iPhone 16e อย่างเป็นทางการไปแล้ว และ หนึ่งในคำถามที่ผู้คนให้ความสนใจไม่น้อยนั่นคือ คำว่า e ใน iPhone 16e มีความหมายอย่างไร ซึ่งแอปเปิลก็มีคำตอบกับข้อสงสัยนี้ โดยบอกว่าตัว e ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย
เปิดตัวอย่างเป็นทางการ – iPhone 16e ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งกลายเป็นที่สนใจของผู้คนทันทีหลังการเปิดตัว หนึ่งในคำถามที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือ "ตัว e ใน iPhone 16e หมายถึงอะไร?" ซึ่งแอปเปิลก็ได้ให้คำตอบที่ทำให้หลายคนประหลาดใจ นั่นคือตัว "e" ไม่มีความหมายอะไรเลย
ก่อนหน้านี้ แอปเปิลมักใช้อักษรต่อท้ายชื่อรุ่นของ iPhone มาหลายรุ่น เช่น iPhone XR, iPhone SE, iPhone XS และแม้แต่ iPhone 4S แต่ก็ไม่มีการอธิบายอย่างเป็นทางการว่าตัวอักษรเหล่านี้มีที่มาอย่างไร
ในอดีตแห่งกาลเวลาของโลกดิจิทัล , แม้จะเคยมีการคาดเดาว่า "S" ใน iPhone 3GS อาจหมายถึง Speed (ความเร็ว) แต่สำหรับ iPhone 4S ถึง 6S กลับไม่มีความหมายที่แน่ชัด มีเพียงบางกรณีที่พอคาดเดาได้ เช่น iPhone 5C ซึ่งตัว "C" อาจหมายถึง Colorful และ iPhone SE ที่น่าจะหมายถึง Special Edition
ระหว่างงานเปิดตัว iPhone 16e เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมงานสอบถามผู้บริหารของแอปเปิลเกี่ยวกับที่มาของตัว "e" และได้รับคำตอบว่า "ไม่มีความหมายอะไรเลย" อย่างไรก็ตาม ในการแถลงข่าวออนไลน์ แอปเปิลได้กล่าวเสริมว่า ตัว "e" ไม่ได้ย่อมาจากอะไรทั้งนั้น แต่มันถูกสร้างมาเพื่อทุกคน (Everyone)
จอห์น กรูเบอร์ บล็อกเกอร์สายเทคโนโลยีชื่อดัง แสดงความเห็นว่า แอปเปิลไม่น่าจะตั้งใจให้ "e" หมายถึง Everyone เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็คงหมายความว่าแอปเปิลต้องการให้ทุกคนซื้อ iPhone รุ่นที่ราคาถูกที่สุด ซึ่งขัดกับแนวทางของบริษัท
ไม่ว่าตัว "e" จะมีความหมายหรือไม่ iPhone 16e ก็ได้สร้างกระแสให้ผู้คนพูดถึง และอาจเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามองในปีนี้
สำหรับสมาร์ทโฟน iPhone 16e มีอีกสิ่งที่เรียกว่ายกระดับชิปโมเด็มที่มีข่าวลืออย่างยาวนานอย่าง "C1" ซึ่งจะมาพร้อมกับ iPhone 16e รุ่นใหม่ล่าสุด
โมเด็ม C1 นี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของ iPhone 16e ทำให้มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานที่สุดในบรรดา iPhone ที่มีหน้าจอ 6.1 นิ้ว เช่น iPhone 15 และ iPhone 16 นั่นเอง
C1 เป็นโมเด็มตัวแรกที่ออกแบบโดย Apple และเป็นโมเด็มที่ประหยัดพลังงานที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน iPhone มอบการเชื่อมต่อ 5G ที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ การผสมผสานระหว่างชิป Apple silicon (รวมถึง C1) ดีไซน์ภายในแบบใหม่ และการจัดการพลังงานขั้นสูงของ iOS 18 ล้วนส่งผลให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานเป็นพิเศษ
ปัจจุบัน iPhone 16e เป็นอุปกรณ์ Apple เพียงรุ่นเดียวที่ใช้โมเด็ม C1 ส่วน iPhone รุ่นอื่นๆ ยังคงใช้โมเด็มจาก Qualcomm การพัฒนาโมเด็ม 5G ของตัวเองนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของ Apple ในการลดการพึ่งพา Qualcomm เช่นเดียวกับที่ Apple Silicon ช่วยให้ Apple สามารถเลิกใช้โปรเซสเซอร์ของ Intel ได้
ที่มา : 9to5mac
ข่าวที่เกี่ยวข้อง