svasdssvasds

รู้จัก เทคโนโลยี VAR ลบข้อครหาทุกอย่างในเกมฟุตบอล

รู้จัก เทคโนโลยี VAR   ลบข้อครหาทุกอย่างในเกมฟุตบอล

ทำความรู้จัก เทคโนโลยี VAR หรือ Video Assistant Referee คือระบบการตัดสินโดยใช้ภาพรีเพลย์หรือไฮไลต์การแข่งขัน เพื่อช่วยเหลือกรรมการผู้ตัดสินในสนามให้สามารถ ย้อนกลับไปดูเหตุการณ์เพื่อการตัดสินใจที่ชัดเจนขึ้น

หากใครที่อยู่ในแวดวงฟุตบอล คงจะคุ้นเคยกับเทคโนโลยี VAR เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในช่วงเวลา 6-7 ปีหลังมานี้ ได้มีการใช้เทคโนโลยี VAR อย่างแพร่หลายในเกมฟุตบอลโดยเฉพาะในฟุตบอลโลก 2018 และ 2022 

ส่วนที่หยิบยกประเด็น VAR มาพูดถึงอีกครั้ง นั่นเป็นเพราะค่ำคืนที่ผ่านมา (30 ธ.ค. 2024) มีประเด็นดราม่าเกี่ยวกับ VAR ในเกมฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2024 รอบรอบฯนัดที่ 2 ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ทีมชาติไทย ชนะ ฟิลิปปินส์ 3-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ รวมสกอร์สองนัดชนะ 4-3 และผ่านเเข้าสู่รอบชิงฯได้นั้น 

ต้นกำเนิดของดราม่า VAR จากลูกประตูขึ้นนำ 1-0 ทีมชาติไทย  "กัปตันนิว" พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ยิงประตูให้ไทยขึ้นนำ 1-0 ลูกนี้นอกจากคนยิงแล้ว ก็ต้องยกเครดิต พร้อมกับชูนิ้วโป้งให้ เสกสรรค์ ราตรี ที่ไม่ยอมแพ้จนวินาทีสุดท้าย ปาดบอลเข้ามาได้สำเร็จ ซึ่งประเด็นมันอยู่ที่ เสกสรรค์ ราตรี เตะเปิดเข้ามาจากเส้นหลังนั้น ลูกนี้ลูกบอลออกไปหรือยัง ?

แน่นอนว่าใน AFF 2024 ครั้งนี้ มีการใช้เทคโนโลยี VAR ช่วยในการตัดสิน และในการตัดสินว่าบอลออกหรือไม่ ต้องมองด้วยมุม Bird's-Eye View หรือมุมสูงเท่านั้น มองจากด้านบนลงไป ว่าบอลออกเต็มใบหรือยัง กล้องบางมุม อาจจะเหมือนบอลออกหลังแล้ว แต่ในความจริงมันยังไม่ออกแน่อน 

ทำความรู้จัก เทคโนโลยี  VAR หรือ Video Assistant Referee คือระบบการตัดสินโดยใช้ภาพรีเพลย์หรือไฮไลต์การแข่งขัน เพื่อช่วยเหลือกรรมการผู้ตัดสินในสนามให้สามารถ ย้อนกลับไปดูเหตุการณ์เพื่อการตัดสินใจที่ชัดเจนขึ้น
.

ทำความรู้จัก เทคโนโลยี  VAR หรือ Video Assistant Referee คือระบบการตัดสินโดยใช้ภาพรีเพลย์หรือไฮไลต์การแข่งขัน เพื่อช่วยเหลือกรรมการผู้ตัดสินในสนามให้สามารถ ย้อนกลับไปดูเหตุการณ์เพื่อการตัดสินใจที่ชัดเจนขึ้น Credit ภาพ REUTERS

 

เทคโนโลยี VAR คืออะไร ?

หากจะอธิบายอย่างให้เข้าใจง่ายที่สุดนั้นให้เข้าใจ เทคโนโลยีตัวนี้  , เจ้าเทคโนโลยี VAR คือการใช้ภาพวิดีโอเพื่อช่วยกรรมการในสนามตัดสินเกมได้อย่างแม่นยำ โดยการใช้เทคโนโลยีนี้จะมีผู้ตัดสิน 2 คนประจำการอยู่ในห้องส่งและข้างสนาม

โดยมีจอมอนิเตอร์ ลิงก์สัญญาณจากกล้องถ่ายทอดสดความละเอียดสูงมาให้ดู เมื่อผู้ตัดสินในสนามสงสัยในบางจังหวะก็สามารถติดต่อให้ผู้ตัดสินในห้องมอนิเตอร์เช็กภาพ ก่อนอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกลับไปยังกรรมการในสนามที่เป็นผู้ตัดสิน

เทคโนโลยีนี้ถูกนำมาทดลองใช้ครั้งแรกในศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกปี 2016 แต่ตอนนั้นก็ได้รับเสียงวิจารณ์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการทำลายสิ่งที่เป็นเสน่ห์ของฟุตบอล นั่นคือความลื่นไหลของเกม เนื่องจากกรรมการจำเป็นต้องหยุดเวลาและเรียกดูภาพช้าจากผู้ตัดสินวิดีโอ

 ทำให้หลายฝ่ายไม่ค่อยปลื้มกับเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้เท่าไรนัก ถึงแม้ว่าการใช้งาน VAR จะช่วยให้กรรมการสามารถตัดสินได้อย่างแม่นยำขึ้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อเข็มนาฬิกาบนโลกลูกหนังเดินไป ... เวลานี้ เราทุกคนต่างยอมรับในเทคโนโลยี VAR และ "รับได้" กับทุกคำตัดสิน...เพราะเทคโนโลยีมันช่วยให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด และเราเข้าใกล้ความยุติธรรมของเกมกีฬามากที่สุดด้วย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

related