ยาน Nova-C Odysseus ยานจากบริษัทเอกชนรายแรกของโลก ลงจอดบนดวงจันทร์

โลกแห่งการสำรวจอวกาศ เดินทางสู่หมุดหมายใหม่ที่สำคัญอีกครั้ง  เมื่อ  Intuitive Machines กลายเป็นบริษัทเอกชนรายแรกของโลกที่ประสบความสำเร็จในการลงจอดบนดวงจันทร์ด้วยยานอวกาศ Nova-C "Odysseus"  ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ตามเวลาของไทย  โดยมีเป้าหมายภารกิจ วางโครงสร้างพื้นฐานบนดวงจันทร์เพื่อรองรับภารกิจอื่น ๆ ในอนาคต

หากลงลึกถึงรายละเอียด , เวลา 06:23 ของเช้าวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 ตามเวลาไทย นับเป็นช่วงเวลาที่ยาน Nova-C ของบริษัท Intuitive Machines ต้องลดระดับลงสู่พื้นผิวของดวงจันทร์ หลังจากที่เดินทางออกจากโลกในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2024 หรือ เมื่อ 8 วันก่อน โดยหลังจากลงจอด ทีม Intuitive Machines ใช้เวลาในการรอยืนยันสัญญาณ   

หลังจากนั้นไม่นานเกินรอความสำเร็จ , เวลาราวๆ 6:40 น. ทีม Flight Control ได้ยืนยันว่า ยานอวกาศ Nova-C  ได้พูดคุยกับโลกผ่านระบบสื่อสาร ยืนยันการลงจอดว่า Nova-C "Odysseus" อยู่ในสภาพสมบูรณ์ 

โดย Tim Crain ทิม เคน เจ้าหน้าที่ Flight Director (ผู้อำนวยการเที่ยวบิน) ได้บอกว่า Nova-C "Odysseus" ส่งสัญญาณอ่อน ๆ กลับโลก ซึ่งหลังจากนี้ต้องรอการเชื่อมต่อสัญญาณกับจานที่ใหญ่กว่า (เช่นระบบ Deep Space Network) เพื่อยืนยันสถานะเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นไม่นาน  Nova-C นั้นอยู่บนดวงจันทร์และส่งสัญญาณกลับมาที่โลกสำเร็จ

สำหรับ ยาน Nova-C ในภารกิจ IM-1 หรือ CLPS-2 นี้ ได้รับชื่อเล่นว่า Odysseus

ทั้งนี้ หาก  พูดถึงบริษัทเอกชนด้านอวกาศ โดยเฉพาะบริษัทที่เข้ามาร่วมในโครงการ Commercial Lunar Payload Service หรือ CLPS  คนทั่วไปในการรับรู้ก็จะนึกถึงบริษัทอวกาศที่มีประวัติเข้าร่วมโครงการ Google Lunar X Prize ซึ่งเป็นการแข่งขันสร้างยานอวกาศไปดวงจันทร์ในช่วงปี 2007 ซึ่งแม้จะไม่มีบริษัทใดเลยชนะการแข่งขัน แต่เทคโนโลยีที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น ก็ได้รับการถ่ายทอดสืบต่อให้กับยานอวกาศปัจจุบัน 

บริษัท Intuitive Machines กลับเป็นบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งในปี 2013 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองฮูสตัน ในรัฐเท็กซัส สหรัฐฯ และได้เอาเทคโนโลยีโครงการ Morpheus Lander ของ NASA Johnson Space Center ในช่วงปี 2010-2014 มาพัฒนาต่อ จนประสบความสำเร็จในครั้งนี้ 

Nova-C  เป็นยานอวกาศหนัก 1,900 กิโลกรัม เส้นผ่านศูนย์กลาง 2 เมตร สูง 3 เมตร รองรับ Payload ลงสู่ผิวดวงจันทร์ได้ 100 กิโลกรัม สามารถจ่ายพลังงานให้กับตัวยานและ Payload ด้านในได้ 200 วัตต์ ใช้การออกแบบที่เรียบง่าย ตรงไปตรงมา และได้รับการออกแบบให้ทำงานได้เพียงแค่ 14 วันเท่านั้น เนื่องจากตัวยาน จะลงจอดที่ด้านสว่าง (กลางวัน) ของดวงจันทร์ และใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ รวมถึงรักษาอุณหภูมิให้ทำงานได้ในช่วงกลางวัน (Operating Temperature) ซึ่งไม่รองรับการทำงานช่วงเวลากลางคืนของดวงจันทร์ ทั้งในแง่กระแสไฟฟ้า และอุณหภูมิ

ณ เวลานี้  Intuitive Machines เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่น่าจับตามองทั้งในโครงการ CLPS และการทำการตลาดด้านโครงสร้างพื้นฐานบนดวงจันทร์ในอนาคต

ขณะที่ บิล เนลสัน ผู้อำนวยการองค์การนาซา (NASA) กล่าวยินดีกับความสำเร็จครั้งนี้ ว่า “วันนี้ เป็นครั้งแรกในรอบกว่าครึ่งศตวรรษที่สหรัฐฯ ได้กลับสู่ดวงจันทร์แล้ว วันนี้ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติที่บริษัทเอกชนซึ่งเป็นบริษัทอเมริกันได้เปิดตัวและเป็นผู้นำการเดินทางไปที่นั่น”

ที่มา abcnews

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เกร็ดน่ารู้ อพอลโล 17 การเยือนจันทร์ครั้งสุดท้ายของมนุษยชาติ สำคัญอย่างไร?

• NASA เตือน 'พายุสุริยะ' โจมตีโลกวันที่ 30 พ.ย. 2023 คาดวิทยุ - GPS ดับหลายจุด

• NASA จับโครงการจรวด Artemis ลงเกม Minecraft จำลองของจริงให้เด็กได้เรียนรู้