สหรัฐฯ "จะไม่ทน" หลังจีนออกคำสั่งห้ามซื้อชิปจาก Micron มองเป็นการท้าทาย

รมว. สหรัฐมองการออกคำสั่งห้ามซื้อชิปหน่วยความจำของบริษัท micron technology เป็นการกลั่นแกล้งบริษัทสัญชาติสหรัฐแบบไม่ยึดหลักแห่งความจริง คาดรวมตัวกับกลุ่มพันธมิตร G7 ร่วมแก้ไขปัญหานี้

Gina Raimondo รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในการแถลงข่าวหลังการประชุมรัฐมนตรีการค้าในกรอบเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิกที่นำโดยสหรัฐฯ ระบุว่า ทางสหรัฐฯ "คัดค้านอย่างมาก" ต่อการกระทำของจีนต่อไมครอน เทคโนโลยี

ที่มีการมุ่งเป้าไปที่บริษัทในสหรัฐเพียงแห่งเดียวโดยไม่มีหลักการหรือปัญหาพื้นฐานใดๆ ในเรื่องของหลักความเป็นจริง เรียกได้ว่าเป็นการบีบบังคับทางเศรษฐกิจอย่างชัดเจน และสหรัฐฯ จะไม่ยอมให้ปัญหานี้ผ่านไป

อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม

ทางด้านของ หน่วยงานกำกับดูแลไซเบอร์สเปซของจีน ได้ออกมาตอบโต้ว่า บริษัท ไมครอน ผู้ผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ล้มเหลวในเรื่องของการตรวจสอบความปลอดภัย และจะห้ามผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานหลักของจีนไม่ให้สั่งซื้อชิปจากบริษัทดังกล่าว

$สหรัฐฯ \"จะไม่ทน\" หลังจีนออกคำสั่งห้ามซื้อชิปจาก Micron มองเป็นการท้าทาย$

ทั้งนี้ การระงับคำสั่งซื้อจากจีนส่งผลให้การคาดการณ์รายได้ของ ไมครอน มีแนวโน้มลดลงจากปัญหานี้

นอกจากนี้ จีนยังมองเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยตรงของ ไมครอน คือกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคที่อาจเจอปัญหาความต้องการขาดแคลนจากการขาดชิ้นส่วนด้วยกล่าว พ่วงกับปัญหาการเมือง

ทั้งนี้ Raimondo ได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดกับ Wang Wentao รัฐมนตรีพาณิชย์ของจีนว่า

"ปัญหานี้ถือว่าได้มีการถกอย่างสม่ำเสมอในการประชุม G7 และปัญหานี้เกิดขึ้นจากแนวทางปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมของจีน"

นอกจากนี้ ข้อตกลงของ IPEF เกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานในการใช้จ่ายและการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ มีความเกี่ยวข้องกับการลงทุนสหรัฐในกฏหมาย CHIPS ที่มีมูลค่า 52 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อส่งเสริมการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐ

"การลงทุนใน CHIPS Act เพื่อสร้างความเข้มแข็งและสนับสนุนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ ต้องบอกว่ามีส่วนร่วมจากบริษัทที่อยู่ในประเทศ IPEF เราจึงคาดหวังว่าบริษัทจากญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ ฯลฯ จะเข้าร่วมในการระดมทุนของ CHIPS Act ต่อไป”

ที่มา : Reuters