อินโดนีเซีย อีกหนึ่งประเทศที่มุ่งมั่นในการพัฒนาการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจาก รมต.อาวุโส อินโดนีเซีย Luhut Pandjaitan เตรียมทำสัญญากับ Tesla และยังมีบริษัทอื่นๆที่เซ็นสัญญาไปเรียบร้อยแล้ว เช่น SAIC Motor Corp , GM และ Wuling Motors
อินโดนีเซีย เตรียมดันตัวเองเป็น EV Hub แห่งอาเซียน เร่งทำสัญญาและเตรียมผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้อินโดนีเซียเป็นอันดับหนึ่งในเรื่องการผลิตแบตเตอรี่ 'ลิเธียมไอออน' เนื่องจากมีจุดแข็งในด้านแร่ธาตุ 'นิกเกิล' และฐานประชาชนที่ต้องการใช้ EV เป็นจำนวนมาก
ซึ่งก่อนหน้านี้อินโดนีเซียได้เป็นผู้ส่งออกแร่ 'นิกเกิล' อันดับหนึ่งของโลก แต่ขณะนี้ได้หยุดการส่งออกแล้ว เพื่อจะนำนิกเกิลมาผลิตแบตเตอรี่ EV และดึงนักลงทุนด้านยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกเข้ามาในประเทศ
แต่เรื่องนี้ก็มีแง่ลบเช่นกัน เพราะขณะนี้อินโดนีเซียได้เร่งขุดแร่เพื่อทำแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าและทำให้สร้างมลพิษต่อชาวอินโดนีเซีย ขณะนี้ทะเลในอินโดนีเซียกลายเป็นสีแดง เนื่องจากปนเปื้อนแร่นิกเกิลเกินมาตรฐาน ซึ่งก่อทั้งมลพิษทั้งทางน้ำและอากาศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ขณะนี้อินโดนีเซียมีการลงทุนของบริษัทต่างๆ เช่น SAIC Motor Corp , GM และ Wuling Motors และกำลังจะเซ็นสัญญากับ BYD , Tesla อีกด้วย เนื่องจากอินโดนีเซียมีจุดแข็งในด้านแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มีความจำเป็นต่อการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างมาก
ย้อนกลับมาในประเทศไทยก็มีจุดแข็งในด้านการผลิต ซึ่งเป็นฐานการผลิตรถยนต์แห่งเอเชีย ซึ่งมีการลงทุนจากจีนจำนวนมาก แต่โครงสร้างพื้นฐานของผู้ใช้รถ EV ยังมีไม่มากเนื่องจากคนไทยยังมีความกังวลเรื่องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน
การที่ไทยจะสามารถเป็น EV Hub ได้จะมีทั้งการแข่งขันด้านซัพพลายเชนของแบตเตอรี่ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของสถานีชาร์จ
ขณะนี้ยังมีอีกหลากหลายประเทศที่ต้องการแย่งชิงที่จะเป็น EV Hub ในภูมิภาคอาเซียน
ที่มา : reuters