SHORT CUT
แม้ Apple จะยังไม่มี Generative AI แบบ ChatGPT เป็นของตัวเอง แต่เครื่องมือ AI หลายตัวก็มีบทบาทเบื้องหลังในการทำงานของ iPhone มาหลายปีแล้ว
Apple อาจจะไม่ได้อยู่ในแวดวงการสนทนาของคนทั่วไปเกี่ยวกับ Generative AI จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ แต่ฟังก์ชั่นการทำงานแบบ AI ก็มีอยู่แล้วบน iPhone ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนคุณสมบัติหลักในแอพยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็น กล้อง รูปภาพ และ Siri และอื่นๆ
ในขณะเดียวกัน Tim Cook ซีอีโอของ Apple ก็พูดถึงเทคโนโลยี AI มากขึ้น โดยบอกว่าในที่สุดการผลักดัน AI ของ Apple ก็อาจมาถึงจุดนี้แล้ว ซึ่งเป็นเวลามากกว่าหนึ่งปีหลังจากที่ ChatGPT ได้รับความสนใจไปทั่วโลก โดยเขายืนยันในการแถลงข่าวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า Apple กำลังลงทุนใน generative AI ซึ่ง "เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับ Apple ที่จะมี Gen AI และ AI" โดยยังไม่ได้ให้รายละเอียดมากนัก
แม้จะยังไม่รู้ว่า Apple จะใช้ AI อะไรสำหรับ iPhone และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในรุ่นต่อไป แต่ในระหว่างนี้ มีคุณสมบัติบางส่วนที่ใช้ AI ใน iPhone รุ่นใหม่ ๆ ที่เรากำลังใช้งานอยู่ในขณะนี้
Apple อาจไม่มีแชทบอทแต่ใช้ AI ในฟีเจอร์ที่มาพร้อมกับ iOS 17 เมื่อปีที่แล้ว เสียงส่วนตัว คือการตั้งค่าการเข้าถึงที่ใช้การเรียนรู้ของระบบบนอุปกรณ์ เพื่อให้ผู้ที่เสี่ยงต่อการสูญเสียคำพูดสามารถจำลองเสียงของตน เพื่อให้สื่อสารกับคนที่คุณรักได้ง่ายขึ้น ในเรียนรู้เสียงของคุณ iPhone จะขอให้คุณอ่านออกเสียง 150 วลี จากนั้นจะใช้ AI เพื่อวิเคราะห์เสียงของคุณและสร้างเสียงสังเคราะห์ขึ้นมา
ในการสื่อสารโดยใช้เสียงสังเคราะห์ใหม่นี้ คุณจะต้องใช้เครื่องมือ type-to-speak ของ iPhone เพื่อเปลี่ยนข้อความเป็นคำพูดใน FaceTime หรือแอพอื่นที่เข้ากันได้
Live Text เป็นฟีเจอร์ AI ที่พร้อมใช้งานแล้วตั้งแต่ในซอฟต์แวร์ iOS 15 ของปี 2021 ของ iPhone เป็นเครื่องมือที่จดจำข้อความที่เขียนด้วยลายมือและตัวพิมพ์ในรูปภาพได้ เช่นเดียวกับ Google Lens ข้อความจากรูปภาพสามารถคัดลอกและวางได้ด้วยการแตะง่ายๆ เพียงไม่กี่ครั้ง
Live Text มีประโยชน์มากในชีวิตประจำวัน เช่น หากคุณมีสูตรอาหารที่เขียนด้วยลายมือและต้องการแปลงเป็นดิจิทัล หลังจากถ่ายรูปสูตรอาหารนั้นด้วย iPhone ของคุณแล้ว คุณสามารถคัดลอกและวางข้อความนั้นลงในเอกสาร Word ได้ แล้วบันทึกเป็นข้อมูลสำรองดิจิทัลได้
ด้วยการอัพเดตซอฟต์แวร์ล่าสุด Apple ยังปรับปรุงฟีเจอร์การสะกดคำอัตโนมัติใหญ่ที่สุด ตอนนี้คุณสามารถพูดคำหยาบหรือสาปแช่งได้โดยไม่ได้เปลี่ยนหยาบที่คุณเลือกเป็นคำที่สุภาพกว่า
นอกเหนือจากการอนุญาตให้ใช้คำหยาบได้แล้ว การสะกดคำอัตโนมัติยังได้รับการปรับปรุงมากขึ้นอีกด้วย โดยสามารถแก้ไขการสะกดผิดพลาดได้ดียิ่งขึ้น และระบบการคาดเดาคำศัพท์และบริบท มีความแม่นยำมากขึ้น ซึ่งมาจากโมเดลภาษาใหม่ของ iOS 17 ที่ใช้การเรียนรู้ของเครื่องในการคาดเดาคำศัพท์ ช่วยให้สามารถเรียนรู้บริบทและรูปแบบเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
iPhone อาศัยอัลกอริธึมขั้นสูงในการถ่ายภาพ โหมดภาพถ่ายบุคคลซึ่งใช้ AI เพื่อระบุวัตถุและสร้างเอฟเฟ็กต์เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ยังไม่นับโหมดภาพยนตร์ซึ่งใช้ AI เพื่อจำลองรูรับแสงที่ต้องการและปรับโฟกัสแบบไดนามิกเพื่อให้วัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวคมชัด และหนึ่งในความสามารถที่ขับเคลื่อนด้วย AI ใน iOS 17 คือความสามารถของแอพ Photo ในการระบุสัตว์เลี้ยงในรูปภาพ ซึ่งช่วยให้จัดระเบียบรูปภาพได้ดีขึ้น
Siri มีมาตั้งแต่ iOS 5 ซึ่งเปิดตัวในปี 2011 แต่ผู้ช่วยที่สั่งงานด้วยเสียงของ Apple อาจจะฉลาดขึ้นมากในไม่ช้า จากรายงานเมื่อเดือนกันยายนมีข้อมูลว่า Apple วางแผนที่จะใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ เพื่อปรับปรุง Siri สำหรับงานที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น เปลี่ยนชุดรูปภาพให้เป็น GIF แล้วส่งรูปภาพเหล่านั้นไปยังผู้ติดต่อ รวมทั้งช่วยให้ Siri เข้าใจภาษาและตอบสนองในลักษณะเหมือนมนุษย์ในการใช้งานอื่นๆมากขึ้น
ทั้งนี้ เนื่องจาก Apple มักจะเปิดตัวคุณสมบัติซอฟต์แวร์ iPhone ใหม่ในการประชุมนักพัฒนาทั่วโลกทุกปี เราจึงน่าจะเห็นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนของ Apple สำหรับ AI ในการประชุมครั้งต่อไปมากขึ้น
ที่มา : CNET