แจ็ค หม่า ยังเงียบ หลังยังไม่ดำเนินเรื่องขายหุ้น อาลีบาบา สักหุ้นเดียวแม้ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจะเจอภาวะหุ้นตก รวมทั้งปัญหากดดันอย่างหนักจากรัฐบาลจีน แต่เขาก็ยังเลือกเก็บตัวเงียบ
แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา ยังไม่เดินหน้าขายหุ้นอาลีบาบา ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีน เพื่อเอาเงินทุนมากอบกู้ภาวะวิกฤตของบริษัท หลังเจอภาวะหุ้นร่วงหนักจากปัญหาสะสม
Jane Jiang ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของอาลีบาบา แจ้งกับเอกสารภายในต่อพนักงานว่า แจ็ค หม่ายัง ไม่ได้ทำเรื่องขายแม้แต่หุ้นเดียวหลังกระแสข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้
แม้ว่าก่อนหน้านี้เอกสารภายในของอาลีบาบา จะเคยให้ข้อมูลว่า แจ็ค หม่า ต้องการขายหุ้น 10 ล้านหุ้น มูลค่า 870 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3 หมื่นกว่าล้านบาท หลังจากพบว่าบริษัทเจอปัญหาระส่ำในตลาดหุ้น แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีนี้
Jane กล่าวอีกว่า ปัจจุบันหุ้นของอาลีบาบามีการซื้อขายที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของบริษัท โดยแผนการขายหุ้นนี้เป็นเรื่องราวที่เคยปล่อยออกมาเมื่อเดือนสิงหาคม และถูกถามย้ำขึ้นมาอีกครั้งเมื่อ16 พ.ย. 2566 หลังจากที่มีการเปิดเผยผลประกอบการครั้งนี้
หลังจากมีการเปิดเผยรายได้ออกมา อาลีบาบา กล่าวว่าจะไม่แยกธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งอีกต่อไป เพราะนักลงทุนจับตาธุรกิจนี้อย่างมากจนส่งผลให้หุ้นร่วงลงประมาณ 9%
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หุ้นที่จดทะเบียนในสหรัฐฯของอาลีบาบา จากที่มีการซื้อขายสูงถึง 101 เหรียญและมูลค่าตอนปิดตลาดอยู่ที่ 78.94 เหรียญ นั่นหมายความว่า แจ็ค หม่า จะขายหุ้นได้ 10 ล้านหุ้น สร้างผลกำไรสุทธิประมาณ 789.4 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.7 หมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าราคาขายที่ต้องการอยู่ที่ 870 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 3 หมื่นกว่าล้านบาท
ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา กลายเป็นเป้าหมายของปักกิ่งในฐานะของการปราบปรามเทคโนโลยีของจีนเพื่อรักษาฐานอำนาจของบริษัท และเขาได้อุทิศเวลาไปกับการสอนและวิจัยในมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อลดบทบาทในธุรกิจอีคอมเมิร์ซระดับประเทศนี้
แม้อาลีบาบาจะมีการปรับแยกย่อยธุรกิจออกเป็น 6 กลุ่มเพื่อกระจายอำนาจในการบริหารและเปลี่ยนซีอีโอใหม่แล้ว แต่ดูเหมือนว่า อาลีบาบา ยังเป็นเนื้อก้อนใหญ่ที่ทุกคนอยากรุมกินไม่หยุด
ที่มา : CNBC
ภาพ : Reuters
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม