svasdssvasds

ผุด 2 เคส รถยนต์ไฟฟ้า ปีนไหล่ทาง ที่ครอบแบตอ้า โดนค่าซ่อม 6 แสน เกินประกันภัย

ผุด 2 เคส รถยนต์ไฟฟ้า ปีนไหล่ทาง ที่ครอบแบตอ้า โดนค่าซ่อม 6 แสน เกินประกันภัย

อุทาหรณ์ ? หลังผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อหนึ่ง ขับปีนไหล่ทาง ทำฝาที่ครอบแบตอ้า โดนศูนย์เรียกค่าซ่อมกว่า 6 แสน เกินวงเงินประกันภัย จนบริษัทประกันเสนอโอนรถให้ประกันเป็นซาก เพื่อให้ได้เงินจากรถที่เสียหายไปมากที่สุด

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์รูปพร้อมเรื่องราวของ รถยนต์ไฟฟ้าค่ายหนึ่ง ระบุว่า เธอได้ออกรถยนต์ไฟฟ้าคันหนึ่ง จ่ายไปร่วม ๆ ล้านเศษ พร้อมประกันชั้น 1 ตามแคมเปญของค่ายรถ

โดยเธอ ระบุว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา หลังจาก ออกรถมาได้ 1 เดือนพอดี (18 สิงหาคม 2565) เกิดอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย มุมกล่องครอบแบตใต้ท้องรถครูดกับสันขอบทาง ทำให้มุมฝากล่องแบตอ้าออกมา ซึ่งรถก็ยังขับได้ตามปกติ

หลังจากนั้นเธอได้นำรถเข้าตรวจที่ศูนย์บริการ และนำกลับไปใช้ตามปกติเพื่อรอนัดหมายฯ แต่กลายเป็นว่าทางประกันติดต่อมาแจ้งพิจารณาคืนทุนประกันที่ 770,000 บาท เธอใช้คำว่า บริษัทประกัน "ให้โอนกรรมสิทธิของรถแก่ประกันเสมือนเป็นซาก เพราะทางค่ายรถ ตีค่าซ่อมสูงเกิน 70% ของวงเงินคุ้มครอง"

"หากเป็นอย่างนี้ ไม่เท่ากับว่าลูกค้าจู่ๆก็ต้องสูญเงินราว 2 แสนกว่าบาทจากอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย ทั้งที่มีประกันชั้น 1" ในโพสต์ดังกล่าวระบุ

ภายในโพสต์ดังกล่าวยังระบุต่ออีกด้วยว่า "ทาง..(ค่ายรถยนต์ดังกล่าว).. ตีมูลค่า ค่าซ่อม 602,998.50 บาท และทางประกันฯ บอกว่าเกินมูลค่าที่ประกันชั้น 1 จึงต้องตีเป็นซากรถ โดยคืนเงินทุนประกันให้ 770,000 บาทพร้อมกับต้องส่งซากให้ประกันฯ"

"สิ่งที่เราได้รับจาก..(ค่ายรถยนต์ดังกล่าว).. หลังจากที่เราได้ร้องขอฝ่ายสาขาอุดมสุขไป ให้เข้ามาดูแลกรณีนี้โดยเร็ว แต่ผ่านมากว่า 2 เดือน กลับมีเพียงจดหมายจากทางฝั่งประกัน ยืนยันว่าจะตีเป็นซากรถให้เรา ถึง 3 ฉบับ โดยทางค่ายกลับเงียบเฉย ไม่เคยแม้แต่จะนัดหมายเพื่อขอตรวจสอบความเสียหาย ในรายละเอียดหรือให้ข้อมูลการวิเคราะห์ทางเทคนิคอะไรเลย" โพสต์ดังกล่าวระบุ

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

ภาพรอยขูดจากผู้ใช้รายที่ 2

โพสต์ดังกล่าวยังระบุต่ออีกว่า "จนล่าสุดเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ทางฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์..(ค่ายรถยนต์ดังกล่าว).. จึงติดต่อกลับมา และ ยังยืนยันว่าค่าซ่อมเป็นมูลค่า 602,998.50 บาท โดยประกันจะช่วย 5 แสนกว่า และทางค่ายจะให้ส่วนลดอีกประมาณ 40,000 กว่า ส่วนที่เหลือราว ๆ 30,000 ลูกค้าจะต้องจ่ายเอง"

ภายในโพสต์ยังได้ตั้งขอสังเกตุและเรียกร้อง 3 ข้อ ดังนี้

  1. ดิฉันสมควรต้องรับผิดชอบส่วนต่างร่วม 30,000 บาทนี้อย่างนั้นหรือ ทั้งที่รถมีประกันชั้น 1 ด้วยอุบัติเหตุที่มีความเสียหายภายนอกเพียงเล็กน้อย แต่กลับถูกประเมินอย่างไม่ใส่ใจให้ต้องแบกมูลค่าความเสียหายที่สูงลิบลิ่ว (ด้วยราคาค่าอะไหร่+ค่าแรง ที่กำหนดโดย … ) ซึ่งจนแม้ถึงขณะนี้ ดิฉันก็ยังไม่ได้รับการนัดหมายเข้าตรวจสอบทางเทคนิคใดๆ จาก … เพื่อให้ความกระจ่างกับลูกค้าว่า อะไรบ้างต้องซ่อม ต้องเปลี่ยน เพราะอะไร มีราคารายละเอียดอะไรบ้าง ฯลฯ
  2. ทำไมแคมเปญประกันชั้น 1 ที่ทาง … ให้กับลูกค้า เป็นทุนคุ้มครองความเสียหายเพียง 770,000 บาท ทั้งที่ตัวรถมีมูลค่า 959,000 บาท (หลังหักเงินสนับสนุนจากรัฐ) ซึ่งถามจริง มีลูกค้าท่านไหนบ้างที่ซื้อรถจากทางบริษัทฯ จะสังเกตมูลค่าเอาประกันไม่ตรงคุ้มครองเต็มมูลค่าจริงที่ซื้อมา …. แต่เอาเป็นว่า ทุนประกันฯคุ้มครองไม่เต็มมูลค่ารถทั้งคันตั้งแต่ต้น พอมีความเสียหายสูง จึงเสนอจะปิดคืนเพียงทุนประกัน แล้วจะเอาความชอบธรรมอะไรเข้าครอบครองกรรมสิทธิในรถทั้งคัน โดยเหมาเอาเองว่าเป็นซากและจะต้องโอนให้ประกันฯ … ประเด็นนี้ คงต้องพึ่งความเป็นธรรมจาก คปภ.
  3. ทำไมบริษัท … ถึงตีมูลค่าซ่อมสูงถึง 602,998.50 บาท ทั้ง ๆ ที่ความเสียหายมีเพียงแค่ฝากล่องคุมแบตที่อ้าออก แม้จะอ้างว่าต้องเปลี่ยนกล่องครอบแบตและชุดแบตใหม่ทั้งชุด แต่ จริงๆแล้วคุณเป็นผู้ผลิตแบตดังกล่าว จะไม่มีหนทางเชียวหรอ ถ้าเช่นนั้น ใครก็ตามที่เจออุบัติเหตุใต้ท้องรถเพียงเล็กน้อย คงต้องได้รับความเสียหายเช่นเดียวกับดิฉันทุกรายไป!

ไม่ได้มีแค่เคสเดียว

ขณะเดียวกัน ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ค่ายเดียวกันกับโพสต์แรก ระบุว่า "เมื่อวันจันทร์ที่​ 21พ.ย. 65 แฟนผมเอาไปเข้าศูนย์ที่ จังหวัดสุพรรณ​ พอเลี้ยวเขัาศูนย์ทางขึ้นค่อนข้างชันจึงมองไม่เห็นฟุตบาท​ทางด้านซ้ายรถจึงเกยฟุตบาท​เล็กน้อยทางประกันแจ้งว่า​ ต้องเปลี่ยนแบตราคา​ 620,000​ บาท​ แต่ประกันจะเคลมให้ประมาณ​ 580,000 ที่เหลือให้ผมจ่ายส่วนต่าง"

"ผมไม่ยอมประกันเสนอคืนเงินประกัน70% ผมก็ถามว่า​ แล้วส่วนต่างที่ผมจ่ายไปใครรับผิดชอบในเมื่อตอนออกรถวารันตรีว่า​ ประกันแบตที่​ 8​ ปี​ หรือ​ 160,000 โล รถผมเพิ่งวิ่งไปแค่​30,000​ กว่าโล​ ตอนนี้ยังเงียบไม่มีคำตอบ"

เรื่องนี้ต้องติดตามต่อไปว่าวันจันทร์(28 พ.ย.) ทางค่ายรถยนต์ที่เป็นปัญหาจะออกมาชี้แจ้งเพิ่มเติมหรือไม่ ? ทั้งนี้ วันที่ 1-12 ธ.ค. 2565 จะเป็นงาน Motor Expo 2022 - มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 คำถามจากเรื่องนี้อาจกลายเป็นหนึ่งในคำถามที่จะถูกถามไปยังดีลเลอร์ในงานด้วย

ที่มา [1] [2]

related