เชื่อว่าหลายคนที่กำลังตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจะต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายต่างๆในการบำรุงรักษาดูแล และการทำประกันภัยก็เช่นกันเนื่องจากต้องจ่ายทุกปี แต่ล่าสุดมีแนวโน้มว่าประกันรถ EV จะถูกกว่ารถยนต์ทั่วไปถึง 25%
ก่อนหน้านี้ทาง คปภ. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย) ได้ประกาศในเรื่องของประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่จะมีราคาสูงกว่ารถยนต์ทั่วไป
ซึ่งรถในฝั่งเอเชีย เช่น จีน จะสูงกว่า 5-10% แต่ในส่วนของรถยนต์ยุโรปจะแพงกว่า 10-15% ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้หลายคนอาจไม่อยากซื้อรถยนต์ EV
สาเหตุที่ทำให้ “ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าแพง”
รถยนต์ไฟฟ้าในไทยที่จดทะเบียนตอนนี้มีประมาณ 20,000 คัน และยังคงไม่มีสถิติและข้อมูลมากเพียงพอ ประกอบกับรถ EV จำเป็นต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ยกชุด ไม่ว่าจะเสียหายน้อยหรือมาก
โดยเฉพาะหากเสียหายในส่วนของ “แบตเตอรี่” เมื่อเทียบกับรถยนต์น้ำมันก็จะสามารถซ่อมได้ง่ายและถูกกว่า เนื่องจากสามารถซ่อมเฉพาะจุดได้
จากการเก็บสถิติข้อมูล รถยนต์ไฟฟ้า กับ รถยนต์ทั่วไป มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุอยู่ใกล้เคียงกัน แต่สิ่งที่ต่างกันคือค่าใช้จ่ายของบริษัทประกัน ขณะนี้สูงกว่า 30-40% และนี่คือสาเหตุของราคาประกันภัยรถยนต์ EV ที่สูงกว่ารถทั่วไป
แต่ล่าสุดรัฐบาลมีการสนับสนุนส่วนลดต่างๆและรวมมีการประชุมและเรียกบริษัทประกันภัยรถยนต์ต่างๆเข้ามาพูดคุยเพื่อหาทางออกเพื่อจะลดราคาประกันภัยรถยนต์ EV ซึ่งเป็นมาตรการระยะสั้น
1.จำกัดการจำนวนเงินคุ้มครองแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า คุ้มครองสูงสุดแค่ 50%
2.กำหนดความรับผิดส่วนแรก เช่น การที่ขับรถไปชนคนแล้วเป็นฝ่ายผิดและ “แบตเตอรี่เสียหาย” ซึ่งสูงสุดอยู่ที่ 15% ของความเสียหายที่เกิดขึ้น กรณีอื่นๆผู้ซื้อประกันไม่จำเป็นต้องจ่าย
3.Co-payment จ่ายเงินร่วมกับบริษัทประกัน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด ทุกกกรณีที่ทำให้แบตเตอรี่เสียหาย ผู้ซื้อประกันต้องจ่ายสูงสุดไม่เกิน 15%
ให้ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าอยากจ่ายเงินค่าประกันแบบไหน ครอบคลุมมากแค่ไหนบ้าง ซึ่งจะทำให้เบี้ยประกันนั้นถูกลง 10-25%
ทางคปภ. ได้ประชุมกับบริษัทประกันแล้วและยืนยันประกาศว่า จะไม่มีการขึ้นราคาเบี้ยให้แพงไปมากกว่านี้ และในอนาคตจะมีการเก็บสถิติเพิ่มเติมเพื่อลดราคาประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าให้เทียบเท่าหรือถูกกว่ารถยนต์ทั่วไปและเพื่อเป็นการสนับสนุนให้คนไทยใช้รถยนต์พลังงานสะอาด