซาอุดีอาระเบียและแนะนำให้โลกรู้จัก ซึ่งได้มีการตีพิมพ์คู่มือการจัดหางานศิลปะสำหรับหน่วยงานและสถาบันของรัฐด้วย
อ้างอิง : คู่มือการจัดหางานศิลปะสำหรับหน่วยงานและสถาบันของซาอุดีอาระเบีย
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีของไทย ก็ได้ผูกเนคไทระหว่างการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย เช่นเดียวกัน โดยนางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ทวีตข้อความระบุว่า
“ทำไมเนคไทม่วง? สีม่วงเป็นสีที่ใช้ตามวัฒนธรรมของ #ซาอุดีอาระเบีย สีม่วงดอกลาเวนเดอร์ซึ่งงอกงามอยู่บนทะเลทรายของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียในยามมีฝนโปรย เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญงอกงามในทะเลทราย”
การเดินทางไปเยือนซาอุดีอาระเบียของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ นอกจากจะได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติในฐานะผู้นำประเทศ และการฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่เป็นรอยร้าวมานานกว่า 33 ปีแล้ว เรายังได้เห็นวิสัยทัศน์ความมุ่งมั่นของซาอุดีอาระเบีย ที่จะแสดงอัตลักษณ์และวิสัยทัศน์ของตนเอง ในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ ผ่านวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของประเทศ ซึ่งจะสามารถสร้างความภาคภูมิใจและความเชื่อมั่นของประชาชนได้อีกทางหนึ่ง
