svasdssvasds

ชี้อนาคตรถยนต์ไฟฟ้า ปี 2024 "ราคาแบตเตอรี่ถูกลง 40%" รถ EV เข้าถึงง่ายขึ้น

ชี้อนาคตรถยนต์ไฟฟ้า ปี 2024 "ราคาแบตเตอรี่ถูกลง 40%" รถ EV เข้าถึงง่ายขึ้น

Goldman Saches ธนาคารยักษ์ใหญ่ในวอลสตรีท ได้คาดการณ์ถึงอนาคตรถยนต์ไฟฟ้าไว้อย่างน่าสนใจ ซึ่งได้คาดว่าราคาแบตเตอรี่ EV จะถูกลงถึง 40% ในปี 2025 เร็วกว่าที่คาดไว้มาก ซึ่งนี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนเกมของวงการเลยก็ว่าได้

Goldman Saches ดีกรีระดับธนาคารใหญ่ในวอลสตรีทได้คาดการณ์เกี่ยวกับอนาคตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งได้กล่าวถึงราคาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่เริ่มลดลงอย่างมาก หลังจากที่เจอภาวะเงินเฟ้อที่ทำให้ราคาโลหะหรือวัสดุต่างๆราคาสูงขึ้น แต่ปัจจุบันมีแนวโน้มว่าจะมีการลดราคาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าอีกครั้ง 

ปัจจุบัน Goldman Sachs ได้ทำวิจัยและคาดว่าราคาแบตเตอรี่ EV จะลดลงเหลือ 99 ดอลลาร์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ของความจุภายในปี 2568 ซึ่งลดลง 40% จากปี 2565 (การคาดการณ์ก่อนหน้านี้จะลดลง 33%)

Credit : electrek นักวิเคราะห์เผยว่า ประมาณการว่าเกือบครึ่งหนึ่งของการลดลงจะมาจากราคาวัตถุดิบแบตเตอรี่ EV ที่ลดลง เช่น ลิเธียม นิกเกิล และโคบอลต์

โดย Nikhil Bhandari หัวหน้าร่วมฝ่ายวิจัยทรัพยากรธรรมชาติและพลังงานสะอาดในเอเชียแปซิฟิกของ Goldman Sachs Research คาดการณ์ว่าราคาแบตเตอรี่ EV จะลดลงโดยเฉลี่ย 11% ต่อปีในช่วงปี 2023 ถึง 2030 

Credit : Goldman Saches

ทาง Goldman Sachs ยังได้เผยถึงแนวโน้มที่ราคาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าจะลดลงอย่างมากใน ปี 2024 ซึ่งเป็นปีหน้าที่เราน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง 

การลดต้นทุนแบตเตอรี่ EV อาจนำไปสู่ราคารถยนต์ไฟฟ้าที่แข่งขันได้มากขึ้น การยอมรับของผู้บริโภคอย่างกว้างขวางมากขึ้น และการเติบโตเพิ่มเติมในตลาดที่สามารถระบุได้ทั้งหมดสำหรับ EV และแบตเตอรี่

ซึ่งการปรับลดราคาครั้งนี้อาจส่งผลให้รถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกลง อะไหล่และการซ่อมแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าสามารถทำได้ง่ายขึ้น ปัญหาที่ติดใจใครหลายคนต่างๆเช่น กลัวต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่แพง​ ก็จะค่อยๆหมดไปเนื่องจากแบตเตอรี่มีราคาถูกเทียบเท่ากับการเปลี่ยนแบตเตอรี่บนรถยนต์ไฮบริดทั่วไป

อนาคตเชื่อว่า รถยนต์ไฟฟ้าจะมีราคาที่ถูกลงเทียบเท่ารถสันดาป แต่จะได้สเปคและอ็อปชันที่มากกว่าเนื่องจากต้นทุนเครื่องยนต์ที่ต้องเคยใช้ในรถยนต์สันดาป จะถูกนำมาลงทุนกับเทคโนโลยีต่างๆและแบตเตอรี่นั่นเอง 

เมื่อการแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีสูงขึ้น ราคาแบตเตอรี่ก็อาจลดลง เนื่องจากมีการลงทุนในการผลิตแบตเตอรี่รถ EV เป็นจำนวนมาก ซึ่งนั่นทำให้ต้องแข่งขันกันในด้านราคา เมื่อแบตเตอรี่ EV ถูกลง รถยนต์ไฟฟ้าอาจต้องแข่งขันกันในด้านราคาที่เข้าถึงได้ง่าย และอีก 1-2 ปีข้างหน้านี้ เราอาจได้เห็นคนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันรวดเร็วมากขึ้นกว่าในอดีต

ที่มา : electrek

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

related