ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ Soft Power ของไทย สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง และเพื่อเป็นการต่อยอดต้นทุนทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย รวมถึงงานศิลปะแขนงต่างๆ ที่มีมาช้านาน
กลุ่ม ปตท. จึงได้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยยกระดับการสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ เพื่อขับเคลื่อนซอฟท์พาวเวอร์ไทยไปสู่เวทีโลก อีกทั้งยังเป็นการพัฒนารายได้และคุณภาพชีวิตของคนไทย ยกระดับเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน
Soft Power เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการแพร่ค่านิยมหรือวัฒนธรรม ที่นานาประเทศผลักดันให้เป็นกลยุทธ์ในการเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ Creative Economy ด้วยวิสัยทัศน์ “Powering Life with Future Energy and Beyond” ของกลุ่ม ปตท. ที่เล็งเห็นโอกาสของการต่อยอดแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อรุกเข้าสู่ธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงานให้พร้อมรับการแข่งขันบนเวทีโลก
จึงได้จัดตั้งโครงการ Soft Power for Better Thailand ขึ้น โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น Virtual Reality, Augmented Reality, Drone และ Metaverse มาช่วยเสริมศักยภาพซอฟท์พาวเวอร์ด้านศิลปะไทย ผ่านนิทรรศการ “Locating the Locals: A Virtual Exhibition by PTT” ซึ่งได้คัดเลือกผลงานบางส่วนจากการจัดประกวดศิลปกรรม ปตท. ที่เคยได้รับรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 นำออกมาจัดแสดงอีกครั้งในรูปแบบศิลปะเสมือนจริง (Virtual Art Gallery)
การจัดแสดงศิลปะเสมือนจริง จัดแสดงครั้งแรก ณ หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ เมื่อช่วงปลายปี 2565 ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) จึงได้นำนิทรรศการ Virtual Art Gallery กลับมาจัดแสดงอีกในงาน Bangkok Design Week 2023 ที่ River City Bangkok ระหว่างวันที่ 4 - 12 กุมภาพันธ์ 2566 และ Isan Creative Festival 2023 จ.ขอนแก่น ระหว่างวันที่ 1 - 9 เมษายน 2566 ซึ่งผู้สนใจยังสามารถชมนิทรรศการในโลกเสมือนที่ virtualspacebyptt.com ได้อีกด้วย
นิทรรศการ Locating the Locals: A Virtual Exhibition by PTT จัดแสดงที่ River City ชั้น 1 โซน Atrium ผลงานศิลปะในนิทรรศการเป็นผลงานบางส่วนจากการจัดประกวดศิลปกรรมของ ปตท. เคยได้รับรางวัลตั้งแต่ พ.ศ.2529 นำมาจัดแสดงอีกครั้งในรูปแบบนิทรรศการศิลปะผ่านโลกเสมือนจริง โดยได้รับการสนับสนุนจาก โครงการ Soft Power for Better Thailand ของ ปตท. ที่นำเทคโนโลยีดีจิทัลมาช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ชมบนพื้นที่จัดแสดงศิลปะแบบเสมือนจริง (Virtual Art Gallery) ที่จะเราเดินทางไปค้นหานิยามความเป็น "ท้องถิ่น" สัมผัสศิลปะร่วมสมัยที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายท้องถิ่นไทยได้โดยคุณสามารถเสพงานศิลป์ได้ทั้งรูปแบบศิลปะผลงานจริง (Physical Art) หรือจะสร้างสีสันเปิดประสบการณ์ใหม่ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล AR และ VR ทำให้การชมงานศิลปะดูสนุกและน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น โดย VR จะแบ่งเป็น 2 รอบ คือ 10.00-14.00 น. และ 15.00-20.00 น. ซึ่งการจัดนิทรรศการศิลปะในครั้งนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงการเดินทางไปด้วยกันอย่างกลมกลืนของเทคโนโลยี ศิลปะและวิถีชีวิต
นายเชิดชัย บุญชูช่วย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เผยว่า โครงการ Soft Power for Better Thailand จัดขึ้น เพื่อนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยยกระดับการพัฒนาซอฟท์พาวเวอร์ไทย หรือ เสน่ห์ไทย ที่เกิดจากวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีปฏิบัติอันเป็นภูมิปัญญาของประเทศไทย ซึ่งอยู่ในความสนใจของชาวต่างชาติ นอกจากจะเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้กลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสทางธุรกิจที่จะสามารถดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนเพื่อขยายฐานอุตสาหกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Industry) ในประเทศไทยด้วย
“ปตท. ได้จับมือพันธมิตรภาคส่วนต่างๆ ทั้งจาก บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด (ARV) บริษัทในกลุ่ม ปตท. ที่มีธุรกิจเกี่ยวข้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีด้านซอฟท์พาวเวอร์ ผ่านการนำเทคโนโลยีมาช่วยยกระดับการสร้างสรรค์คอนเทนต์ไทย ภายใต้แนวคิด TECH CREATE FUN คือ การนำเทคโนโลยี (TECH) เช่น Virtual Reality, Augmented Reality, Drone และ Metaverse เป็นต้น มาเสริมศักยภาพในการสร้างสรรค์ (CREATE) ผลงาน เช่น ภาพยนตร์ ดิจิทัลคอนเทนต์ หรือ งานศิลปะ เพื่อให้ทั้งผู้สร้างสรรค์ผลงานและผู้ชมได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีขึ้น (FUN) รวมไปถึงยังมีความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ ในการจัดกิจกรรมเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนา Soft Power ไทย ด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมคอนเทนต์ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทั้งการพัฒนาทักษะบุคลากร การสนับสนุนด้านทรัพยากรและเทคโนโลยี”
นายเชิดชัย ยังเผยถึง ยุทธศาสตร์สำคัญ 3 ด้าน ในการดำเนินการผลักดัน Soft Power ไทย โดยใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล ได้แก่
1. สร้างคอนเทนต์ไทยสู่สากล ผ่านโครงการ Content Lab โดยร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) (CEA) จัดโปรแกรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการการใช้งานเทคโนโลยีสมัยใหม่สำหรับผลิตภาพยนตร์ ซีรีส์ งานโฆษณา งานอีเวนต์ และเกม ให้กับนักเรียน นักศึกษา นักสร้างอนิเมชั่น และบุคคลทั่วไปที่สนใจ เพื่อต่อยอดการสร้างสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) สำหรับการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ทันสมัยเทียบเท่ามาตรฐานระดับสากล รวมถึงได้รับประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีการถ่ายทำชั้นนำของประเทศไทย โดยจะมีกิจกรรม Open House โครงการในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566
2. สร้างบุคลากรเพื่อรองรับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ผ่านโครงการ TGIF - Technology is Fun โดยนำเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องในการยกระดับซอฟท์พาวเวอร์ จัดแสดงที่มหาวิทยาลัย 11 แห่งทั่วประเทศ ในช่วงเดือนมีนาคม - กันยายน 2566 เพื่อเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา ได้มีโอกาสเข้าถึงองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย สร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานที่จะสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดเป็น Soft Power ของประเทศได้ในเชิงพาณิชย์
3. จัดแสดงศักยภาพซอฟท์พาวเวอร์ด้านศิลปะไทย ผ่านนิทรรศการ “Locating the Locals: A Virtual Exhibition by PTT” นิทรรศการศิลปะที่จัดแสดงขึ้นในงาน Bangkok Design Week 2023 ณ River City Bangkok ระหว่างวันที่ 4 - 12 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นการคัดเลือกผลงานบางส่วนจากการจัดประกวดศิลปกรรม ปตท. ที่เคยได้รับรางวัลในอดีตจากศิลปินที่มีชื่อเสียงมาจัดแสดงอีกครั้ง โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ชมบนพื้นที่จัดแสดงศิลปะแบบเสมือนจริง (Virtual Art Gallery) นอกจากจะชมผลงานศิลปะที่นิทรรศการ “Locating the Locals: A Virtual Exhibition by PTT”แล้ว ผู้ที่สนใจยังสามารถชมงานศิลปะได้ทุกที่ ทุกเวลา ได้ที่ virtualspacebyptt.com หรือผ่านแอปพลิเคชัน Virtual Space by PTT สามารถดาวน์โหลดได้ทั้ง iOS และ Android
ความร่วมมือในการสนับสนุนการพัฒนา Soft Power ไทยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลนี้ นอกจากจะเป็นการเปิดโอกาสให้ ปตท. ทดสอบความเป็นไปได้ในการสร้างธุรกิจและการพัฒนาระบบนิเวศทางธุรกิจสำหรับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์แล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งกลไกที่จะช่วยยกระดับห่วงโซ่มูลค่าของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยให้ทัดเทียมสากล ช่วยให้ประเทศไทยมีศักยภาพไปสู่การเป็นศูนย์กลางของการผลิตคอนเทนต์สร้างสรรค์ของอาเซียน ที่จะเพิ่มรายได้ให้ประเทศ เพิ่มการจ้างงานใหม่ในสาขา Creative และ Digital ได้ในระยะยาว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป