คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล มีมติให้จัดพิมพ์สลากแบบรวมชุดขายเอง หวังแก้ปัญหาสลากเกินราคาอย่างยั่งยืน ประเดิมขายงวดแรก 1 มีนาคมนี้
เมื่อวานนี้ (24 มกราคม 2562) เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วย พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า ตามที่คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้วางแนวทางในการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคาไว้ 3 ระยะ คือ ระยะแรกคือการจัดระเบียบและบังคับใช้กฎหมาย ระยะที่ 2 คือ การปรับแผนและกำหนดทิศทางการจำหน่าย ด้วยการจัดระบบการจำหน่ายสลากผ่านโครงการซื้อ-จองล่วงหน้า เป็นการปรับสมดุลปริมาณสลากระหว่างระบบตัวแทนจำหน่ายและระบบการซื้อ-จองล่วงหน้า ทำให้สลากกระจายไปยังผู้จำหน่ายทั่วประเทศ และระยะที่ 3 คือการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม ซึ่งในห้วงระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ลงพื้นที่รับฟังเสียงของประชาชน ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสลาก เกี่ยวกับความต้องการในการซื้อขายสลาก เพื่อรวบรวมไปสู่วิธีการแก้ไขปัญหา จากผลการรับฟังเสียงซึ่งมีความหลากหลายนั้น ส่วนใหญ่ผู้ซื้อต้องการซื้อสลากแบบรวมชุด ผู้ขายจึงต้องไปหาซื้อสลากมารวมชุดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อ ทำให้ต้นทุนการจำหน่ายเพิ่มสูงขึ้น และยังทำให้สลากแบบใบเดี่ยวหายไปจากตลาดด้วย นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของปริมาณสลากรวมชุดที่มีความแตกต่างกัน ทีทั้งแบบ 5 ใบ 3 ใบและ 2 ใบ เป็นต้น
จากข้อมูลของการลงพื้นที่รับฟังเสียงของผู้ซื้อและผู้ขาย ประกอบกับในปัจจุบัน สถานการณ์การจำหน่ายสลากแบบรวมชุดทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งในเรื่องของปริมาณการรวมชุดและเรื่องของราคา จนทำให้การหาซื้อสลากแบบใบเดี่ยวทำได้ยาก เนื่องจากถูกดึงไปรวมชุดเป็นส่วนใหญ่ คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงได้ร่วมกันพิจารณาด้วยความรอบคอบ และคำนึงถึงประโยชน์ต่อผู้ซื้อเป็นสำคัญและในขณะเดียวกันก็ไม่ให้กระทบต่อผู้ขาย จึงมีมติให้ดำเนินการจัดทำสลากแบบรวมชุดขึ้น โดยเป็นการรวมชุดแบบ 2-2-1 คือ การจัดชุด 2 ใบ เป็นจำนวน 2 เล่ม และจัดชุด 2 ใบ อีก 2 เล่ม และมี 1 เล่ม ที่เป็นใบเดี่ยว สำหรับชุด 2 ใบแรก มีเลข 6 หลักเหมือนกัน จำนวน 100 ชุด ชุดละ 2 ใบ และจะมีเลขหมายเลข 6 หลักเหมือนกัน ซึ่งไม่ซ้ำกับชุดแรก อีกจำนวน 100 ชุด ชุดละ 2 ใบ และอีก 1 เล่ม จำนวน 100 ใบ ทำให้รายย่อยแต่ละรายได้รับสลากจำนวน 5 เล่มเช่นเดิม แต่สามารถจำหน่ายสลากชุดได้ 200 ชุด ชุดละ 2 ใบ ซึ่งสามารถแยกขายเป็นใบเดี่ยวได้
นอกจากนี้ จะมีการคละตัวเลขภายในเล่มเดียวกัน และการจัดจำหน่ายเป็นการกระจายไปทั่วประเทศ ทำให้ไม่สามารถนำไปจับชุดเพื่อรวมเป็นชุดจำหน่ายในปริมาณมาก ๆ ได้อีกต่อไป และจะพิมพ์สีที่แตกต่างกันเพื่อเป็นจุดสังเกต เพื่อให้ผู้ขายและผู้ซื้อเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นสลากที่พิมพ์ออกมาเป็นแบบรวมชุด
สลากแบบรวมชุดนี้ จะจำหน่ายในระบบซื้อ-จองล่วงหน้าฯ โดยเริ่มดำเนินการในการทำรายการซื้อ-จองล่วงหน้าฯ ครั้งที่ 81 ซึ่งเปิดให้จองสลากงวดวันที่ 1 มีนาคม 2562 (ทำรายการจองวันที่ 5-6 กุมภาพันธ์ และทำรายการซื้อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562) และจะใช้เวลา 3 เดือนในการประเมินผลการทดลองตลาด
สำหรับการการจัดพิมพ์สลากแบบรวมชุดในลักษณะดังกล่าวนี้ เป็นไปเพื่อเป็นการตอบสนองทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ที่มีความต้องการซื้อขายสลากแบบรวมชุด แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องจำกัดปริมาณในการการรวมชุดไม่ให้มีมากจนเกินไปด้วย.