รู้จัก "หุ่นยนต์ดินสอ" ฝีมือคนไทย ดูแลผู้ป่วย-ช่วยชีวิตมนุษย์ให้ง่ายขึ้น

หุ่นยนต์ดินสอ (Dinsaw) มีความน่าสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากหุ่นยนต์ดินสอในรุ่นล่าสุดนั้น ทำได้หลากหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น รับออเดอร์อาหาร , ช่วยดูแลผู้สูงอายุ หรือ คัดกรองผู้ป่วยโควิด-19 เรามาทำความรู้จักหุ่นยนต์ตัวนี้กันว่าทำอะไรได้อีกบ้าง

หุ่นยนต์ดินสอ ถูกพัฒนามาตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปี 2553 ก็ได้มีโอกาสนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์นั่นคือ MK Restaurant โดยดินสอสามารถรับคำสั่งและเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้าได้ พร้อมทั้งตอบโต้แสดงอารมณ์และความรู้สึกได้ และปี 2554 ดินสอยังมีโอกาสได้ไปเสิร์ฟอาหารไกลถึง Lidköping ประเทศสวีเดน

จนในปี 2558 ดินสอก็ได้เข้าสู่วงการแพทย์ (Healthtech) โดยมีดินสอรุ่นที่สามารถช่วยดูแลผู้สูงอายุได้ ซึ่งจะตอบโจทย์ผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งดินสอยังมีรุ่น ดินสอมินิ ที่สามารถตั้งไว้ข้างเตียง เพื่อคอยช่วยเหลือผู้สูงอายุ โดยจะมีระบบต่างๆ เช่น ระบบโทรกลับอัตโนมัติเพื่อแจ้งแพทย์หรือญาติผู้ป่วย วัดชีพจรต่างๆ อาการของร่างกายและส่งข้อมูล ช่วยให้แพทย์สามารถเก็บข้อมูลได้โดยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

หุ่นยนต์ดินสอ จะเข้ามาช่วยวงการแพทย์ได้อย่างไรบ้าง ?

หุ่นยนต์ดินสอได้พัฒนาให้กลายเป็นผู้ช่วยแพทย์ได้อีกด้วย เช่น โรงพยาบาลราชวิถี ลดปัญหาการรอคิวต่างๆ เริ่มตั้งแต่เสียบบัตรประชาชนบันทึกข้อมูลและให้หุ่นยนต์ดินสอช่วยวัดค่าความดัน ,อุณหภูมิร่างกาย หรือระดับออกซิเจน ซึ่งข้อมูลเมื่อถูกวัดค่าแล้วจะส่งให้แท็ปเลตของแพทย์ทันที ได้โดยไม่ต้องมีพนักงานอีกต่อไป

ซึ่งสร้างความสะดวกสบายให้กับการแพทย์และผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี ลดขั้นตอนและความเสียเวลาจากที่เคยต้องรอพบแพทย์เป็นเวลานาน ทำให้บริการได้เร็วกว่า 1 เท่าตัว ลดปริมาณงานให้เจ้าหน้าที่ และยังลดความเสี่ยงโรคโควิด-19 อีกด้วย

หุ่นยนต์ดินสอ เมื่อพูดคุยและซักถามอาการคนไข้ ก็จะเข้าสู่ระบบ AI ซึ่งจะเรียนรู้และฉลาดขึ้นเรื่อยๆ และสามารถถามตอบคนไข้ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เช่น การบอกทางไปแผนกต่างๆ , สอบถามอาการเบื้องต้นให้แพทย์

อีกทั้งหุ่นยนต์ดินสอรุ่นใหม่ ที่สามารถใช้ดูแลผู้ป่วยติดเตียงในด้านความบันเทิงได้ เช่น ให้ผู้ป่วยพูดสั่งเปิดยูทูปได้ตามใจชอบ , และยังช่วยพูดคุยต่างๆคลายเหงาได้เป็นอย่างดี

หุ่นยนต์ดินสอ ยังสามารถเสิร์ฟอาหารให้ผู้ป่วย พูดคุยกันคนไข้ติดเตียง และยังพัฒนาไปจนถึงหุ่นยนต์ตรวจเชื้อมะเร็ง ซึ่งอนาคตเชื่อว่าหุ่นยนต์ดินสอจะถูกพัฒนาไปจนสามารถช่วยการแพทย์ได้อย่างเต็มรูปแบบ และนี่เป็นอีกแรงขับเคลื่อนหรือ "Soft Power หุ่นยนต์ของไทย"