Apple VS Meta ความไม่ลงรอยในรายได้โฆษณา

Apple หารือ Meta ขอส่วนแบ่งจากรายได้โฆษณา เนื่องจาก Facebook อยู่ใน App Store ทาง Apple ควรได้ส่วนแบ่งจากค่าโฆษณาจากบริการบูสต์โพสต์ที่เป็นการซื้อขายภายในแอปพลิเคชั่น (In-App Purchase)

มีรายงานว่า Apple ได้หารือกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรายใหญ่อย่าง Meta กับการได้ส่วนแบ่งจากโฆษณาด้วยส่วนหนึ่ง เนื่องจาก Facebook อยู่ใน App Store

ทั้งนี้โฆษณาบางตัวของ Facebook นั้น เป็นการบูสต์โพสต์ และเป็นการจ่ายเงินซื้อภายในแอปพลิเคชั่น (In-App Purchase) ทำให้เงินส่วนนั้นต้องแบ่งกับทาง Apple ตามการกล่าวอ้าง แต่ Facebook โต้แย้งว่า อย่างไรแล้วนั่นก็เป็นการโฆษณา ซึ่งจะทำให้ Apple ที่เป็นเจ้าของ App Store ไม่ได้ส่วนแบ่งในการจ่ายเงินซื้อภายในแอปฯ

Apple ไม่ได้ต้องการเพียงส่วนแบ่งในการเพิ่มยอดขายจาก Meta เท่านั้น โดยทาง แมทท์ มูลเลนเวก (Matt Mullenweg) ซีอีโอของ Automattic เจ้าของ Tumblr เผยว่า Apple ปฏิเสธฟีเจอร์ที่คล้ายกับการบูสต์โพสต์ของ Tumblr ที่เพิ่งเปิดตัวไป จนกว่าบริษัทจะเสนอให้เป็นการ In-App Purchase

Apple และ Meta ยังมีการสนทนาเกี่ยวกับการสมัครสมาชิก Facebook ที่จะลบโฆษณาออกจากเครือข่ายโซเชียล สิ่งนี้อาจเป็นประโยชน์กับ Apple เนื่องจากจะสามารถสร้างรายได้จากการสมัครสมาชิกที่ซื้อในแอป ทั้งสองบริษัทไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแนวคิดนี้ได้ การอภิปรายเกิดขึ้น "ส่วนใหญ่" ระหว่างปี 2016-2018

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :

Apple ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวในฐานะตัวสร้างความแตกต่างที่สำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์ของตน ในขณะที่ Meta อาศัยการโฆษณาสำหรับธุรกิจเป็นอย่างมาก และการเปิดตัวข้อความแจ้ง "ขอให้แอปไม่ต้องติดตาม" ของ Apple ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ iOS 14.5 ในปี 2021 ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อ Meta ซึ่งทำให้บริษัทต้องเสียรายได้จากโฆษณาถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ (3.5 แสนล้านบาท) ในปีที่แล้ว

ในปี 2018 ผู้บริหารของ Meta ยังพิจารณาที่จะหยุดการรวบรวมข้อมูลของบุคคลที่สาม (เช่น ข้อมูลที่ใช้สำหรับการโฆษณาตามเป้าหมายของบริษัท) แต่ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอของ Meta กลับเลือกที่จะทิ้งแนวทางปฏิบัติในการเก็บรวบรวมข้อมูลไว้เป็นส่วนใหญ่