คนไทยกว่าครึ่ง เลือกไม่ซื้อรถ EV เพราะ "กลัวแบตเตอรี่แพง-แย่งกันชาร์จไฟ"
รถ EV กำลังเป็นที่พูดถึงกันทั่วโลก และในประเทศไทยได้มีการเปิดโหวตว่าสิ่งที่คนไทยกังวลที่สุดเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าคือ 'ราคาของแบตเตอรี่ที่สูง' ซึ่งสปริงนิวส์จะมาชวนคิด ว่าแบตเตอรี่ของรถ EV แพงจริงหรือ?
รถ EV (Electric Vehicle) รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ 100% เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการประหยัดค่าใช้จ่ายจากน้ำมัน แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่ยังกังวลในข้อเสียของรถ EV ต่างๆ
ผลสำรวจจากกลุ่ม EV Club Thailand ได้มีการเปิดโหวตเกี่ยวกับ "ข้อกังวลใด ที่ทำให้ไม่ใช้ รถ EV มากที่สุด" ผลโหวตได้ออกมาดังนี้
มีจำนวนคนโหวตทั้งหมด 218 ท่าน ได้สัดส่วนดังนี้
44.50% แบตฯ แพง , 12.84% ช่วงเทศกาลกลัวแย่งกันชาร์จ, 11.93% ใช้เวลาชาร์จนาน, 10.55% จุดชาร์จ มีน้อย ,6.88% ระยะทางรวมน้อย (แบตฯ 100%), 5.96% ประกันแพง, 2.75% อยู่คอนโด ติดตั้ง Wall Charge ไม่ได้, 2.75% ราคารถแพง ,1.38% ไม่เชื่อมั่นศูนย์บริการ
ส่วนใหญ่มีความกังวลเรื่อง 'แบตเตอรี่แพง' หรือกลัวว่าหากต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่จะมีราคาสูง รองลงมาคือการแย่งกันชาร์จในช่วงเทศกาล และการใช้เวลาชาร์จที่นาน และอื่นๆตามลำดับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- เทียบความคุ้มค่า "เปลี่ยนยางรถ EV ในรถสันดาป" ประหยัดกว่า ขับดีกว่าเดิม?
- ใช้รถยนต์ไฟฟ้าควรรู้ "ยางรถ EV" แตกต่างจากยางปกติอย่างไร? มียี่ห้ออะไรบ้าง
- Subaru Solterra ร่วมมือ Toyota เปิดตัวรถ EV คันแรกของค่ายดาวลูกไก่
แบตเตอรี่ EV แพงจริงหรือ?
รถ EV มีราคาแบตเตอรี่ที่สูงเป็นเรื่องจริงแบบปฏิเสธไม่ได้ และมีราคาเกือบครึ่งของตัวรถ แต่หากเราทำความเข้าใจรถยนต์ไฟฟ้าจริงๆ จะไม่ต้องกังวลอีกต่อไป
ในปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้ามีประกันแบตเตอรี่มากสุดถึง 8 ปี และอายุการใช้งานแบตเตอรี่จริงมีมากกว่านั้น ซึ่งอาจจะเสื่อมเพียง 10% จากการใช้งาน 8-10 ปี
หากมองถึงอนาคตแน่นอนว่าการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ามีจำนวนมากขึ้น จะส่งผลให้ "แบตเตอรี่ในอนาคตจะมีราคาถูกลง"อย่างแน่นอน
และรู้หรือไม่ว่าการเปลี่ยนแบตเตอรี่นั้นไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนยกก้อน เราสามารถเปลี่ยนเฉพาะเซลล์ที่เสียได้ หากเข้าใจอย่างนี้แล้ว คนซื้อรถ EV จึงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่อง 'แบตเตอรี่' อีกต่อไป เพราะหากซื้อรถยนต์ไฟฟ้าตอนนี้ และใช้ไปอีก 8-10 ปี แบตเตอรี่ก็มีแนวโน้มว่า 'ราคาจะถูกลง'
ในเรื่องของสถานีชาร์จหนาแน่นช่วงเทศกาล หรือสถานีชาร์จยังน้อยอยู่ เชื่อว่าจะถูกแก้ไขในปีนี้ และมีการขยายตัวให้การใช้รถยนต์ไฟฟ้าสะดวกมากขึ้นอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามการเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าก็ยังต้องคำนวณหลากหลายอย่าง เช่น พื้นที่อาศัยมีจุดชาร์จใกล้เคียงหรือไม่ เพราะอาจไม่สะดวกสำหรับคนอยู่ต่างจังหวัดหรือนอกเมือง
แต่หากอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครหรือปริมณฑลที่มีสถานีชาร์จให้เลือกใช้ทั่วเมือง และยังได้ความประหยัดค่าเชื้อเพลิงที่ไม่จำเป็นต้อง 'เข้าปั้มน้ำมันอีกต่อไป' และไม่ต้องจ่ายเงินกับค่าน้ำมันเฉลี่ยลิตรละ 35 บาท รถยนต์ไฟฟ้าจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี
