T-Mobile ยอมจ่ายชดเชย 12,800 ลบ. ให้ลูกค้าโทรคมนาคม หลังถูกแฮกพาข้อมูลรั่ว

T-Mobile ยอมจ่ายเงิน 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 12,800 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินชดเชยในการยุติคดีจากลูกค้าที่ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากการที่บริษัทปล่อยให้ข้อมูลของตนเองรั่วไหลออกมา ราว 76.6 ล้านคน พร้อมกับลงทุนเพิ่มอีก 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 5,400 ล้านบาท ในระบบความปลอดภัยไซเบอร์

โดยในการฟ้องร้อง T-Mobile ให้การปฎิเสธว่าตนเองละเลยการปกป้องข้อมูลของลูกค้าและปฎิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าบริษัทมีระบบความปลอดภัยที่ไม่เพียงพอ

อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ

• แฮกเกอร์อายุ 16 โจมตี Microsoft, NVIDIA และ Samsung คาดเสียหาย 14 ล้านเหรียญ
• ชมคลิป : แฮกเกอร์เจอ วิธีขโมย รถ Tesla พกมือถือ 1 เครื่อง ยืนใกล้ ๆ ก็โจรกรรมรถได้
• เตือนภัย โหลดสติกเกอร์ไลน์ฟรี ตามกรุ๊ปแชต ระวังโดนแฮก พร้อมแนะวิธีป้องกัน

จากรายงานของ T-Mobile ระบุว่ามีการเจาะเข้าระบบฐานข้อมูลของบริษัท เมื่อเดือนสิงหาคม 2564 ซึ่ง ณ ขณะนั้นระบุว่ามีข้อมูลลูกค้ารั่วไหลไปประมาณ 47 ล้านราย

แต่ยอดข้อมูลของลูกค้าที่รั่วไหลออกไปกลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 50 ล้านคน และในเดือนพฤศจิกายน บริษัทก็รายงานตัวเลขอีก 26 ล้านคน ที่ถูกโจรกรรมข้อมูลไป

T-Mobile ได้กล่าวว่าข้อมูลดังกล่าวรวมถึงชื่อ ที่อยู่ วันเกิด ข้อมูลใบขับขี่ และหมายเลขประกันสังคมของลูกค้าในสหรัฐฯ

มีรายงานว่าลูกค้าของ T-Mobile ที่ข้อมูลรั่วจะได้รับค่าชดเชยตั้งแต่ 25-100 ดอลลาร์สหรัฐฯ/คน โดยค่าชดเชยสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 25,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ(ราว 915,000 บาท) และพวกเขาจะได้รับบริการคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวอีก 2 ปีหลังจากนี้

สำหรับคนร้ายในครั้งนี้คือ John Binns ชาวอเมริกันวัย 21 ปีที่ย้ายไปตุรกีเมื่อไม่กี่ปีก่อน ซึ่งสาเหตุที่เขาสามารถแฮกเข้าไปได้ The Wall Street Journal รายงานเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่าเขาเจาะระบบป้องกันของ T-Mobile ได้ หลังจากพบเราเตอร์ที่ไม่มีการป้องกันบนอินเทอร์เน็ต