การรู้ทันมิจฉาชีพ เป็นอีกหนึ่งความรู้ที่ทุกคนควรมี เนื่องจากในปัจจุบันมีกลโกงหลอกลวงออนไลน์จากมิจฉาชีพจำนวนมาก เราจึงได้รวบรวมเทคนิคการป้องกันมิจฉาชีพไม่ให้ล้วงข้อมูล-ดูดเงินในบัญชีได้ยากขึ้น
มิจฉาชีพออนไลน์ ปัจจุบันได้มีกลโกงหลากหลายรูปแบบ สมาคมธนาคารไทยจึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานรัฐอย่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส), สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และภาคเอกชนอย่าง ผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ได้แก่ True AIS DTAC และ NT รวมถึงผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียต่าง ๆ อย่าง LINE โดยได้ข้อสรุปว่าจะดำเนินการดังต่อไปนี้
หารือธนาคารสมาชิกเพื่อพัฒนาระบบความปลอดภัย แชร์เทคนิค และแนวทางป้องกันภัยร่วมกัน เช่น พัฒนาการป้องกันและควบคุม Mobile Banking Application กรณีมือถือมีการเปิดใช้งาน Accessibility Service และการเพิ่มระบบการพิสูจน์ตัวตนด้วย Biometrics Comparison เช่น การสแกนใบหน้า, การสแกนลายนิ้วมือ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
มาทำความรู้จักกลโกงของมิจฉาชีพในปัจจุบันกัน ซึ่งมี 3 รูปแบบดังนี้
1.หลอกล่อด้วยรางวัลและความผิดปกติของบัญชีและภาษี
โดยให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหลอกด้วยสถานการณ์ที่ทำให้กังวล และใช้ข้อความ SMS หรือบัญชีโซเชียลมีเดีย เป็นการใช้ชื่อเหมือนหรือคล้ายหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อหลอกให้เงินรางวัล, เงินกู้ หรือโน้มน้าวชวนคุยหาคู่ และให้เพิ่ม (Add) บัญชี LINE ปลอมของมิจฉาชีพ
2. หลอกให้ติดตั้งโปรแกรม หลอกขอข้อมูล
และให้ทำตามขั้นตอนเพื่อติดตั้งแอปปลอม (เช่น ไฟล์ติดตั้งนามสกุล .apk) โดยใช้ความสามารถของ Accessibility Service ของระบบปฏิบัติการ Android ที่เมื่อแอปพลิเคชันใด ๆ ได้รับอนุญาตให้ทำงานภายใต้ Accessibility Service แล้ว จะสามารถเข้าถึงและควบคุมการสั่งงานมือถือแทนผู้ใช้งานได้
3.ควบคุมมือถือของเหยื่อและใช้ประโยชน์
ด้วยการใช้แอปปลอมเชื่อมต่อไปยังเครื่องของมิจฉาชีพ เพื่อเข้าควบคุมและสั่งการมือถือของเหยื่อ เพื่อโอนเงิน และขโมยข้อมูลต่าง ๆ โดยรูปแบบของแอปดูดเงินที่มิจฉาชีพใช้หลอกประชาชนมี 3 รูปแบบ คือ
ปัจจุบัน รูปแบบกลโกงของมิจฉาชีพมีหลากหลายและมีวิธีการใหม่ ๆ เสมอ ดังนั้น เพื่อให้ปลอดภัยจากกลโกง สมาคมธนาคารไทยได้สรุป 8 พฤติกรรมปลอดภัยให้ประชาชนปฎิบัติตาม เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกมิจฉาชีพหลอก ดังนี้
ที่มา : สมาคมธนาคารประเทศไทย