WWDC2023 งานเปิดตัวสินค้าและระบบปฎิบัติการประจำปีของแอปเปิล ซึ่งปีนี้แอปเปิลได้เปิดตัวทั้ง iOS 17 และระบบปฏิบัติการอื่นๆอีกมากมาย รวมทั้งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง VisionOS และ Macbook Air 15 นิ้วรุ่นใหม่
WWDC2023 ได้เปิดตัวทั้ง Macbook Air 15 นิ้วรุ่นใหม่ล่าสุด และปีนี้ยังมี Macbook Studio , Mac Pro ในส่วนของระบบปฏิบัติการก็มาทั้ง macOS Sonoma ,iOS 17, iPadOS 17 ,watchOS 10 และที่น่าตื่นเต้นเป็นพิเศษคือแว่น VisionOS หรือแว่น AR/VR ตัวใหม่ล่าสุดของแอปเปิลนั่นเอง วันนี้เราจะมาดูกันว่าแอปเปิลมีอะไรใหม่ๆที่น่าสนใจบ้าง
เปิดตัว Macbook Air 15 นิ้ว M2 2022 รุ่นใหม่ล่าสุด
Macbook Air 15 นิ้ว รุ่นใหม่มาพร้อมหน้าจอ 15.3 นิ้วแบบ Liquid Retina ใช้ชิป M2 แบตเตอรี่ที่ใช้ได้ยาวนานถึง 18 ชั่วโมง จุดเด่นคือน้ำหนักที่เบาลงและความบางกว่าเดิม รุ่นนี้ยังให้ลำโพงมาถึง 6 ตัว
จอภาพ Liquid Retina ที่สวยสดยังมีความสว่างสูงสุด 500 นิต พร้อมกับรองรับสีสัน 1 พันล้านสี ทำให้ทุกคอนเทนต์ดูสวยสดงดงามและตัวหนังสือคมกริบ ทั้งยังมีความละเอียดสูงขึ้น 2 เท่า และสว่างกว่าแล็ปท็อป PC รุ่นเทียบเท่ากันถึง 25%
MacBook Air ใหม่ บางเพียง 11.5 มม. จึงถือเป็นแล็ปท็อปรุ่น 15 นิ้ว ที่บางที่สุดในโลก แถมยังพกพาสะดวกเหลือเชื่อด้วยน้ำหนักเพียง 1.51 กก. และถึงแม้จะมีจอภาพขนาดใหญ่ แต่ MacBook Air ก็ยังแข็งแรงทนทาน อีกทั้งยังบางกว่าเกือบ 40% และเบากว่าประมาณ 200 กรัม เมื่อเทียบกับแล็ปท็อป PC รุ่นเทียบเท่ากัน
MacBook Air ยังมาพร้อม MagSafe สำหรับการชาร์จ, พอร์ต Thunderbolt จำนวน 2 พอร์ต สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมและจอภาพภายนอกสูงสุดถึงระดับ 6K รวมถึงช่องต่อหูฟัง 3.5 มม. เพื่อการเชื่อมต่อแบบอเนกประสงค์ และมาใน 4 สีสวยงาม ได้แก่ สีมิดไนท์ สีสตาร์ไลท์ สีเทาสเปซเกรย์ และสีเงิน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
MacBook Air รุ่น 15 นิ้ว มอบประสบการณ์ Spatial Audio ได้ในแบบที่เต็มอิ่มสมจริง และยังมีกล้อง FaceTime HD ความละเอียด 1080p, MagSafe สำหรับการชาร์จ รวมถึงขุมพลังและความง่ายในการใช้งานของ macOS Ventura เพื่อประสบการณ์ที่ยากจะหาใครเทียบ
ราคา Macbook Air 15 นิ้ว M2
MacBook Air รุ่น 15 นิ้ว พร้อมชิป M2 จะพร้อมให้สั่งซื้อเร็วๆ นี้ บน apple.com/store และบนแอป Apple Store
MacBook Air รุ่น 15 นิ้ว พร้อมชิป M2 มีให้เลือกในสีมิดไนท์ สีสตาร์ไลท์ สีเงิน และสีเทาสเปซเกรย์ ในราคาเริ่มต้นที่ 47,900 บาท และราคาส่งเสริมการศึกษาเริ่มต้นที่ 44,200 บาท
MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M2 มีให้เลือกในสีมิดไนท์ สีสตาร์ไลท์ สีเงิน และสีเทาสเปซเกรย์ ราคาเริ่มต้นที่ 39,900 บาท และราคาส่งเสริมการศึกษาเริ่มต้นที่ 36,300 บาท
MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M1 ยังคงมีจำหน่ายในสีทอง สีเงิน และสีเทาสเปซเกรย์ ในราคาเริ่มต้นที่ 34,900 บาท และราคาส่งเสริมการศึกษาเริ่มต้นที่ 31,400 บาท
Mac Studio และ Mac Pro ชิป M2 ใหม่ล่าสุด
Mac Studio ไม่ได้มีการปรับหน้าตาใหม่แต่ว่ามีการเพิ่มชิป M2 Pro, M2 Max และ M2 Ultra เข้าไปในรุ่นนี้โดยรุ่นที่ติดตั้งชิป M2 Ultra จะเพิ่มประสิทธิภาพได้ดีกว่าเดิม เคลมว่าเร็วกว่า Intel กว่า 6 เท่า และต่อเชื่อมจอ Pro-Res XDR Display ได้พร้อมกัน 8 หน้าจอ
Mac Studio และ Mac Pro ใหม่ ซึ่งเป็น Mac สองรุ่นที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา Mac Studio มาพร้อมชิป M2 Max และ M2 Ultra ใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด และความสามารถในการเชื่อมต่อที่ดียิ่งขึ้นในดีไซน์ที่กะทัดรัดอย่างน่าทึ่ง
ในขณะที่ Mac Studio เร็วขึ้นสูงสุด 6 เท่า เมื่อเทียบกับ iMac รุ่น 27 นิ้ว ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่ทรงพลังที่สุด และเร็วขึ้นสูงสุด 3 เท่า เมื่อเทียบกับ Mac Studio ที่มาพร้อมชิป M1 Ultra รุ่นก่อนหน้า
Mac Pro ซึ่งมาพร้อมชิป M2 Ultra นำประสิทธิภาพในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนจากชิปที่ทรงพลังที่สุดของ Apple มารวมเข้ากับความอเนกประสงค์ของช่องต่อขยาย PCIe ทำให้ Mac Pro เร็วขึ้นสูงสุด 3 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
macOS Sonoma
macOS Sonoma ระบบปฎิบัติการของ Mac ใหม่ล่าสุดสิ่งที่เพี่มเติมมีดังนี้
แว่นตา AR/VR VisionOS
แว่น Vision OS หรือ Apple Vision Pro ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของแอปเปิล แว่น Mixed Reality แค่ใส่ก็จะสามารถสั่งงานได้เลย และยังสามารถมองภาพวิดีโอได้ไกลมากขึ้นและสามารถขยายใหญ่และเมนูหน้าตาคล้ายกับ iPhone ผสมกับ Apple Watch และควบคุมผ่าน Digital Crown ได้ด้วย
การสั่งงาน Apple Vision Pro ใช้การมองนิ้วขยับสั่งงานและยังสามารถสั่งงาน Siri ให้พูดพิมพ์ข้อความได้ด้วย และยังเพิ่ม Eye Sight เมื่อเพื่อนคุณหรือคนในบ้านเข้าใกล้จะสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการมองในฉากได้
การทำงานของ Apple Vision Pro ยังสามารถเชื่อมต่อ File กับอุปกรณ์ Apple ได้ครบและละเอียด การเชื่อมต่อกับ Mac สามารถย้ายหน้าจอขึ้นมาและทำงานกับ Magic Keyboard ได้
และยังสามารถเพิ่มโฟลเดอร์เพื่อดูวิดีโอความทรงจำต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกวิดีโอและภาพนิ่งในแบบ Spatial Video และเล่นเกมได้อย่างเพลิดเพลิน
สเปค Apple Vision Pro (VisionOS)
Apple Vision Pro จะมาประกอบด้วย กล้องทั้งหมด 12 ตัว 5 เซนเซอร์ และมีลำโพงเสียงรอบเทศ จำเป็นต้องมีชิปทั้ง M2 และ R1 รุ่นใหม่ ซึ่งการออกแบบจะทำให้สวมใส่ได้สบาย
ทั้งนี้ปุ่มกดและการสั่งงานสามารถกดผ่านแว่นได้หรือจะใช้ Digital Crown อยู่ทางด้านบน ทำงานผ่าน Vision OS ที่เหมือนก็นการยก macOS, iOS และ iPad OS ไว้บนที่ตาคุณ การแสดงผลใช้เทคโนโลยี Mini LED ที่สามารถเปิดปิดเฉพาะส่วนที่ต้องการแสดง
หากใครกังวลเรื่องความปลอดภัย Apple Vision Pro ได้มีระบบด้านความปลอดภัยมีการใช้ Optic ID สแกนตาผ่านแว่นเพื่อปลดล็อคความปลอดภัย และยังรักษาความเป็นส่วนตัวได้ด้วย หากคุณมองเพียงคนเดียวไม่ได้มีเกี่ยวกับใครก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
iOS 17 เปิดตัว มาวันไหน มีฟีเจอร์อะไรใหม่บ้าง
ลูกเล่นของ iOS 17 มีการเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่หน้า Phone Call ที่เราสามารถแสดงผลรูปหน้าได้เต็ม และยังมีฟีเจอร์ Live Voice Mail สามารถแสดงผลข้อความได้ด้วยแต่ได้เฉพาะบางภาษาแน่นอน
นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงอีกทั้งใส่ชื่อคนในรูปได้, ตั้ง Offline Maps และรวมไปถึงคำสั่ง Hey Siri จะเหลือแค่ Siri เท่านั้น
iPadOS 17
นอกจาก iOS 17 จะเปลี่ยนแปลงเยอะแล้ว iPad OS 17 เปลี่ยนเยอะเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น
Widget, Lock Screen : การสั่งงานจะง่ายมากขึ้นสามารถแตะเพื่อสั่งงานได้หลากหลายและสามารถปรับได้หลากหลาย รวมถึง Lock Screen เราสามารถ สั่งงานได้หลากหลายหน้าจอ รวมถึง Live Photos สามารถสแดงผลได้ในแบบ Slowmotion หรือจะแสวดงผลตามดาวที่คุณต้องการ ปรับแต่งนาฬิกา เพิ่ม Widget อยู่ทางซ้ายมือและใส่ได้ตามใจ
Live Activities : แสดงผลกิจกรรมที่คุณต้องทำหรือเวลาต่างๆ ไว้บนหน้า Lock Screen ได้แบบ iPhone
Health: ครั้งแรกบน iPad สามารถเชื่อมต่อกับ iPhone, Apple Watch เมื่อหน้าจอใหญ่แสดงผลได้มากขึ้นและยังเปิด Health API สำหรับ iPad ให้นักพัฒนาเพิ่มลูกเล่นได้
PDF : สามารถเติมข้อความ และส่งอีเมลได้ด้วย และยังสามารถให้ Note เขียนเข้าไปและยังสามารถเขียนข้อความร่วมกันกับเพื่อนคุณ ไม่ว่าอยู่ใกล้หรือไกลผ่าน Face Time ได้ด้วย
นอกจากนี้ยังสามารถใช้กล้องบนหน้าจอภายนอกของ จออื่นๆ ได้
watchOS 10
เพิ่มบทบาทให้กับ Digital Crown มีบทบาทมากขึ้น สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือเรื่องการใช้งานได้สะดวกตั้งแต่ Widget ขนาดเล็กแต่ใช้สะดวก,
การเพิ่มเติมในเรื่องของ การแสดงผลเวลาทั่วโลก, Health ที่สามารถเลื่อนผ่าน Digital Crown ได้ง่ายมากขึ้น ปรับดีไซน์การแสดงผล Tiles ให้แสดงผลได้ง่าย และยังมี Face Watch ให้เลือกมากมาย หนึ่งในนั้นคือ Snoopy และมีเรื่องราวของสุขภาพดังนี้
ที่มา : apple