"เค วัฒนา" ว่าที่เจ้าบ่าวของ "จั๊กจั่น อคัมย์สิริ" นักแสดงชื่อดัง เปิดใจเคลียร์ประเด็นข่าวร้อน ปฏิเสธเป็นผู้ชายโลก 2 ใบ ยอมรับอดีตเคยผ่านการแต่งงานเมื่อ 10 ปีก่อน แต่จดทะเบียนหย่าแล้วไม่มีพันธะใดๆ
จากข่าวเมาท์สนั่นวงการบันเทิงกับการเผยคีย์เวิร์ดว่า ดาราสาวที่ยอมอยู่ในโลก 2 ใบ เพราะกลัวเสียหน้า ทั้งที่ผู้ชายมีคนรักอยู่แล้วแต่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส
โดยผู้ชายมีฤกษ์แต่งงานกับดาราสาวเป็นที่เรียบ ซึ่งผู้หญิงคนแรกคือคนที่ผู้ชายรัก แต่ดาราสาวร่ำรวย จึงตัดสินใจแต่งงาน อีกทั้งเพื่อนในวงการบันเทิงก็เตือนแต่ดาราสาวไม่ฟัง
และจากข้อมูลดังกล่าว โลกโซเชียลพากันคาดเดา ว่าเป็นนักแสดงสาวสวย จั๊กจั่น อคัมย์สิริ เพราะเธอกำลังจูงมือแฟนหนุ่ม เข้าประตูวิวาห์ในวันที่ 28 พ.ค. นี้
ล่าสุดเมื่อกระแสข่าวเริ่มร้อนแรงและส่อบานปลาย เค วัฒนา ว่าที่เจ้าบ่าวของสาวจั๊กจั่นออกมาเปิดใจกับประเด็นร้อน มีโลก 2 ใบ ผ่านทาง วันบันเทิง ในช่วง เรื่องนี้ต้องถึงบอย ซึ่งสรุปได้ว่า...
- ที่ว่าผมมีโลก 2 ใบไม่เป็นจริง ผมมีโลกใบเดียว คบใครก็เปิดเผย ครอบครัว 2 ฝ่ายรับรู้ ไปมาหาสู่กันปกติ
- เจ้าตัวยอมรับเคยผ่านการแต่งงานมาแล้วเมื่อ 10 ปีก่อน จดทะเบียนหย่า ไม่มีพันธะแล้ว
- ยอมรับว่าไม่สบายใจกับข่าวที่ออกมา ตนได้เล่าเรื่องของตัวเองให้ ฝ่ายหญิงรับรู้ตั่งแต่เริ่มคุยกัน บอกตรง ๆ ว่าเคยผ่านอะไรมา เจออะไรมา ใช้เหตุการณ์ในแต่ละวันเรียนรู้กัน จับมือกันเดินเรื่อย ๆ
-ส่วนกระแสที่มองว่า จั๊กจั่น หลงแฟนนั้น เจ้าตัวบอกว่า จั๊กจั่นไม่ได้หลงใหลอะไรผมเลย ธุรกิจที่ทำมีมาตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นพ่อ กับจั๊กจั่นก็ใช้ชีวิตปกติ เพื่อนจั่นกับเพื่อนผมก็กลุ่มที่เชื่อมกัน ไม่มีอะไรพิเศษมาก ครอบครัวทั้งสองฝ่ายรับรู้ข่าว เราก็อธิบาย คุยด้วยความเข้าใจ ใช้ชีวิตปกติ
-ตอนนี้อยู่เสม็ด ถ่ายพรีเวดดิ้ง มีครอบครัวมาด้วย ถือโอกาสไปเที่ยวด้วย
-กับกรณีที่ถูกมองว่าต้องซุ่มคบกัน 2 ปี เพราะกลัวเรื่องลบ ๆ นั้น เค บอกว่า ไม่ได้จะซุ่มคบกันแต่อย่างใด เป็นไปตามที่ฝ่ายหญิงเคยออกมาบอกว่าที่ผ่านมาก็คบกันเปิดเผย และทั้งสองคนก็เคยผ่านอะไรมาพอสมควร ศึกษากันอย่างธรรมชาติ ถึงเวลาที่เหมาะสมก็ก้าวไปอีกขั้น สร้างครอบครัวด้วยกัน ก็เลยออกมาเปิดตัว
-จั๊กจั่นไม่ได้จิตตกและไม่ได้ตื่นเต้นกับสิ่งที่เกิดขึ้น กับเรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้อธิบายอะไรเยอะ เพราะไม่ใช่เรื่องจริง
-วันแต่งงานยังเป็นวันเดิม ยืนยันไม่มีใครมาแหกในงานแน่นอน อีกคนไม่มีตัวตน อาจจะเข้าใจผิด ทำให้คุยกันปากต่อปาก