พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ เผยสัปดาห์หน้าจะทำจดหมายเปิดผนึกถึง 20 มหาเศรษฐี ร่วมเป็นหนึ่งในทีมประเทศไทยสู้โควิด 19?
มหาเศรษฐีไทย เวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า พี่น้องประชาชน วันนี้ผมต้องการรายงานให้ทุกท่านทราบถึงงานที่ผมกำลังจะทำ และบทบาทสำคัญของพวกเราคนไทยทุกคนในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า ก่อนอื่นผมขอถือโอกาสวันปีใหม่ไทยที่เพิ่งผ่านไปกล่าวสวัสดีวันปีใหม่ไทย กับคนไทยทั้งประเทศ
ผมขอให้ทุกท่านมีสุขภาพกาย สุขภาพใจ ที่สมบูรณ์แข็งแรง และผมหวังว่าทุกท่านจะมีความสุขในวันสำคัญอีกวันของคนไทย นั่นคือวันครอบครัว
ถึงแม้ว่าปีนี้จะแตกต่างไปจากทุกปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังเป็นวันสงกรานต์และวันครอบครัว ที่มีความหมาย เพราะเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราได้เห็นว่า สิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตของเราคือครอบครัว ไม่ว่าเราจะต้องเจอกับปัญหาใดๆ ก็ตามคนที่อยู่เคียงข้างเรา ก็คือ พ่อ แม่ พี่น้อง และลูกหลานของเรา
ปีนี้ ครอบครัวของพวกเราใหญ่ขึ้นกว่าเดิม มากกว่าเพียงแค่ญาติพี่น้องทางสายเลือด แต่ครอบครัวของเรา คือเป็นคนไทยทั้งประเทศ ที่อยู่รอบข้างเรา 70 ล้านคนในช่วงวิกฤตนี้ มีแค่พวกเรากันเองในครอบครัวไทยเท่านั้น ที่จะพึ่งพากันได้ ที่จะช่วยกันบรรเทาความทุกข์ร้อน และความยากลำบากที่ทุกคนต้องเผชิญ อย่างเช่นคนแปลกหน้าที่ซื้ออาหาร มาแบ่งปันให้เราได้อิ่มท้อง แบ่งเบาภาระให้เราอยู่รอดต่อไปได้ นี่ คือหมายความของการเป็นครอบครัวเดียวกัน
ปัจจุบันประเทศไทยของเรากำลังอยู่ในภาวะการณ์ที่ตึงเครียดที่สุด กำลังทำลายชีวิต และการดำรงชีวิตของคนไทยจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อถ้ามองไปทั่วโลก เราก็เห็นได้ว่า วิกฤตโควิด ได้ก่อให้เกิดความเสียหายมากมาย โดยไม่สนใจว่าเป็นประเทศร่ำรวย ประเทศยากจน หรือประเทศมหาอำนาจ ปัจจุบันหลายประเทศ ทั้งในภูมิภาคตะวันตก ยุโรป และอื่นๆ รวมถึงประเทศที่มีการพัฒนาสูงสุดก็มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก และมีจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นหลักหมื่นโดยผู้เชี่ยวชาญยังคาดการณ์ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิต อาจพุ่งสูงไปถึงหลักแสนต่อไปในอนาคตซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้ ไม่เพียงเกิดกับชีวิตของผู้คนเท่านั้น แต่ยังเสียหายไปถึงการทำงาน การค้าขาย และการทำมาหากิน ที่เกือบจะหยุดชะงักทั้งหมด นี่จึงเป็นภาวะวิกฤตครั้งใหญ่ที่ทุกรัฐบาลจำเป็นต้องดึงศักยภาพที่ดีที่สุดออกมาให้ได้
ตอนนี้งานที่ผมมุ่งเน้นเป็นสำคัญ แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มงานหลัก กลุ่มงานแรกคือ งานที่เกี่ยวกับสุขภาพ หมายถึง สิ่งที่เราต้องทำ เพื่อลดการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 และ เพื่อเพิ่มความสามารถ ในการรักษาผู้ติดเชื้อ กลุ่มงานที่ 2 คือ งานเกี่ยวกับการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ให้มีเงินเพียงพอต่อการดำรงชีวิต ผ่านมาตรการและความช่วยเหลือต่างๆ ซึ่งผมได้มอบหมายให้
กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักในการคิดและปฏิบัติมาตรการต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ
หน้าที่ของผม คือ การบัญชาการและควบคุมการทำงานทั้งหมดของรัฐบาล แทนพี่น้องประชาชน ผมต้องเป็นผู้นำให้ทุกกระทรวง ทุกหน่วยงาน ทำหน้าที่อย่างถูกต้อง เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ
ผมทราบดีถึงความกังวลของพี่น้องประชาชน เกี่ยวกับมาตรการเยียวยา 5,000 บาท และมาตรการอื่นๆของกระทรวงการคลัง ผมไม่ได้นิ่งนอนใจ วันนี้ผมได้สั่งการเรียกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้เกี่ยวข้อง ให้เข้ามาพบผม เพื่ออธิบายที่มาที่ไปและเหตุการณ์ทั้งหมดให้ผมทราบ ว่าปัญหาเกิดจากอะไร และจะแก้ไขอย่างไร นอกจากเงิน 5,000 บาทแล้ว ช่วยไปติดตามงานของหลายกระทรวงมีมาตรการช่วยเหลือออกมาเกือบทุกกระทรวง ทุกกระทรวงช่วยเหลือเต็มที่ โดยภาครัฐจะเข้าไปดูแลกลุ่มเป้าหมาย
นอกเหนือจาก 2 งานหลักที่ผมเพิ่งกล่าวไปแล้ว ผมขอพูดถึงอีกหนึ่งหน้าที่ที่ผมถือว่าสำคัญที่สุดและเป็นหน้าที่ ที่คนไทยทุกคนจะต้องมีบทบาทร่วมกันกับผม หน้าที่สำคัญนี้ จะสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้น ได้มากกว่าที่ผ่านมาหลายเท่า เป็นหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องกับวิธีการทำงานของเรา ถ้าเราต้องการจะเอาชนะสงครามกับไวรัสโควิด-19 ให้ได้ ซึ่งหน้าที่นี้ ต้องเริ่มจากการยอมรับความจริง เราต้องยอมรับจุดแข็ง จุดอ่อน และข้อจำกัดของตัวเอง ความคิดที่แตกต่าง
เราต้องยอมรับว่า ปัญหาความเสียหายที่เกิดจากไวรัสโควิด-19 จะแก้ไขได้ด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาล กับภาคส่วนต่างๆ และเราต้องยอมรับว่า รัฐบาลเพียงฝ่ายเดียวคงไม่สามารถหาคำตอบให้กับทุกปัญหาได้ คนกลุ่มอื่น และภาคส่วนอื่นๆ ก็อาจจะมีคำตอบที่ดีและมีความคิดที่ดีได้ด้วยเช่นเดียวกัน
วิกฤตโควิดครั้งนี้ ใหญ่และซับซ้อนมาก หน้าที่ของเราจึงต้องต่อสู้ไปด้วยกัน แบบเป็นหนึ่งเดียวทั้งประเทศ เราทุกคน จะต้องเป็นทีมประเทศไทยด้วยกัน เราจะต้องหาความร่วมมือ ดึงทุกภาคส่วนของสังคม รวมถึงกลุ่มธุรกิจ ทุกกลุ่ม ทุกคน ที่มีความรู้ความสามารถ และพร้อมที่จะช่วยเหลือประเทศเราต้องการคนเก่ง ที่มีอยู่มากมายในประเทศของเราให้มาร่วมมือกันนี่คือ ทีมประเทศไทย ไม่ว่าจะมาจากภาครัฐ จากมหาวิทยาลัย ศูนย์วิจัยต่างๆ มาจากภาคเอกชน กลุ่มมหาเศรษฐี หรือพี่น้องประชาชน ที่ยอมเสียสละตัวเอง เข้ามาร่วมกันต่อสู้ เหมือนกับที่ทำอยู่ทุกวันนี้ ร่วมกับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข และอาสาสมัครมากมาย ได้เสียสละตัวเองอย่างกล้าหาญ เผชิญความเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอยู่ทุกวัน เพื่อช่วยรักษาชีวิตของผู้อื่น
ผมทราบว่า หลายภาคส่วนในทีมประเทศไทย ได้เริ่มลงมือทำอะไรที่สำคัญ และมีประโยชน์ไปแล้วหลายอย่าง แต่วันนี้ผมต้องการเพิ่มความร่วมมือกับท่านทั้งหลาย ให้มากยิ่งขึ้น โดยเริ่มที่ภาคเอกชนก่อน สิ่งที่ผมจะทำในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า ประการแรก คือผมจะออกจดหมายเปิดผนึกถึงมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย 20 ท่าน ขอให้ท่านเหล่านั้นได้บอกผมว่า ในฐานะที่ท่านเป็นผู้อาวุโสของสังคม ท่านจะร่วมมือกันกับเราอย่างไร และท่านจะลงมือช่วยเหลือประเทศไทยของเราให้มากขึ้น ได้อย่างไรบ้าง มหาเศรษฐีของประเทศไทยทั้งหลาย ล้วนมีอิทธิพลอย่างมากต่อเศรษฐกิจของประเทศ และถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ผมขอให้ท่านได้มีบทบาทสำคัญ ในการร่วมกันช่วยเหลือประเทศ และร่วมเป็นทีมประเทศไทยด้วยกันกับเรา
ผมเข้าใจและซาบซึ้ง ที่หลายท่านได้ลงมือทำไปแล้วหลายเรื่อง แต่ผมต้องการให้ทุกท่าน ทำเพิ่มเติม มากกว่าที่ท่านได้ทำไป.ผมรู้ว่าทุกท่านต่างก็เต็มใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ประเทศ ต้องการความช่วยเหลืออย่างมากที่สุด เพราะผมรู้ว่า ความเดือดร้อนของคนไทยก็คือความเจ็บปวดของท่านด้วย
ผมขอให้ทุกท่าน ได้แบ่งปันความสามารถ และความฉลาดหลักแหลมรวมทั้งมุมมองอันมีวิสัยทัศน์ของพวกท่าน พร้อมกับใช้องค์กรที่มีศักยภาพสูงของท่าน มาช่วยกันจัดการกับวิกฤตที่เรากำลังเผชิญอยู่ในวันนี้ นอกเหนือจากกลุ่มมหาเศรษฐี ของประเทศไทย ผมยังอยากจะรับฟังและใช้ความรู้ความสามารถ ของภาคเอกชนทั้งหมดอีกด้วย
ดังนั้น สิ่งที่ผมจะทำ ในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า ประการที่สอง คือ ผมจะไปพบกับสมาคมภาคธุรกิจไม่ว่าจะขนาดกลาง หรือขนาดเล็ก เพื่อรับฟังพวกท่านด้วยตัวของผมเองโดยตรง ไม่ต้องผ่านหน่วยงานใดเพื่อให้ผมจะได้รับทราบถึงสถานการณ์ที่แท้จริง
ผมต้องการเข้าถึงความรู้ขีดความสามารถ และความเชี่ยวชาญอันหลากหลายของภาคเอกชน นอกจากนี้ผมต้องการรับฟังความความคิดเห็น ข้อเสนอแนะความต้องการ และความท้าทายที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่ ผมต้องการรับฟังว่า พวกท่านต้องการที่จะร่วมมีบทบาทในการแก้ปัญหาครั้งนี้อย่างไร รวมทั้งสิ่งที่ท่านได้ทำไปแล้ว และสิ่งที่ท่านจะช่วยกันทำต่อไป
และที่สำคัญ ผมต้องการได้ยินความคิดเห็นของพวกท่าน ว่า มีจุดไหนบ้าง ที่รัฐบาลควรจะทำงานให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมแน่นอนว่า เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของรัฐบาล ที่ต้องช่วยเหลือคนไทยทั้งประเทศ แต่เราสามารถขยายแรงกำลังในการช่วยเหลือ ให้ใหญ่ขึ้นได้ ด้วยการร่วมมือกับภาคเอกชน ที่มีทรัพยากรมาก มีวิธีการทำงาน และวิธีการเข้าถึงผู้เดือดร้อนได้อย่างรวดเร็ว และคล่องตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากรัฐบาลจะเข้าไปช่วยอำนวยความสะดวก
ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมมีความคิดเห็นที่หลากหลาย แม้กระทั่งในกลุ่ม ผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้วยกันเอง ก็ยังมีมุมมองการแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกัน ซึ่งผมเห็นว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ ผมอยากจะรับฟังทุกท่านเพื่อช่วยกันหาทางออกที่เหมาะสมที่สุดผมเชื่อว่า ความคิดเห็นของท่านทั้งหลาย แม้จะมีความแตกต่างกัน แต่ล้วนเกิดจากความรักชาติและความปรารถนาดีต่อประเทศทั้งสิ้น และเมื่อเราเลือกที่จะปฏิบัตทางใดทางหนึ่งแล้ว ขอให้ทุกคนร่วมมือกัน สนับสนุน เพื่อช่วยกันผลักดันให้เกิดความสำเร็จตามที่เราต้องการ
ผมขอให้พวกเราทุกคน ทำงานร่วมกัน เป็นครอบครัวเดียวกัน ขอให้พวกเราใช้วิกฤตครั้งนี้ เป็นโอกาสที่จะช่วยสร้างประเทศไทยของเราให้แข็งแกร่งขึ้นมาอีกครั้ง มีความเป็นปึกแผ่น และมีความเป็นหนึ่งเดียวกันของพี่น้องคนไทยในช่วงเวลาที่ประเทศของเรา กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ขอให้พวกเราทุกคนได้ร่วมกันแสดงพลังของความเป็นไทยออกมาอีกครั้ง ให้โลกได้เห็นว่าพวกเราคนไทยได้ร่วมมือช่วยเหลือกัน และต่อสู้ไปด้วยกัน โดยไม่มีสีเสื้อ และไม่มีฝัก มีฝ่ายทางการเมือง ในอนาคตเมื่อมองย้อนกลับมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้จะเห็นว่า เป็นช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยาก และความเสียหายมากมาย แต่ในอีกด้านหนึ่ง เราจะเห็นว่านี่คือช่วงเวลา ที่เราได้อะไรที่ยิ่งใหญ่กลับคืนมาด้วย นั่นคือ เราได้ค้นพบตัวตนที่แท้จริง ของคนไทยอีกครั้ง และเราได้ค้นพบ ความกลมเกลียว เป็นครอบครัวเดียวกัน ของพวกเราคนไทยทั้งประเทศ
ผมมีความหวังแบบนั้นครับ และผมเชื่อว่า คนไทยทุกคนก็มีความหวังแบบนั้นเช่นกัน ผมขอให้ทุกคนมาร่วมมือกัน ทำให้ความหวังของพวกเราเป็นความจริง เราจะต้องชนะไปด้วยกัน