บิทคอยน์จะร่วงยาวไปอีก 2 ปีจริงหรือ  CEO ของ Binance ออกมาเตือน

Changpeng Zhao หรือที่เรียกกันว่า ‘CZ’ ได้คาดการณ์และกล่าวเตือนถึงราคาปัจจุบันบิทคอยน์ (BTC) ที่จะอยู่ต่ำแบบนี้ไปเป็นเวลาประมาณ 2 ปี โดยมองว่าอาจต้องใช้เวลาสักครู่ก่อนที่ BTC จะฟื้นตัวหลังจากร่วงลงสู่ $20,000

และยังได้แนะนำถึงผู้ที่อยู่ในวงการคริปโทเคอร์เรนซีมายาวนาน ที่บางคนเสียความเชื่อมั่นกับสกุลเงินดิจิทัลนี้ว่า อาจลืมไปว่าตลาดคริปโทเคอร์เรนซีนั้นมาไกลแค่ไหนแล้วจากปี 2018 ซึ่งปีนี้ก็เข้าปีที่ 5 เรียบร้อย

เขายังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หากใครที่ลงทุนตั้งแต่ปี 2018 ได้ยินว่า BTC จะราคาซื้อขายที่ $20,000 ในปี 2022 พวกเขาคงแฮปปี้มีความสุขสุดๆ แต่ซึ่งปีนั้นเป็นปีที่ BTC ได้เห็นการลดลงอย่างมากจาก $20,000 เป็น $4,000 ในเวลาน้อยกว่า 12 เดือน ซึ่งลดลงมากกว่า 80% และเปรียบเปรยถึงการขึ้นลงที่นักลงทุนควรรับได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• บิทคอยน์ตายแล้ว? สถิติ Google ค้นหา “บิทคอยน์ตาย” สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์
• เหตุการณ์ที่ทำให้บิทคอยน์ร่วง และอนาคตของบิทคอยน์จะเป็นอย่างไรต่อ
• เกิดอะไรขึ้นกับ ‘บิทคอยน์’ ทำไมราคาบิทคอยน์ถึงลดลงต่ำมาก

ปัจจุบันตามสถิติ CoinMarketCap ระบุราคา BTC ว่าลดลง 70% ซึ่งตกต่ำที่สุดในประวัติการณ์ของบิทคอยน์

ตลาดของคริปโทเคอร์เรนซีได้มีการผันผวนสูงมากตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัยทั้งเศรษฐกิจ การเมือง สงคราม ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกและส่งผลต่อตัวบิทคอยน์เองเช่นกัน และข่าวนี้ก็ต้องส่งผลกับราคาบิทคอยน์และความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลกเช่นกัน

อัปเดตปัจจัยที่ทำให้คริปโทเคอร์เรนซีหรือบิทคอยน์ราคาร่วงจนถึงปัจจุบัน

บิทคอยน์และคริปโทเคอร์เรนซีตัวอื่นๆ ก็ได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายประการรวมถึงการลดลงของตลาดหุ้นที่เชื่อมโยงกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยจากธนาคารกลาง อาจทำให้สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน่าสนใจน้อยลง 

ตัวอย่างเช่น หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีบางตัวซึ่งราคาสามารถอิงตามความคาดหวังของรายได้ในอนาคตที่แข็งแกร่งในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา อาจมีความน่าสนใจน้อยกว่าผลตอบแทนคงที่จากข้อเสนอทันทีจากการลงทุน เช่น พันธบัตร ซึ่งมีความน่าสนใจมากขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปัญหาของตลาดคริปโทเคอร์เรนซีก็เชื่อมโยงกับปัญหาเฉพาะของสินทรัพย์ดิจิทัล เมื่อเดือนที่แล้วความล้มเหลวของ Terra (LUNA) ที่เรียกตัวเองว่า Stablecoin ซึ่งมูลค่าควรจะผูกติดกับดอลลาร์ แต่เกิดการล่มสลายและราคาร่วงต่ำจนไม่มีมูลค่าในที่สุด

ข่าวเหล่านี้ทำให้เกิดความหมดศรัทธาในคริปโทเคอร์เรนซี และล่าสุดยังมีข่าวตามมาด้วยเซลเซียสเน็ตเวิร์กซึ่งเป็นธุรกิจที่คล้ายกับธนาคารที่ให้ผลตอบแทนสูงจากการฝากเงินคริปโตเคอเรนซีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หยุดการถอนของลูกค้าอย่างไร้เหตุผล จากนั้น Three Arrows Capital ซึ่งเป็นกองทุนป้องกันความเสี่ยงที่ทำการเดิมพันราคาแพงในตลาดคริปโทฯได้ออกมายอมรับว่ากำลังประสบปัญหาอยู่