SHORT CUT
ชวนทำความรู้จัก "SSO Plus" แอปประกันสังคม แอปที่แพงสุดในไทย ใช้งบพัฒนา 275 ล้าน กับดราม่าที่เกิดขึ้น แอปนี้ มีไว้สำหรับบริการประกันสังคมครบวงจร รองรับผู้ประกันตนที่มีอยู่ราวๆ 24 ล้านคน แต่คุณภาพของแอปยังเป็นเครื่องหมายคำถาม
เรื่องของประกันสังคม กลายเป็นประเด็นที่ต้องขีดเส้นใต้ไฮไลท์เข้มๆ กับสังคมไทยอีกครั้ง จากประเด็น ใช้งบประมาณไม่เหมาะสม , สิทธิการรักษาที่ต้องจ่ายเงินสมทบเอง แต่ไม่ครอบคลุมเท่าบัตรทอง หรือ เรื่อง สถานะกองทุนไม่มีความมั่นคงในอนาคต
แต่ในมุมเทคโนโลยีแล้ว ประกันสังคม ของไทย ก็มีมุมที่น่าพูดถึง เพราะมันเต็มไปด้วยเรื่องราวที่มีคำถาม , ถ้าประกันสังคมเป็นภาพยนตร์สักเรื่อง ก็อาจจะเป็นแนวไซไฟที่เต็มไปด้วยปริศนา เพราะแม้จะอัดเงินไปเป็นร้อยล้าน ระบบกลับยังคงอืด-ติดๆขัดๆ เหมือนสัญญาณอินเทอร์เน็ตฟรีในห้าง!
SPRiNG Tech ชวนมาทำความรู้จักกับ แอป "SSO Plus" แอปประกันสังคม แอปที่แพงสุดในไทย ใช้งบประมาณในพัฒนา 275 ล้าน...
แอป SSO Plus คือ แอปพลิเคชันสำหรับบริการประกันสังคมครบวงจร รองรับผู้ประกันตนที่มีอยู่ราวๆ 24 ล้านคน ช่วยให้ผู้ประกันตนตรวจสอบข้อมูลเงินสมทบ สิทธิประโยชน์ ขึ้นทะเบียนนายจ้าง-ลูกจ้าง และสมัครเป็นผู้ประกันตนได้ รวมถึงสามารถใช้ E-Self service เพื่อขอรับสิทธิประโยชน์และเงินทดแทน พร้อมเพิ่มช่องทางการติดต่อสถานพยาบาล แอปฯ นี้เริ่มดาวน์โหลดได้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2567
โดยตัวแอปนี้ มาแทนที่ แอป SSO Connect ซึ่งเป็นแอปเดิมของประกันสังคม ที่ยกเลิกไปเมื่อ 15 ก.ย. 2567
• การตรวจสอบข้อมูลการส่งเงินสมทบ
• ตรวจสอบสถานพยาบาล
• เปลี่ยนสิทธิสถานพยาบาล
• ทดลองคำนวณสิทธิบำเหน็จ / บำนาญ
• บริการแจ้งเตือนผู้ประกันตนชำระเงินสมทบ
ช่วงที่ผ่านมา แอปพลิเคชัน SSO Plus ของประกันสังคมถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องงบประมาณการพัฒนาที่สูงถึง 275 ล้านบาท เพราะแม้จะมีงบประมาณสูง แต่ผู้ใช้งานจำนวนมากประสบปัญหาในการใช้งานจริง.
• ผู้ใช้งานจำนวนมากให้คะแนนรีวิวต่ำเนื่องจากปัญหาด้าน User Interface และ User Experience.
• ไม่สามารถสแกนหน้ายืนยันตัวตนได้ หรือผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 ยังไม่สามารถจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชันได้
• มีการตั้งข้อสังเกตถึงความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างและการว่าจ้างช่วงต่อ ๆ กัน
• ผู้เกี่ยวข้องเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลการจัดจ้างและกำหนดเวลาในการปรับปรุงแอปให้ชัดเจน
• แอป SSO Plus ใช้งบประมาณในการพัฒนาสูงถึง 275 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นแอปพลิเคชันที่มีขอบเขตการทำงานในลักษณะนี้ที่แพงที่สุดในประเทศไทย
• ระบบตรวจสอบความโปร่งใสและแหล่งข้อมูลโครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐแสดงผลว่ามีความผิดปกติในการเสนอราคา
• มีการตั้งข้อสังเกตถึงรูปแบบการว่าจ้างที่เป็นการรับช่วงต่อ ๆ กัน ทำให้ผู้ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานจริงไม่ได้รับงบประมาณที่เพียงพอ
• มีการเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลการจัดทำรายละเอียดในการจัดจ้างและชี้แจงเรื่อง Timeline การปรับปรุงแอป
แอป SSO Plus ถูกพัฒนาให้เป็นศูนย์รวมบริการของประกันสังคมแบบครบวงจร แต่ประเด็นที่ตามมาคือ งบประมาณที่สูงลิ่วถึง 275 ล้านบาท กลับต้องเผชิญกับเสียงวิจารณ์เรื่องประสิทธิภาพ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่เดินสวนทางกัน ระหว่างคุณภาพกับเงินที่ทุ่มลงไป
ที่มา : สำนักงานประกันสังคม play.google