รถ EV เป็นอีกอย่างหนึ่งที่คนไทยให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก แต่ด้วยไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันหลายคนอาจมีข้อสงสัยว่ารถ EV สามารถเดินทางไกล-ขึ้นเขา ได้หรือไม่ วันนี้สปริงนิวส์รวบรวมข้อมูลมาให้คุณตัดสินใจซื้อได้ง่ายยิ่งขึ้น
ทำความเข้าใจพื้นฐานของรถ EV กันก่อน
ทุกคนอาจเข้าใจกันดีเกี่ยวกันพื้นฐานของรถ EV ที่ส่วนใหญ่เข้าใจว่าต้องมองเรื่องแบตเตอรี่ , ระยะทางที่วิ่งได้ไกลต่อการชาร์จ ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องสำคัญ
เทคนิคการเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการท่องเที่ยว มีอะไรบ้าง?
1.ขนาดหรือกำลังของมอเตอร์ (ไม่ควรจะต่ำกว่า 50 kW) สูงๆไว้ยิ่งดี
2.ขนาดแรงดันของมอเตอร์หรือของแบตเตอรี่ต้องเป็น High Voltage battery (ไม่ควรจะต่ำกว่า 300V) สูงๆไว้ยิ่งดี
3.ระบบ cooling system ของมอเตอร์ควรจะต้องระบายความร้อนด้วยน้ำ (liquid cooling) เป็นอย่างน้อยหรือ (ห้ามเป็น air cooling)
แต่หากเรามองรอบด้าน รถที่จะใช้ในการเดินทางไกลหรือเหมาะกับการขึ้นเขา ตั้งแคมป์ จำเป็นต้องมีพื้นที่ใช้สอยที่มากพอต่อการบรรทุกของ ไม่ว่าจะเป็น เสบียงอาหาร , อุปกรณ์ในการตั้งแคมป์ต่างๆ
ขณะนี้ในประเทศไทยยังนำเข้ารถแวนไฟฟ้า หรือรถเพื่อการแคมป์ปิ้งน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล , เบนซิน อย่างไรก็ตามหากต้องการรถเพื่อการแคมป์ปิ้งในปัจจุบันก็อาจต้องดัดแปลงและยังไม่เหมาะสักเท่าไร
แต่ยังก็มีบางรุ่น ยกตัวอย่าง เช่น BYD T3 ซึ่งเป็นรถตู้แวนไฟฟ้า
หรือ JOYLONG E6 BEV ที่มี Key Partner เป็น Toyota ที่โรงงาน Assembly จากจีน ซึ่ง JOYLONG E6 นั้นมีวางจำหน่ายที่ประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว
หรือจะเป็น Nissan e-NV200 จากค่ายญี่ปุ่น ที่มีไอเดียการทำ Camper Van EV ที่น่าสนใจ ที่ใช้งานได้ครบ ทั้งขับเล่น ท่องเที่ยว พักผ่อนเล็กๆ ซึ่งเหมาะกับประเทศไทยมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
หรือสำหรับใครที่ไม่อยากได้ Camper Van หรือรถตู้จริงจัง ก็คงต้องลองมองรถ SUV ไฟฟ้า ที่มีขนาดของตัวรถใหญ่
รถ SUV ไฟฟ้า รุ่นไหนน่าสนใจบ้าง?
เช่น Hyundai IONIQ 5 ซึ่งเป็น SUV ขนาดครอบครัวที่ใช้งานได้จริง ด้วยแบตเตอรี่ 73kWh ทำให้ระยะทางรุ่นท็อปที่วิ่งได้ไกล 450 กิโลเมตรต่อการชาร์จและยังมีเทคโนโลยีการชาร์จที่รวดเร็วอีกด้วย
KIA EV6 ที่ได้มาโชว์ตัวในงาน Motor Expo 2022 ก็น่าสนใจเช่นกัน เนื่องจากเป็น SUV Crossover ขนาดใหญ่ และด้วยรุ่นท็อปเคลมไว้ว่าวิ่งไกลได้ถึง 527 กิโลเมตรต่อการชาร์จ
EV6 ก็ยังโดดเด่นกว่าคู่แข่งด้วยห้องโดยสารที่ทันสมัยและหรูหราที่มีอุปกรณ์โค้งขนาด 12.3 นิ้วคู่หนึ่งและหน้าจอระบบสาระบันเทิง มีพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถ 490 ลิตร เบาะหลังพับแยกส่วน 60/40 และช่องเก็บของด้านหลังเบาะหลังตรงกลางที่ให้คุณเก็บของได้อย่างสะดวกสบาย
ที่จะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ก็คือ Tesla Model Y ที่รุ่น Long Range นั้นวิ่งได้ไกลถึง 506 กิโลเมตรต่อการชาร์จ บวกกับภายในที่กว้างขวางและระบบ Entertainment ที่ครบครัน และ พื้นที่ในห้องโดยสารเหมาะสำหรับผู้โดยสารทั้งห้าคน และด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระมากถึง 854 ลิตรในห้องโดยสารและ 117 ลิตรใน 'ท้ายรถ' ใต้ฝากระโปรง มีพื้นที่จัดเก็บอุปกรณ์มากมาย Tesla Model Y จึงเหมาะกับการไปท่องเที่ยวทางไกลไม่น้อย
อีกหนึ่งรถรุ่นที่คนทั่วไปจับต้องได้ก็คือ MG ZS EV ถึงแม้มีขนาดไม่ใหญ่เท่ารุ่นที่ว่ามาก่อนหน้านี้ แต่ก็มีความน่าสนใจในด้านราคา แบตเตอรี่ขนาด 68kWh ทำให้วิ่งได้ไกลสุด 439 กิโลเมตรต่อการชาร์จ
ภายใน ZS EV แทบจะไม่รู้สึกเหมือนเป็นรถราคาประหยัด ด้วยชุดอุปกรณ์มากมายและระบบอินโฟเทนเมนท์หน้าจอสัมผัสที่ใช้งานได้ มีพื้นที่กว้างขวางพอสมควรทั้งเบาะหน้าและเบาะหลัง พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระ 470 ลิตร ซึ่งเหนือกว่า EV อื่น ๆ ทั้งหมดในกลุ่มราคานี้
ข้อมูลรถทั้งหมดที่เรายกตัวอย่างมาก็จะช่วยทำให้เห็นว่าการที่คุณต้องการรถยนต์ไฟฟ้าสักคันในการท่องเที่ยว เดินทางไกล หรือตั้งแคมป์ จำเป็นต้องคำนึงถึงพื้นที่สัมภาระ ขนาดของตัวรถ ภายใน เพื่อให้การเดินทางปลอดภัยและสะดวกสบายต่อการโดยสารและเก็บสัมภาระ และเชื่อว่าในอนาคตรถ EV ที่ทำมาเพื่อการท่องเที่ยวโดยเฉพาะจะต้องมีมากขึ้น เนื่องจากคนจะมองหาความสะดวกสบายที่มากขึ้นจากเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนา
ที่มา : outdoorsmagic.com , Digital Addicted