ปัจจุบันได้มีการร่วมมือกันในการขับเคลื่อนธุรกิจ ล่าสุด โรบินฮู้ด ได้จับมือกับ Google Cloud และ MFEC ในการสร้าง "Super App" สัญชาติไทยเพื่อช่วยเหลือเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก ไรเดอร์ และผู้ใช้งาน ขยายรูปแบบธุรกิจไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ ตอบโจทย์ด้านดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย
พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจอาหารและการขนส่ง อีคอมเมิร์ซ บริการจองการเดินทางออนไลน์ และบริการทางการเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นประเภทธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตที่ฟื้นตัวขึ้น โดยคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าเกือบ 2 ล้านล้านบาทภายในปี 2025 ดังนั้นการลงทุนด้านการพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถ และการใช้ประโยชน์จากความสามารถของ Google Cloud, Google Maps และ Google Play เพื่อปรับขนาดองค์กรอย่างยั่งยืน และสร้างนวัตกรรมในอัตราความเร็วสูง รวมถึงการขยายรูปแบบธุรกิจเพื่อสังคมไปสู่ประเภทธุรกิจใหม่ๆ ทำให้ โรบินฮู้ดสามารถก้าวสู่การเป็น Super App ระดับโลกที่ตอบสนองความต้องการด้านดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย
นอกเหนือจากธุรกิจร้านอาหารที่ โรบินฮู้ดสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจของภาคส่วนการท่องเที่ยวในประเทศ ด้วยการเปิดให้บริการด้านการท่องเที่ยวออนไลน์แบบครบวงจร (all-in-one travel service) โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม เสริมความแข็งแกร่งในโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีของแพลตฟอร์ม พร้อมยกระดับประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ด้วยระบบอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และร่วมกันสร้างบริการดิจิทัลรูปแบบใหม่ในอนาคตต่อไป
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
ทุกนาทีมีค่าต่อชีวิต "ศิริราช" ผุดรถพยาบาล 5G ช่วยผู้ป่วยฉุกเฉิน
ความร่วมมือของ โรบินฮู้ด กับ Google Cloud และ MFEC ในครั้งนี้ สร้างการตอบรับอย่างอบอุ่นที่เพิ่มมากขึ้นจากผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มตลอดระยะเวลากว่า 20 เดือนที่ผ่านมา ก่อนขยายสู่บริการอื่นๆ ได้แก่ บริการจองทัวร์และกิจกรรม บริการเช่ารถ และบริการจองตั๋วเครื่องบิน รวมถึงบริการสั่งซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้า (Mart Service) และบริการรับ-ส่งของ (Express Service) เพื่อมุ่งสู่การเป็น Super App สัญชาติไทย เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทย และช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจในระดับรากหญ้า
การจับมือกับ Google ในครั้งนี้ ด้วยความเล็งเห็นถึงศักยภาพของ Google ที่มีโครงสร้างพื้นฐานของระบบคลาวด์สำหรับข้อมูล ซึ่งปราศจากการปล่อยก๊าซระหว่างดำเนินการ และมีประสบการณ์มากมายในการเชื่อมโยงโลกเข้าไว้ด้วยกัน รวมถึงมีความเชี่ยวชาญในการสร้างแพลตฟอร์ม และระบบนิเวศแบบเปิดกว้าง ความสามารถเหล่านี้บวกกับความเชี่ยวชาญด้านการใช้งาน และการให้คำปรึกษาทางเทคนิคของ MFEC จะช่วยยกระดับความสามารถในการสร้างคุณค่าให้กับสังคมไปพร้อมๆ กับการมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อความยั่งยืน
พันธมิตรเชิงกลยุทธ์จะยึดพื้นฐานหลัก 5 ประการดังนี้
- การพัฒนาผู้ที่มีทักษะและวัฒนธรรมที่นำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรม
โรบินฮู้ด, Google Cloud และ MFEC จะสร้างศูนย์ส่งเสริมการใช้งานระบบคลาวด์ (CCoE) ซึ่งประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมระบบคลาวด์ การจัดการข้อมูล และการพัฒนาแอปพลิเคชันให้ทันสมัยเพื่อส่งเสริมให้เกิดวัฒนธรรมที่คล่องตัวในหน่วยธุรกิจของโรบินฮู้ด และเร่งสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ พนักงานของโรบินฮู้ดจะได้ประโยชน์จากโปรแกรมการรับรองและการเพิ่มทักษะเฉพาะของ CCoE ซึ่งใช้หลักสูตรเดียวกันกับที่ Google ใช้เพื่อฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีของตนเอง พนักงานเหล่านี้จึงมีความรู้ความสามารถเพียบพร้อมในการจัดการการติดตั้งใช้งานระบบคลาวด์ขนาดใหญ่ รวมถึงใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแมชชีนเลิร์นนิง (ML) เพื่อแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเป็นอย่างมาก
- การยกระดับคุณภาพของบริการดิจิทัล
การย้ายระบบไปยังโครงสร้างพื้นฐานแบบเปิดของ Google Cloud ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutral) มีความปลอดภัย รองรับการขยายตัว ทำให้โรบินฮู้ด สามารถให้บริการในระบบนิเวศของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และลดปริมาณ carbon footprint ของปริมาณงานในทีมไอที จากนั้น CCoE จะทำให้เข้าถึงการใช้ Microservices และ Google Play Store เพื่อให้มั่นใจว่าแอปพลิเคชันของลูกค้าและไรเดอร์ของโรบินฮู้ดยังคงมีประสิทธิภาพ เสถียร และใช้งานง่าย แม้ว่าจะมีการเพิ่มบริการใหม่ๆ และมีผู้ใช้ในปริมาณมากก็ตาม
- การมีส่วนร่วมที่เจาะจงมากขึ้นของผู้ใช้
CCoE จะสร้างและจัดการเครื่องมือสำหรับข้อมูลอัจฉริยะโดยใช้เทคโนโลยีการวิเคราะห์ระดับแนวหน้าของ Google อย่างเทคโนโลยี AI และ ML เพื่อช่วยให้พนักงานของโรบินฮู้ดรู้ทันและนำหน้ารูปแบบการบริโภคของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด และใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกแบบละเอียดในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ นอกจากนี้ยังช่วยให้ร้านค้าขนาดเล็กสามารถให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่มีความเฉพาะเจาะจงกับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับร้านค้าเหล่านั้นช่วยเพิ่มรายได้เพิ่มแหล่งรายได้ของผู้ขายเหล่านี้อีกด้วย
- การเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ของไรเดอร์
โรบินฮู้ดจะสำรวจโดยใช้ชุดพัฒนาซอฟต์แวร์ของ Google Maps Platform เพื่อติดตามการสร้างและการผสานรวมฟีเจอร์การขนส่งแบบออนดีมานด์อย่างรวดเร็ว เช่น การมอบฟีเจอร์การนำทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยวในแอปหลังจากที่ระบุเส้นทางที่สั้นหรือเร็วที่สุดให้แก่ไรเดอร์ เพื่อให้ขับขี่ได้ปลอดภัยยิ่งขึ้น ส่งออเดอร์ได้เร็วขึ้น และมีรายได้มากขึ้น ผู้ใช้บริการส่งอาหารของโรบินฮู้ดจะเห็นการแสดงตำแหน่ง เส้นทาง สภาพการจราจร และเวลาถึงโดยประมาณของไรเดอร์แบบเรียลไทม์ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าต้องการความช่วยเหลือหรือยกเลิกออเดอร์น้อยลง
- การให้ความช่วยเหลือทางการเงินที่เข้าถึงได้ง่าย
หลังจากที่พบว่าการเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างรวดเร็วสามารถเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความแตกต่างให้ธุรกิจขนาดเล็กและไรเดอร์อยู่รอดและเติบโตต่อไปได้ โรบินฮู้ดจะพัฒนาแนวคิดริเริ่มด้านการสร้างนวัตกรรมร่วมกันกับ Google Cloud เพื่อใส่บริการ Virtual Banking และสินเชื่อสำหรับธุรกิจขนาดเล็กลงในแอปพลิเคชัน ซึ่งจะช่วยให้เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กสามารถสมัครขอสินเชื่อเพื่อซื้ออุปกรณ์ใหม่และจ้างพนักงานได้อย่างไร้รอยต่อ หรือให้ไรเดอร์สามารถเช่าจักรยานยนต์ไฟฟ้าได้