svasdssvasds

เปิด 5 เทรนด์สำคัญเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลก AI ไม่ได้ตอบโจทย์ทุกงานเสมอไป

เปิด 5 เทรนด์สำคัญเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลก AI ไม่ได้ตอบโจทย์ทุกงานเสมอไป

พามาดูเทรนด์ฺใหม่จาก Accenture ที่เผย 5 เทรนด์สำคัญเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลก ชี้ AI ไม่ได้ตอบโจทย์ทุกงานเสมอไป ผู้คนเริ่มตั้งคำถาม แล้วอะไรคือเรื่องจริง? บนโลกออนไลน์ จึงทำให้ส่งผลต่อความลังเลของผู้บริโภคในยุคนี้

SHORT CUT

  • โลกของเราหมุนไปอย่างรวดเร็วมากๆ ทั้งเทคโนโลยี นวัตกรรม พฤติกรรมผู้คนก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
  • แน่นอนว่าอะไรที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็วเราก็ต้องเตรียมตัวรับมือกันให้ทัน โดยเฉพาะผู้ประกอบการในภาคธุรกิจที่ต้องศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง และละเอียดมากขึ้น
  • พาเปิด 5 เทรนด์สำคัญเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลก AI ไม่ได้ตอบโจทย์ทุกงานเสมอไป

พามาดูเทรนด์ฺใหม่จาก Accenture ที่เผย 5 เทรนด์สำคัญเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลก ชี้ AI ไม่ได้ตอบโจทย์ทุกงานเสมอไป ผู้คนเริ่มตั้งคำถาม แล้วอะไรคือเรื่องจริง? บนโลกออนไลน์ จึงทำให้ส่งผลต่อความลังเลของผู้บริโภคในยุคนี้

โลกของเราหมุนไปอย่างรวดเร็วมากๆ ทั้งเทคโนโลยี นวัตกรรม พฤติกรรมผู้คนก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน แน่นอนว่าอะไรที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็วเราก็ต้องเตรียมตัวรับมือกันให้ทัน โดยเฉพาะผู้ประกอบการในภาคธุรกิจที่ต้องศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง และละเอียดมากขึ้น หนึ่งในควันหลงที่น่าสนใจจากงาน Accenture Life Trends 2025: Unveiling Global Trends that Shape Thai Consumer Behavior ที่จัดโดย SCBX เมื่อเร็วๆนี้

งานนี้มีผุู้เชี่ยวชาญมากมายมาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ เช่น คุณแม็ค สุนาถ ธนสารอักษร, Managing Director จาก Accenture Song , คุณกานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล กลุ่มบริษัท บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (AIS) , คุณมนประภา รัตนกนกพร หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท โกโกลุก (ประเทศไทย) จำกัด, คุณสุธีรพันธุ์ สักรวัตร  ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานการตลาด ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ,คุณทีปกร วุฒิพิทยามงคล ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อดิจิทัล

โดยประเด็นที่น่าสนใจ คือ การเปิดเผย 5 เทรนด์สำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงโลก ซึ่งเป็นเทรนด์ที่สะท้อนถึงพฤติกรรมที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ที่ทำให้โลกที่เปลี่ยนไป และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจำวันในมาใช้ได้ในปี 2025 โดย Accenture ได้ทำการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลก พร้อมได้รายงาน Accenture Life Trends สำหรับเทรนด์ที่พบในปี 2025 ไม่ได้เกี่ยวแค่เทคโนโลยีใหม่ๆ แต่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของผู้คนบนโลกที่เปลี่ยนไป ทั้งนี้ Accenture ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคจำนวนทั้งสิ้น 24,295 คน ใน 50 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเทรนด์สำคัญ 5  ที่จะเข้ามากำหนดทิศทางของโลก ดังนี้

  • เทรนด์ที่1 ต้นทุนของความลังเล (Cost of Hesitation)

ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้โลกเต็มไปด้วยข้ออมูลปลอม จึงทำให้ผู้คนเริ่มตั้งคำถาม แล้วอะไรคือเรื่องจริง? ส่งผลต่อความลังเลของผู้บริโภคในยุคนี้ เทรนด์การถูกหลอกได้กระทบกับชีวิตคน คนใช้ชีวิตยากขึ้น อีกทั้งยังกระทบธุรกิจ คนมีความหวาดระแวง ผู้บริโภคต้องระมัดระวัง รวมถึงใช้เวลานานขึ้นในการเลือกซื้อสินค้าและบริการ

ด้านภาคธุรกิจที่ไม่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้ต้องสูญเสียลูกค้าไปในสิ้นเชิง ดังนั้นแบรนด์ควรหาแนวทางให้แนวทางชัดเจน ว่าของจริงดูยังไง มีความชัดเจน เร่งสร้างความเชื่อมั่น และหากถ้าใครถูกหลอกแบรนด์จะเยียวยาืหรือรับประกันอย่างไร เนื่องจากปัจจุบันการหลอกลวงมีการใช้เทคโนโลยีที่สูงขึ้น เช่นการปลอมใบหน้า เป็นต้น โดยปัจจุบันสถิติการหลอกลวงทั่วโลกเพิ่มขึ้นสูงถึง 1530%

  • เทรนด์ที่2 กับดักของพ่อแม่ (The Parent Trap)

แน่นอนว่าโลกแห่งยุคดิจิทัล พ่อแม่ผู้ปกครองต้องเผชิญความท้าทายใหม่ๆ ในการเลี้ยงดูลูก เทคโนโลยีช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้เร็วขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยอันตราย อย่าง Cyberbullying  หรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม บิดเบือน ความสำเร็จที่ไม่มีอยู่จริง ทั้งนี้งานวิจัยในอังกฤษชี้ว่าเด็กวัยรุ่นกว่า 50% เคยได้รับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมทางออนไลน์ พ่อแม่หลายคนจึงลังเลว่าจะให้ลูกเข้าถึงเทคโนโลยีมากได้มากน้อยเพียงใดถึงจะปลอดภัยกับลูก

อย่างไรก็ตามมีผลสำรวจ พบว่า มีบางประเทศเริ่มออกกฎหมายควบคุม เช่น ที่ประเทศอังกฤษมีการห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี ใช้สมาร์ทโฟน เป็นอีกหนึ่งวิธีแก้ปัญหาที่พ่อแม่ได้มีการกำหนดขอบเขตการใช้งานของลูก ส่วนของแบรนด์ควรสร้างผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ที่ปลอดภัย และเหมาะสมกับพัฒนาการของเด็ก

  • เทรนด์ที่3 เศรษฐศาสตร์แห่งความใจร้อน (Impatience Economy)

จากผลสำรวจ พบว่า ผู้คนในยุคนี้ใจร้อนไม่อยากรออะไรทั้งนั้น ทุกอย่างต้องเร็ว และได้ผลทันที เช่น การกินอาหารเสริมแทนการออกกำลังกาย รวมไปจนถึงการหางานพิเศษที่ช่วยเพิ่มรายได้ที่รวดเร็วขึ้น จากข้อมูลเบื้องต้น จึงทำให้แบรนด์สินค้าต้องปรับตัว เพราะการบริการไหน หรือผลิตภัณฑ์อะไรที่ต้องใช้เวลานานจะได้รับความนิยมลดลง ต้องตอบโจทย์ลูกค้าที่สะดวกสามารถตอบโจทย์ได้ทันทีเลย

  • เทรนด์ที่4 ศักดิ์ศรีของการทำงาน (The Dignity of Work)

AI เข้ามามีบทบาทแทนที่แรงงานมนุษย์ในหลายด้าน โดยเฉพาะงานงานรูทีน (Routine) แต่ AI ไม่สามารถใช้แทนคนได้ทั้งหมดเสมอไป เพราะบางงานที่ละเอียด และเชิงลึกยังคงจำเป็นต้องใช้คนทำอยู่  แต่คนจะถูกมาเปรียบเทียบ AI มากขึ้น และคนถูกมองว่าไม่มีคุณค่า จึงทำให้คนรู้สึกว่าสิ่งที่ทำอาจไม่มีคุณค่าเหมือนเดิม

ดังนั้นจึงสร้างความผูกพันระหว่างพนักงานกับองค์กรก็ลดลง คนทำงานตามเงินเดือนมากขึ้น ไม่ได้เน้นคุณภาพของผลงงาน ทั้งนี้งานวิจัยพบว่าพนักงานกว่า 53% เลือกที่จะไม่เข้าร่วมกิจกรรมบริษัท เช่น งานเลี้ยงปีใหม่ เพราะมีรู้สึกว่าความสัมพันธ์ในที่ทำงานลดลง สรุปคือ สิ่งที่องค์กรควรทำคือ ใช้ AI เป็นเครื่องมือช่วยงานแทนที่จะใช้แทนที่มนุษย์ทั้งหมด พร้อมออกแบบงานที่ให้พนักงานรู้สึกว่า สิ่งที่พวกเขาทำมีความหมาย เช่น การให้พวกเขามีอิสระในการตัดสินใจ อีกทั้งต้องสร้างเป้าหมายที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งตัวพนักงานและองค์กรด้วย

  • เทรนด์ที่5 การการคืนสู่ชีวิตแบบสัมผัสได้ (Social Rewilding)

โซเชียลมีเดียทำให้ผู้คนในยุคนี้เมีเบื่อความไว จากปัญหาข้อมูลปลอมบนโลกออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้คนเริ่มอยากย้อนเวลาไปในอดีต ไม่อยากติดตาม ไม่อยากวุ่นวาย อยากห้วนคืออดีตที่มีคุณค่ามากกว่าโลกยุคปัจจุบัน และแสวงหาชีวิตที่ ช้าลงและจับต้องได้

ดังนั้นแบรนด์ต้องสร้างประสบการณ์ออฟไลน์ เช่น Pop-up Store ที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตธรรมชาติ หรือกิจกรรมที่ส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คน จะได้รับความสนใจมากขึ้น สุดท้าย ท้ายที่สุด 5 เทรนด์สำคัญที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกจึงสำคัญมากๆ สำหรับผู้คนที่ต้องปรับตัว รวมถึงเจ้าของแบรนด์ก็จำเป็นที่ต้องตามให้ทันเช่นกัน!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

related