ปตท. เผยความสำคัญของเทคโนโลยีและดิจิทัล ต่อธุรกิจและอนาคตของมนุษย์

เทคโนโลยี หลายๆคนคิดว่าเป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์ของวิศวกรรมแต่จริงแล้วมันมีผลต่อเศรษฐกิจและสังคม และที่สำคัญเวลาเราพูดถึงเทคโนโลยี มันมีผลต่อความสำคัญต่อการแข่งขันในการพัฒนาประเทศ

WEF การปฎิวัติของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในปัจจุบันมีเพียง 4 ครั้งเท่านั้น

เริ่มจากเรื่องของการเก็บพืชผักและล่าสัตว์จากในป่า เปลี่ยนเป็นการเพาะเลี้ยงปศุสัตว์ , จนมาถึงการค้นพบเครื่องจักรกลไอน้ำและระบบสายพานและทำให้เรามีโรงงานเกิดขึ้นในด้าน Mass Production และเริ่มเกี่ยวกับดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ และนำ Digital Techonlogy มาใช้ และก้าวสู่ Digital Tranformation ที่นำเทคโนโลยีมาใช้ในปัจจุบัน

แต่กระบวนทั้งหลายทั้งปวงอยู่ภายใต้เซมิคอนดักเตอร์ ,ไมโครชิป และอื่นๆที่เป็นตัวขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีต่างๆ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• ห้ามพลาด! SPRiNG ชวนร่วมงาน “Digital Life Forum 2023” นวัตกรรม เปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนโลก
• "อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์" CEO ปตท. คว้ารางวัลสุดยอดผู้นำองค์กรแห่งปี 2023
• ปตท. ยืนยันแผ่นดินไหวนอกชายฝั่งเมียนมา ไม่กระทบการรับส่งก๊าซธรรมชาติ

ถ้าพูดถึงในเรื่องของดิจิทัลง่ายๆ ปัจจุบันเราใช้เทคโนโลยีกันแทบทุกคน ไม่ว่าจะเป็นในฝั่งธุรกิจ Digital Platform มีเครือข่ายมีคนใช้มากมาย ซื้อขายของออนไลน์ , Digital Innovation ดิจิทัลผสมผสานกับอุตสาหกรรมอื่นๆ

ส่วนในด้านการใช้งานคือ Digital as a Tools ซอฟต์แวร์โปรแกรมต่างๆ , Digital as a Products ซึ่งทำให้รู้ว่าเราทุกคนมีความเกี่ยวข้องกับดิจิทัล

ยุคก่อนกว่านวัตกรรมอย่างวิทยุใช้งานกันทุกคน ใช้เวลากว่า 38 ปี แต่เมื่อยุค iPod ของ Apple เข้ามาแทรกใช้เวลา 4 ปี Facebook ใช้เวลา 1 ปี Twitter ใช้เวลา 9 เดือน ChatGPT ใช้เวลาแค่ 2 เดือน ซึ่งทำให้เห็นว่าการแพร่กระจายทำได้รวดเร็วกว่าเดิมมาก

ดิจิทัลหรือเทคโนโลยีชอบเปลี่ยนให้คนที่ไม่ทำอะไรเลยอยู่ไม่ได้ ซึ่งกราฟนี้แสดงให้เห็น ปี 1935 บริษัทที่ปิดอยู่ใน S&P 500 จะสามารถอยู่ยั่งยืนได้ไป 50 ปี แต่ ณ วันนี้ใช้เวลาอยู่ในลิสต์นี้ได้เพียง 20 ปี และมองในปี 2020 อาจจะอยู่สั้นแค่ 12 ปี ซึ่งเทคโนโลยีทำให้การแข่งขันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

50% ของผู้นำหรือ CEO จำเป็นต้องคิดธุรกิจใหม่ๆมาแทนที่ธุรกิจเดิมภายในเวลา 5 ปี

ขนาดเทคโนโลยีมีขนาดใหญ่เป็น 1 พันล้านเหรียญไม่ว่าจะเป็น Connectivity Cloud AI และทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นระดับโลก ซึ่งวิศวกรรมในอนาคตยังต่อยอดไปได้สู่ Clean Energy , Future of Mobility , Future of Sustainable Consumption , Future of Bioengineering , Future of Space Technologies

AI ที่เรารู้จักกันมาไม่นาน และที่สำคัญวันนี้ AI ฉลาดขึ้นทุกนาทีทุกชั่วโมง ทำให้ AI ต่างๆเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากนำ AI ไปใช้กับงานปัจจุบันทำให้มีมูลค่ากว่า 2.6-4.4 พันล้านเหรียญฯ

ซึ่งทำให้เห็นว่าหากเรานำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับธุรกิจและไม่ใช่แค่เพียงใช้เทคโนโลยีเท่านั้นจะช่วยให้การพัฒนาธุรกิจและชีวิตประจำวันเป็นไปได้ตามยุคดิจิทัลมากขึ้น

ย้อนกลับมาที่ ปตท. เอง เราก็เจอความท้าทายนอกจากเรื่องของเทคโนโลยี ความท้าทายในเชิงธุรกิจ ซึ่ง Net Zero เป็นวาระแห่งชาติที่ทุกธุรกิจต้องทำร่วมกัน

การใช้พลังงานต้องเป็นพลังงานที่สะอาดและไม่มีผลกระทบต่อราคาพลังงานที่สูงเกินไป ก็จะกระทบต่อเรื่องเศรษฐกิจ และเมื่อเราใช้ Clean Energy จะช่วยเพิ่ม GDP ได้อย่างไร

ซึ่งถ้าอยากทำให้พลังงานสะอาด เราต้องเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การขนส่งมวลชนแทน หรือการลดการใช้ไฟ หรือเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดไฟ

เราต้องลงทุนในเรื่องพลังงานสะอาด ไม่ว่าจะเป็นพลังงานจากแสงอาทิตย์ , พลังงานลม หากเราทำสองเรื่องแล้วยังมีการปล่อย Co2 อยู่ เราต้องเก็บ Co2 ที่ปล่อยออกมาไปกลับไว้ในหลุมที่เราเจาะสำรวจ ซึ่งปตท. ต้องไปสู่พลังงานสะอาด

ถัดมาประเทศหรือแม้กระทั่งโลกกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย ทำอย่างไรให้เราเป็นผู้สูงอายุอย่างมีสุขภาพดี อายุขัยยืนยาวขึ้น ไม่มีโรคติดต่อ เราต้องใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์มาทำการวินิจฉัย

มีเรื่องเทคโนโลยีเกิดขึ้นมากมายบางคนเป็นผู้ใช้บางคนเป็นผู้สร้าง ปตท. เอง คุ้นเคยกับโรงกลั่นน้ำมัน และเป็นบริษัทพลังงานชั้นนำข้ามชาติ

2 ปีที่ผ่านมา ในยุคที่เกิดโควิด-19 เราขอเปลี่ยนวิสัยทัศน์ขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังงานแห่งอนาคต ซึ่งในอนาคตจะต้องเป็นพลังงานสะอาด พลังงานทดแทนต่างๆ หรือเรื่องของการขายน้ำมันก็เปลี่ยนเป็นการใช้ไฟฟ้า

แต่สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่เราจะเปลี่ยนไปได้ จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เราจึงมองว่าในเรื่องของพลังงานเราจำเป็นต้องเป็นแบบ One Stop Service ซึ่ง REC Market Place ที่สามารถแลกเปลี่ยนหมุนเวียน ซื้อขายแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิต เชื่อมโยงภายในนิคมอุตสาหกรรม , หมู่บ้าน และเชื่อมโยงไปสู่ระดับประเทศ ซึ่งต้องทำจากระบบบล็อกเชน

ถ้าเราพูดถึงรถ EV ไม่ใช่แค่การเติมน้ำมัน ไม่ใช่การเปลี่ยนเป็นไฟฟ้า มันเป็นระบบที่รถทุกคันสามารถเชื่อมต่อซึ่งกันและกันได้ สิ่งที่เชื่อมกันได้โดยไมโครชิป การขับรถ EV สามารถสื่อสารระหว่างแบตเตอรี่และชาร์จไฟต่างๆ ซึ่งเรียกว่า EV Ecosystem ซึ่งก็อยู่ภายใต้ระบบดิจิทัล

ปั้มน้ำมันของ OR เองเดิมทีที่มีปั้มและร้านสะดวกซื้อ และอนาคตสามารถพัฒนาเป็น Cloud Kitchen ได้ ให้ธุรกิจอื่นๆมาใช้พื้นที่ของปั้มได้ และยังได้พัฒนาแอปพลิเคชั่น xplORe ที่จะช่วยให้การจ่ายเงินสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

ในเรื่องของการแพทย์ Digital Technology in Healthcare ไม่ว่าจะเป็น Telemedicine , หุ่นยนต์ผ่าตัดต่างๆ เดี๋ยวนี้ยังสามารถกลืนบางอย่างเข้าไปเพื่อแทนการส่องกล้อง ซึ่งเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าอนาคตเทคโนโลยีจะช่วยให้การแพทย์ง่ายยิ่งขึ้น

ปตท. ยังมีการพัฒนาการผลิตต่างๆ โดยใช้เทคโนโลยี Predictive Matintenance & Machine Monitoring Solution เข้ามาวิเคราะห์ชิ้นส่วนต่างๆว่าต้องมีการบำรุงรักษาหรือไม่

ในเรื่องของ Cloud และ AI ซึ่ง Data Center ของทางปตท. และมีการไปเช่าซื้อและมาพัฒนาด้วย ซึ่งทำให้เห็นว่าบริษัทพลังงาน เหมือนดูจะไม่เกี่ยวข้องกัน แต่จริงแล้วดิจิทัลเข้ามาช่วยและมีความสำคัญกับธุรกิจ

วันนี้อนาคตดิจิทัลไม่ได้มาจากพลังงานของเทคโนโลยีอย่างเดียว แต่มาของพลังของผู้บริโภคและนักธุรกิจที่นำมาตอบโจทย์และใช้โอกาสทำงานร่วมกับเทคโนโลยีได้