รู้จัก Daily Listen ฟีเจอร์ใหม่จาก Google ช่วยสรุปข่าวในฟีดเป็น AI Podcasts
Google เปิดตัวฟีเจอร์ทดลอง Daily Listen ทำหน้าที่เป็นผู้อ่านข่าวส่วนตัว โดยคัดเลือกข่าวที่น่าสนใจจาก Google Discover มาสรุปเป็นรายการเสียง เป็น AI Podcasts ความยาว 5 นาที
Google เปิดตัวฟีเจอร์ทดลอง Daily Listen ทำหน้าที่เป็นผู้อ่านข่าวส่วนตัว โดยคัดเลือกข่าวที่น่าสนใจจาก Google Discover มาสรุปเป็นรายการเสียง ซึ่งจะเป็นการสรุปข่าวในฟีดให้เป็น AI Podcasts ความยาว 5 นาที ซึ่งฟีเจอร์นี้เหมาะสำหรับการฟังข่าวระหว่างทำกิจกรรมเวลาว่างเป็นอย่างมาก
หลักการทำงาน Daily Listen
หลักการทำงานของฟีเจอร์ “Daily Listen” คือการ เปลี่ยนข่าวบนฟีดให้กลายเป็นเสียงพูดด้วย AI ซึ่งพอเปลี่ยนข่าวเป็นเสียง AI แล้วมันก็จะเหมือนกับมีคนมาอ่านข่าวให้ฟังทุกวัน
โดยฟีเจอร์ Daily Listen นี้จะทำงานร่วมกับ Google Discover ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่แสดงข่าวสารและเนื้อหาที่ผู้ใช้น่าจะสนใจบนหน้าจอหลักของแอป Google
หากจะขยายความเพิ่มถึง Google Discover อีกนิด มันคือ การที่เราจะเห็นข่าวและบทความต่างๆ เลื่อนขึ้นมาให้อ่าน , จากนั้น Google จะคอยเก็บข้อมูลว่าผู้ใช้งานชอบอ่านเรื่องอะไร ประเด็นอะไรบ้าง
โดยจะคัดกรองมาให้ตามความสนใจของผู้ใช้แต่ละคน แล้วก็เลือกเรื่องที่น่าสนใจมาให้เราอ่าน ตอนนี้ Google เลยคิดว่า ถ้าเอาข่าวพวกนี้มาทำให้เป็นเสียงพูดสั้นๆ แค่ 5 นาที เหมือนกับฟังรายการวิทยุหรือ Podcasts พอดแคสต์ ก็น่าจะสะดวกสำหรับคนที่ไม่มีเวลาอ่าน
จุดกำเนิดของฟีเจอร์ Daily Listen
ฟีเจอร์ Daily Listen จาก Google พัฒนาต่อยอดมาจาก โครงการ NotebookLM ที่สามารถแปลงเอกสารข้อความให้เป็นเสียงสนทนาได้ โดย Daily Listen จะวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ เช่น ประวัติการอ่านข่าว หัวข้อที่สนใจ และการค้นหาข้อมูล เพื่อเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมมาสร้างเป็นรายการเสียง
อย่างไรก็ตาม Daily Listen ยังอยู่ในช่วงทดลอง เปิดให้ใช้งานเฉพาะผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านเมนู Labs ในแอปกูเกิลเท่านั้น หลังจากลงทะเบียน ผู้ใช้จะต้องรอประมาณหนึ่งวันเพื่อให้ระบบเรียนรู้พฤติกรรมและสร้างรายการเสียงแรกให้
Daily Listen ถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเทคโนโลยี AI ของ Google ที่มุ่งเน้นการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบเสียง เพื่อให้ผู้ใช้ที่อยากรู้ข่าวสาร แต่ไม่มีเวลานั่งอ่าน เช่น ตอนขับรถ ออกกำลังกาย ก็สามารถฟังข่าวไปด้วยได้
ฟีเจอร์นี้ยังจำกัดให้เฉพาะผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกา ใช้งานได้ผ่านแอป Google ทั้ง Android - iOS โดยต้องเปิดการทำงานใน Labs ที่มุมบนซ้ายของแอปก่อน
