ปัจจุบันพฤติกรรมคนทั่วโลกได้เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นข่าวสารและการโปรโมทสินค้าหรือแบรนด์ต่างๆจึงต้องพึ่งพาอินฟลูเอนเซอร์หรือนักรีวิว แต่อนาคตเมื่อโลกเมตาเวิร์สกำลังมา การรีวิวสินค้าและการทำคอนเทนท์จะต้องเปลี่ยนไป
อนาคตของ ‘Metaverse’ ทำให้การใช้เทคโนโลยี 3D ทำได้แบบเรียลไทม์หรือเสมือนจริงมากขึ้น ปัจจุบันผู้ใช้สามารถเข้าร่วมการประชุมหรือรับชมคอนเสิร์ตเสมือนจริง การซื้อที่ดินดิจิทัล หรือแม้กระทั่งซื้อขายอวตาร NFT รวมถึงอนาคตเราสามารถซื้อผลิตภัณฑ์เสมือนจริงได้ด้วย
นอกจากการพัฒนาและขยายขอบเขตของเมตาเวิร์สแล้ว ตลาดยังคาดว่าจะมีมูลค่าอุตสาหกรรม 800 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2567
อินฟลูเอนเซอร์ เป็นส่วนหนึ่งของแรงขับเคลื่อนบนโลกเมตาเวิร์สอย่างแน่นอน เนื่องจากแบรนด์และธุรกิจรวมถึงองค์กรระดับโลกเริ่มนำอินฟลูเอนเซอร์มาใช้ในการทำการตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้นผ่านบุคคลที่มีอิทธิพลหรืออินฟลูเอนเซอร์นั่นเอง
แต่เมื่อโลกเมตาเวิร์สเข้ามาสู่ชีวิตประจำวันของคนจริงๆ อินฟลูเอนเซอร์จะมีความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหนบ้าง และต้องปรับตัวอย่างไรหากต้องการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ในยุคเมตาเวิร์ส เราได้วิเคราะห์และคาดการณ์ไว้ดังนี้
การรีวิวสินค้าหรือแนะนำสินค้าโดยอินฟลูเอนเซอร์บน ‘โลกเมตาเวิร์ส’
การ Collabration หรือการทำงานร่วมกันระหว่างแบรนด์กับอินฟลูเอนเซอร์จะจริงจังมากขึ้นราวกับเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณา เพราะการโพสโซเชียลมีเดียของอินฟลูเอนเซอร์ปัจจุบันก็เปรียบเสมือนการโฆษณา การรีวิวสินค้า ส่งสินค้าพิเศษให้อินฟลูเอนเซอร์จะเป็นเรื่องปกติ
แต่ในยุคเมตาเวิร์สนั้น ผู้ชมหรือผู้ติดตามจะเข้าถึงเนื้อหาหรือคอนเทนท์ได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงแบรนด์และตัวอินฟลูเอนเซอร์เองจะได้เห็นถึงผลตอบรับจากการมีส่วนร่วมผ่านโลกสามมิติ เช่น วีดีโอต่างๆสามารถเชิญชวนให้ผู้ติดตามเข้ามาในโลกเมตาเวิร์สและมีส่วนร่วมไปพร้อมๆกับอินฟลูเอนเซอร์ได้ ซึ่งนี่จะช่วยให้อินฟลูเอนเซอร์สามารถทำงานง่ายยิ่งขึ้น และในฝั่งของแบรนด์เองก็ได้เข้าถึงคนมากกว่าการโพสต์รูปหรือวีดีโอทั่วไปในปัจจุบัน
ช่องทางรายได้ใหม่ บนโลกของเมตาเวิร์ส เช่น ‘NFT’
ครีเอเตอร์บนโลกเมตาเวิร์สยังมีช่องทางหารายได้เพิ่มและทำให้ผู้ติดตามเข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆของแฟนคลับได้ผ่าน NFT ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์ผลงานดิจิทัลต่างๆให้ผู้ติดตามสามารถเข้ามาซื้อหรือลงทุนได้ และคุณสมบัติของ NFT ยังสามารถเพิ่มกิจกรรมพิเศษต่างๆที่ครีเอเตอร์นำเสนอเพิ่มเติมจากการซื้อ NFT เพื่อให้คนเข้าถึงง่ายขึ้นได้ด้วย
ผู้มีอิทธิพลเสมือน (Virtual Influencer)
ในเมื่อตัวละครบนเมตาเวิร์สเป็นอวตาร Virual Influencer หรือผู้อิทธิพลแบบเสมือนจริงก็จะต้องมาแน่นอน หลากหลายแบรนด์เริ่มใช้อินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริงกันตั้งแต่ตอนนี้แล้ว ซึ่งสามารถกำหนดลักษณะได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ส่วนสูง สีผิว ทรงผม หรือตัวตนของอินฟลูเอนเซอร์เอง เช่น “เคน” (Ken) และ “เคซี่” (Kazie) 2 คู่ซี้อินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริง (Virtual Influencer) ของ KBank Live , หรือ “กะทิ” (Katie) Virtual Influencer สัญชาติไทย ที่เกิดจากความร่วมมือของบริษัทสื่อนอกบ้านยักษ์ใหญ่ แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) และเลมอนซ์ บางกอก (Lemonz Bangkok)