เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย และ NIA ได้ชี้อนาคตของเทรนด์การแพทย์ พร้อมเปิดตัวงาน "เมดิคอลแฟร์ ไทยแลนด์ 2023" ดึงทั้งสตาร์ทอัปไทยและอาเซียน ให้นักลงทุนและผู้ประกอบการจับมือขยายธุรกิจในระดับสากล
เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ จับมือ NIA สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้ชี้เทรนด์สตาร์ทอัปไทยโตต่อเนื่อง ตอบรับเทรนด์การแพทย์และการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นไลฟ์สไตล์การออกกำลังกาย การบริหารทางการแพทย์ สังคมสูงวัย ด้วยปัจจัยการเติบโตของเทคโนโลยี Deep Tech , AI , IoT ผลักดันสตาร์ทอัปทั้งไทยและอาเซียนให้เติบโตอย่างรวดเร็ว
ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ได้พูดถึงเทรนด์การแพทย์ไว้ดังนี้
ดร.กริชผกา ได้ยกตัวอย่างการจัดอันดับดัชนีนระบบนิเวศทางสตาร์ทอัปโลกประจำปี 2566 โดย StartupBlink ได้ระบุว่า ประเทศไทยได้ลำดับที่ 52 ของประเทศที่มีระบบนิเวศทางสตาร์ทอัปดีที่สุดในโลก ถือเป็นการตอกย้ำว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมได้เป็นอย่างดี หากมีการสนับสนุนที่ครบถ้วน
ดร.กริชผกา คาดว่า เทรนด์การเติบโตของเทคโนโลยีและวงการแพทย์ จะมีการเติบโต 3-4 เท่าในปี 2030 และมีบุคลากรที่มีส่วนร่วมด้านสุขภาพและการแพทย์จะมี GDP เติบโตขึ้น "3 เท่า"
อีกทั้งได้พูดถึงแผนที่ทาง NIA ได้มีเป้าหมายที่จะสนับสนุนสตาร์ทอัปไทยเพิ่มเติมในด้านการเกษตรและ Soft Power รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าและ Climate Tech เพื่อสนับสนุนนวัตกรรมไทยให้ดียิ่งขึ้น
แต่อย่างไรก็ตามพบว่ากลุ่มสตาร์ทอัปด้านการแพทย์และสุขภาพยังขาดพื้นที่ที่เป็นฮับในการเชื่อมโยงนักลงทุนกับสตาร์ทอัปเพื่อขยายโอกาสไปสู่ระดับสากลมากขึ้น ดังนั้น NIA จึงเล็งเห็นความสำคัญในการนำหน่วยงานในย่านนวัตกรรมการแพทย์โยธีมาเสนอนวัตกรรมในงาน เมดิคอลแฟร์ ไทยแลนด์ 2023
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
นางสาวพราว ปธานวนิช ผู้อำนวยการสายงานนวัตกรรม โรงพยาบาลเมดพาร์ค ได้กล่าวถึง แนวคิดการร่วมมือกันของโรงพยาบาลเมดพาร์ค เพื่อบรรลุเป้าหมายในการดึงศักยภาพของบุคลากรการแพทย์ของไทย โดยใช้แนวคิดและการปฏิบัติแบบ Integrated Care โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นสำคัญ
และทางโรงพยาบาลเมดพาร์คยังเป็นผู้นำด้าน Co-Creation ในอุตสาหกรรมการแพทย์ โดยเริ่มตั้งแต่รากฐาน โครงสร้างผู้ถือหุ้น ตึกและแผนกในโรงพยาบาลออกแบบร่วมกันระหว่างแพทย์เฉพาะทางและสถาปนิก ไปจนถึงการทำนวัตกรรมหรือออกแบบโซลูชั่นต่างๆ ทั้งหมดได้จากการร่วมมือและแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างสาขาวิชาชีพ
นางสาวพราว ปธานวนิช กล่าวเสริมว่า กลุ่มโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงกลุ่มเทคโนโลยีทางการแพทย์และสตาร์ทอัปทางการแพทย์ ต้องหันหน้าเข้าหากันเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาที่ท้าทายขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีบุคลากรการแพทย์จำกัด ยิ่งต้องใช้ความร่วมมือเพื่อช่วยให้คนไข้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและสามารถบริหารจัดการสุขภาพของตนได้มากยิ่งขึ้น
โอกาสการเติบโตของสตาร์ทอัปไทย กับการจัดงานเมดิคอลแฟร์ 2023 ไทยแลนด์
เมดิคอลแฟร์ ไทยแลนด์ 2023 มีจุดมุ่งหมายที่จะรวบรวมเทคโนโลยีจากต่างประเทศรวมกันทั้งผู้จัดจำหน่าย , ผู้ผลิต ,นักธุรกิจ และโรงพยาบาลเข้ามาได้เห็นเทคโนโลยีของจริงภายในงาน เพื่อส่งเสริมให้ต่อยอดธุรกิจได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งหากสตาร์ทอัปไทยจะมีโอกาสได้พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้และนำไปพัฒนาได้
นางสาวเดฟนี โยว ผู้อำนวยการบริหารโครงการ กลุ่มธุรกิจเฮลท์แคร์ บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย ได้กล่าวถึงศักยภาพการแพทย์ของประเทศไทย
โดยการจัดงานเมดิคอลแฟร์ ไทยแลนด์ เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2005 และปีนี้เป็นครั้งที่ 10 ซึ่งแต่ละปีมีผู้ร่วมงานและนักลงทุนเพิ่มขึ้นทุกปี สะท้อนถึงทิศทางการเติบโตของนวัตกรรมเฮลท์เทคของประเทศไทย ในฐานะศูนย์กลางนานาชาติ (Medical Hub)
ไฮไลท์ภายในงาน เมดิคอลแฟร์ ไทยแลนด์ 2023
โดยในปีนี้ยังได้มีสตาร์ทอัปจากประเทศไทย Brain Dynamic Techonlogy ที่จะมานำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีเกี่ยวกับระบบตรวจวัดสัญญาณสมองและระบบตรวจการนอนหลับ อีกด้วย
นอกจากนั้นยังมีฟอรั่ม Wearable Technologies Conference 2023 ASIA ที่จะมาเสริมความแข็งแกร่งของเครือข่ายการแพทย์และดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะอุปกรณ์สวมใส่ในการออกกำลังกายและตรวจวิเคราะห์สุขภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยของไลฟ์สไตล์ในยุคปัจจุบัน และยกระดับกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ กีฬา
เมดิคอลแฟร์ ไทยแลนด์ 2023 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 กันยายน 2556 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมแห่งชาติไบเทค บางนา และระหว่างวันที่ 16-22 กันยายน 2556 ในรูปแบบออนไลน์