Electreon บริษัทจากอิสราเอล กำลังทดสอบถนนชาร์จไร้สายเป็นครั้งแรกของโลก ซึ่งเป็นถนนในเมืองดีทรอยด์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งถนนชาร์จไร้สายที่แรกของโลกมีความยาว 4 ไมล์ ทำงานคล้ายกับแผ่นชาร์จไร้สาย
Electreon กำลังทดสอบถนนชาร์จไร้สายเป็นครั้งแรก และยังเป็นที่แรกของโลกอีกด้วย ซึ่งจะถูกใช้ในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยบริษัท Electreon ของอิสราเอล ซึ่งพัฒนาระบบไร้สายโซลูชั่นการชาร์จสำหรับยานพาหนะไฟฟ้า
ถนนชาร์จไร้สาย สามารถจ่ายพลังงานไฟฟ้าทอดยาว 4 ไมล์ไปตามถนน 14th Street ในย่าน Corktown ของดีทรอยต์ ซึ่งมอบประสบการณ์การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ปลอดภัยกับคนเดินถนนหรือสัตว์ป่า โดยเทคโนโลยีของ Electreon ที่จะเปิดใช้งานเฉพาะเมื่อรถยนต์ที่มีตัวรับสัญญาณผ่านคอยล์ชาร์จ ทำให้มั่นใจได้ว่าพลังงานจะถูกถ่ายโอนไปยังรถ EV ที่ต้องการเท่านั้น
ความร่วมมือระหว่างมิชิแกนและ Electreon ในครั้งนี้ ต้องย้อนกลับไปในเดือนกันยายน 2021 เมื่อผู้ว่าการรัฐ Gretchen Whitmer จินตนาการถึงโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จไร้สายแห่งแรกของประเทศ ภายใต้แผนงานห้าปี ขณะนี้ Electreon และ MDOT กำลังทำงานเพื่อสร้างระบบถนนไฟฟ้าที่ครอบคลุม และขณะนี้ก็เกิดการทดสอบจริงแล้วในที่สุด
การทดสอบเทคโนโลยีการชาร์จไร้สายนี้มีกำหนดจะเริ่มในปี 2567 โดยจะมีรถตู้เชิงพาณิชย์ไฟฟ้า Ford E-Transit การทดลองนี้จะประเมินประสิทธิภาพ ความเป็นไปได้ในการดำเนินงาน และแนวโน้มระยะยาวสำหรับการขนส่งสาธารณะ
นวัตกรรมการชาร์จไร้สายของ Electreon จะทำงานเมื่อเมื่อรถยนต์ที่มีเครื่องรับเข้าใกล้ส่วนชาร์จ คอยล์ใต้ถนนจะถ่ายเทกระแสไฟฟ้าผ่านสนามแม่เหล็ก เพื่อไปเติมแบตเตอรี่ของรถยนต์ คอยล์เหล่านี้จะเปิดใช้งานก็ต่อเมื่อยานพาหนะที่ติดตั้งตัวรับสัญญาณผ่านคอยล์นั้น จึงมั่นใจในความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ถนนทุกคน
เทคโนโลยีการชาร์จแบบไร้สายของ Electreon ไม่ได้มีเฉพาะในดีทรอยต์เท่านั้น บริษัทมีการวางแผนหรือดำเนินการถนนที่คล้ายกันในอิสราเอล สวีเดน อิตาลี และเยอรมนี การมีอยู่ของโครงการดังกล่าวทั่วโลกตอกย้ำถึงความน่าดึงดูดระดับสากลของการชาร์จแบบไร้สาย ซึ่งเป็นหนทางในการปลดล็อกการใช้ EV ในวงกว้าง
อย่างไรก็ตามคาดว่าอนาคตการชาร์จรถ EV ไร้สายจะมีเกิดขึ้นในหลากหลายประเทศ แต่เมื่อย้อนกลับมาดูที่ประเทศไทย อาจมีเพียงบางจุดที่สามารถทำได้ เช่น ต่างจังหวัด ซึ่งโดยปกติหากเป็นกรุงเทพมหานครยังคงต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างถนน, สายไฟต่างๆให้ปลอดภัยกว่าเดิมอีกมาก
ที่มา : euronews
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :