ย้อนรอยความเป็นมาของอดีตพระยันตระ ตั้งแต่เป็นพระชื่อดัง ก่อนถูกแฉ ล่วงละเมิดสีกา กระทั่งหลบหนีออกนอกประเทศ ไปใช้ชีวิตที่สหรัฐฯ เกือบ 30 ปี
จากกรณีที่ อดีตพระยันตระเดินทางกลับไทย และได้จัดงานวันคล้ายวันเกิด 70 ปี โดยในงานดังกล่าวมีพระสงฆ์เข้าร่วม และได้ก้มกราบอดีตพระยันตระ ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างอย่างมาก
โดยคดีของอดีตพระยันตระ เคยเป็นข่าวโด่งดังเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว SpringNews ขอนำเรื่องราวของเขาและคดีดังกล่าว มาสรุปให้ ดังต่อไปนนี้
1. ฤๅษียันตระ
อดีตพระยันตระ เดิมมีชื่อว่า วินัย ละอองสุวรรณ เกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2494 ในขณะที่กำลังศึกษาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง อายุประมาณ 18 ปี ก็รู้สึกเบื่อหน่ายทางโลก จึงตัดสินใจเดินทางมาใช้ชีวิตเยี่ยงฤๅษีที่เกาะเสม็ด และเป็นที่รู้จักในนาม ฤๅษียันตระ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศรีสุวรรณ ร้องมหาเถรฯ-สำนักพุทธฯ เอาผิด “อดีตพระยันตระ” อ้างตนยังเป็นพระ
เปิดใจ ศรีสุวรรณ จรรยา ไม่แคร์ถูกแซะว่า นักร้อง ลั่น “ถ้าไม่ถูกต้อง ผมซัดหมด”
ศรีสุวรรณ ร้อง ป.ป.ท.สอบ ผู้กำกับโจ้ ร่ำรวยผิดปกติ จับพิรุธ ใบรับรองการตาย
2. จากฤๅษี สู่พระวินัย อมโร
หลังจากปฏิบัติตนเยี่ยงอดีตฤๅษีอยู่หลายปี เขาก็ตัดสินใจอุปสมบท ในปี 2517 ที่วัดรัตนาราม อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยได้รับฉายาว่า พระวินัย อมโร แต่มักจะเรียกตัวเองว่า พระยันตระอมโรภิกขุ หรือ พระยันตระ ซึ่งแปลว่า ไกลจากกิเลส และเป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเวลาอันรวดเร็ว
3. พระชื่อดังแห่งยุค
ช่วงประมาณปี 2530 - 2537 หรือในยุค 80 - 90 ก่อนที่อดีตพระยันตระจะขาดจากความเป็นพระ ถือได้ว่าเป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังอันดับต้นๆ หรืออาจจะมากที่สุดในยุคนั้น เนื่องจากภาพลักษณ์ที่มีวัตรปฏิบัติเคร่งครัด รวมถึงคำสั่งสอนลึกซึ้งกินใจ ทำให้มีผู้เลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก มีการตีพิมพ์เผยแพร่คำสอนรวมถึงได้รับนิมนต์ไปเทศนาทั้งในและต่างประเทศ
4. จากพระชื่อดัง ถูกแฉ ล่วงละเมิดสีกา
แต่แล้วในปี พ.ศ. 2537 อดีตพระยันตระก็ถูกฟ้องร้องหลายข้อหา และถูกตั้งอธิกรณ์ว่าล่วงละเมิดเมถุนธรรมปาราชิกาบัติ อันเป็นหนึ่งในจตุตถปาราชิกาบัติที่ทำให้ขาดจากความเป็นพระภิกษุตามพระวินัยบัญญัติ โดยมีการต่อสู้ด้วยพยานหลักฐานมากมาย จนกลายเป็นข่าวที่ดังที่สุดในเวลานั้น
ซึ่งสีกากลุ่มหนึ่งยื่นหนังสือร้องเรียน ต่อสมเด็จพระสังฆราชฯ และอธิบดีกรมการศาสนาว่า อดีตพระยันตระเดินทางไปเทศนาที่ทวีปยุโรป ระหว่างนั้นมีพฤติกรรมไม่สำรวม และไม่เหมาะสมกับสมณเพศต่อสุภาพสตรี
และมีหญิงสาวร้องเรียนว่า ถูกอดีตพระยันตระล่อลวงเสพเมถุน รวมถึงมีเอกสารของหม่อมดุษฎี บริพัตร อดีตโยมอุปัฏฐาก ที่ระบุถึงพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมต่อความเป็นพระสงฆ์ ในขณะเดินทางไปต่างประเทศ
อีกทั้งถูกกล่าวหาว่า มีเพศสัมพันธ์กับสตรีบนดาดฟ้าเรือเดินสมุทรระหว่างทางจากประเทศสวีเดน ไปยังประเทศฟินแลนด์ , จับต้องกายสตรีด้วยความกำหนัด ณ กุฏิริมน้ำ วัดป่าสุญญตาราม ประเทศออสเตรเลีย , เข้าไปหาสตรีในรถตู้ของเธอบนท้องถนนกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย , ร่วมหลับนอนกับสตรี , พร่ำพูดถึงความรักทางโทรศัพท์
และได้มีการเปิดเผยสลิปบัตรเครดิตที่มีโยมอุปัฏฐากบริจาคให้ ซึ่งถูกนำไปใช้ในสถานบริการทางเพศในประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ รวมทั้งหลักฐานการเปิดโรงแรมและเช่ารถร่วมกับสตรีเพียงสองต่อสอง
5. ถูกสีกาแฉ มีบุตรสาวด้วยกัน
ช่วงแรกๆ ที่มีการกล่าวหา สังคมส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยเชื่อนัก กระทั่งมีการขุดคุ้ยอย่างจริงจัง ก็มีหลักฐานต่างๆ โผล่ออกมามากมาย แต่อดีตพระยันตระก็ยังยืนกรานปฏิเสธ
ต่อมาหญิงสาวรายหนึ่ง ได้แสดงหลักฐานเป็นภาพถ่ายการใช้ชีวิตเยี่ยงสามีภรรยา และได้นำเด็กหญิงซึ่งอ้างว่าเป็นบุตรสาวของอดีตพระยันตระมาแสดงตัวต่อหน้าสื่อ พร้อมทั้งท้าให้ตรวจดีเอ็นเอ
6. จาก พระยันตระ กลายเป็น จิ้งเขียว , ยันดะ
แม้จะมีหลักฐานมัดแน่นในหลายกรณี แต่อดีตพระยันตระ ก็ยังคงปฏิเสธ กระทั่งในปี 2537 มหาเถรสมาคมมีมติให้พ้นจากความเป็นพระภิกษุ แต่เขาไม่ยอมรับมติสงฆ์ ด้วยการปฏิญาณตนว่ายังเป็นพระภิกษุ ก่อนเปลี่ยนสีจีวรเป็นสีเขียว ทำให้ถูกสื่อต่างๆ ขนานนามว่า จิ้งเขียว, สมียันดะ, ยันดะ ฯลฯ นอกจากนั้นอดีตพระยันตระ ยังเป็นผู้ต้องหาในคดีก้าวล่วงองค์สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งมีอายุความ 20 ปี
7. ลอบหนีออกนอกประเทศ
แต่เมื่อถูกกระแสสังคมกดันอย่างหนัก รวมถึงมีคดีความต่างๆ มากมาย อดีตพระยันตระจึงลักลอบหลบหนีออกนอกประเทศ ไปยังสหรัฐฯ และได้รับสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง จนถึงปัจจุบัน
8. กลับมาเมืองไทย หลังคดีหมดอายุความ
ในปี 2557 หลังจากคดีความต่างๆ หมดอายุความ โดยเฉพาะคดีก้าวล่วงองค์สมเด็จพระสังฆราช อดีตพระยันตระก็ได้เดินทางกลับประเทศไทย โดยมีผู้ที่ยังคงเลื่อมใสศรัทธามาเยี่ยมเยียนเป็นจำนวนมาก ก่อนเดินทางกลับสหรัฐฯ
และล่าสุด ในเดือนตุลาคม 2564 อดีตพระยันตระก็เดินทางมาประเทศไทยอีกครั้ง โดยได้มีการจัดงานวันคล้ายวันเกิด อายุครบ 70 ปี ซึ่งในงานดังกล่าว ได้มีพระภิกษุเข้าร่วมจำนวนมาก และได้มีภาพก้มกราบอดีตพระยันตระเผยแพร่ออกมา ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างยิ่ง
อ้างอิง
ศรีสุวรรณ ร้องมหาเถรฯ-สำนักพุทธฯ เอาผิด “อดีตพระยันตระ” อ้างตนยังเป็นพระ