แอปฯฟังเพลงยอดฮิต ระหว่าง Spotify , YouTube หรือ Apple Music เจ้าไหนฮิตสุด

YouTube ได้ประกาศจำนวนสมาชิกแบบพรีเมี่ยมทั้ง YouTube Music และ YouTube Premium เมื่อนับรวมกันที่ 80 ล้านคน ซึ่งได้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 30 ล้านคนในปีเดียว ซึ่งปีที่แล้วได้ประกาศจำนวนผู้ใช้ในเดือนกันยายนที่ 50 ล้านคน

YouTube ยังได้เผยถึงโมเดลการสร้างรายได้ทั้งสองแบบ ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ที่สามารถฟังเพลง , ดูวีดีโอได้ ซึ่งครอบคลุมทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น คลิปสั้น , เพลง , พ็อดแคสต์ ซึ่งทางยูทูปได้ร่วมกับพาร์ทเนอร์ยักษ์ใหญ่ทั่วโลก เช่น Samsung , Vodafont และ Softbank เป็นต้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• Spotify แยกปุ่มเล่นและสุ่มเพลงแล้ว แต่ใช้ได้สำหรับผู้ใช้พรีเมียมเท่านั้น
• ชี้พฤติกรรมคนฟังเพลงออนไลน์ผ่านมือถือ “Apple Music” มีเพลงครบ 100 ล้านเพลง
• YouTube เปิดฟีเจอร์ใหม่ Super Chat , Super Sticker , Super Thanks ให้ชาวยูทูป

แอปฯฟังเพลงจากทาง Apple ที่เรียกกันว่า Apple Music แม้จะดูไม่ค่อยมีคนนิยมใช้มากนักแต่ก็มีผู้ใช้เป็นรองเพียง Spotify ซึ่งการวิจัยพบว่า Apple Music มีสัดส่วนผู้สมัครแบบเสียเงินราว 78 ล้านคน หรือประมาณ 15%

Spotify ก็ได้ประกาศรายงานผลประกอบการในปีนี้ จำนวนไตรมาสล่าสุด Spotify มีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอีก 20% ทำให้จำนวนผู้ใช้งานทั้งหมดทั่วโลกเป็น 456 ล้านบัญชี ซึ่งได้มีผู้ใช้ที่จ่ายซื้อแบบพรีเมี่ยมทั้งหมด 195 ล้านบัญชี และผู้ใช้ฟรี 273 ล้านบัญชี

แต่เมื่อมองย้อนที่ผลประกอบการจริง พบว่า Spotify มีรายได้เพิ่มขึ้น 3,036 ล้านยูโร ซึ่งเพิ่มขึ้น 21% แม้จะรายได้สูงและเพิ่มขึ้น แต่ Spotify ก็ยังขาดทุนกว่า 166 ล้านยูโร (6,133,040,747 บาท)

เปรียบเทียบราคาแอปฯสตรีมมิงเพลง เจ้าไหน? คุ้มสุด

Spotify ราคา 129 บาทต่อเดือน คุณภาพเสียงสูงสุด 320 kbit/s

Apple Music ราคา 129 บาทต่อเดือน คุณภาพเสียงสูงสุด Lossless  - Dolby Atmos

YouTube Music ราคา 169 บาทต่อเดือน คุณภาพเสียงสูงสุด 256 kbps AAC

การเลือกแอปฯส่วนใหญ่เกิดจากความชื่นชอบและความสะดวกของผู้ใช้ ดังนั้นหลายบริษัทจึงไม่ได้ลดราคาลงเพื่อแข่งขัน แต่จะพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆขึ้นมาบริการลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ

แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ YouTube ได้เร่งทำ YouTube Shorts เพื่อต่อสู้กับคู่แข่งอื่นๆ อย่าง Spoitfy และ Apple Music แต่เรายังคงต้องติดตามกันต่อไปว่าสงครามแพลตฟอร์มสตรีมมิงเพลงครั้งนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในด้านไหน แต่ด้วการแข่งขันด้วยเทคโนโลยีแบบนี้ จะทำให้ผู้ใช้ได้ใช้แอปฯฟังเพลงต่างๆได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

ที่มา : Apple , Spoitfy , YouTube