ดร.เกรียงไกร สุพรรณ ผู้อำนวยการโรงเรียนประเทืองทิพย์วิทยา ผู้บริหารที่สืบทอดธุรกิจการศึกษาที่เป็นของครอบครัว กับแนวคิดการศึกษาแบบใหม่ ที่มีการเรียนผสมผสานไปกับให้เด็กใช้ความคิดสร้างสรรค์ ด้วยการใช้การแต่งตัวแบบคอสเพลย์เป็นตัวเชื่อมระหว่างครูกับนักเรียน
“ให้เด็กพูดในสิ่งที่อยากจะพูด ไม่ต้องกดดัน เป็นในสิ่งที่เขาอยากจะเป็น” ดร.เกรียงไกร สุพรรณ กล่าวและเล่าถึงที่มาของโรงเรียนประเทืองทิพย์วิทยา ซึ่งเริ่มตั้งแต่รุ่นคุณยาย ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2503 เป็นเวลา 61 ปีแล้วคุณยายก็ไปเป็นคุณครูอยู่ที่โรงเรียนที่หนึ่ง แล้วก็รู้สึกอยากจะเปิดเป็นของตัวเอง ทีนี้ปี 2503 ก็เริ่มเปิดเป็นโรงเรียนเล็กๆ จนกระทั่งเด็กเริ่มเยอะขึ้นก็เลยไปจดทะเบียนก่อตั้งโรงเรียนเป็นโรงเรียนประเทืองทิพย์วิทยาในปัจจุบัน
การถ่ายทอดมายังรุ่นคุณแม่ ก็ยังยึดอุดมการณ์เดียวกันมาตลอด และทำให้ผู้อำนวยการเป็นคนที่รักการเรียนด้วยหรือเปล่าตอนเด็กๆ
มันเป็นการถ่ายทอดจุดประสงค์ก็คือ การให้ วันที่เราได้โตมาในครอบครัวที่ผูกพันกับการศึกษาแบบนี้ทั้งคุณยาย คุณแม่ ตอนเด็กๆ ผมก็เหมือนเด็กทั่วไปนะ ผมไม่ได้แบบรักการเรียน ผมอยู่ห้องบ๊วยด้วยซ้ำ คุณยายเป็นครู คุณแม่ก็เป็นครู คุณแม่อาจจะดำเนินตามธุรกิจคุณยายด้วยการเป็นธุรกิจการศึกษา เราไม่ชอบเชิงครู เราไม่ได้อยากจะสอน ไม่ได้อยากจะเป็นแนวแบบผู้ให้ขนาดนั้น การที่คุณแม่เป็นให้ คุณยายให้ เอาจริงๆ มันอาจจะเป็นธุรกิจการศึกษาแต่มันดูแล้วไม่ค่อยคุ้มหรอก ไม่สู้จริงๆ ไม่อดทนไม่บริหารให้ดีก็จะพังลงมาได้ แต่ว่าเราอยู่ด้วยอุดมการณ์ที่อยากจะให้ เพราะฉะนั้นรุ่นที่ 3 คือ เรารู้จักให้ โรงเรียนก็ต้องอยู่ได้ด้วย ก็เลยถึงคราวที่รุ่นที่ 3 ที่ดูงานมากันเป็น 10 ปีขึ้นมาแทนตำแหน่งอย่างเป็นทางการเพื่อที่จะบริหารโรงเรียน
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
ไบรท์ ภูมิพัฒน์ ทรัพย์กุลชนนาถ ส่งต่อประสบการณ์ในการเล่นแบตให้กับรุ่นหลัง
เพื่ออยากให้เด็กแสดงออกในแบบที่ตัวเองอยากจะเป็นให้มากขึ้นก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้มีนโยบายแต่งคอสเพลย์
การแต่งคอสเพลย์เนี่ยมันเป็นนโยบายการสัมภาษณ์ ส่งนักเรียนที่จะศึกษาต่อมอสี่จบมอสามมาเค้ายังไม่รู้ว่าเค้าอยากเป็นอะไรสามปีมานี้เด็กสอบสัมภาษณ์เด็กเครียดเพราะเด็กมันนั่งหน้าครูแล้วคุณครูก็นั่งเครียดเราก็คิดว่าทำยังไงก็ได้ให้เด็กเค้าเปิดใจมากที่สุดมันก็เลยเกิดว่าทำยังไงให้เด็กเค้าพูดในสิ่งที่เค้าอยากจะพูดไม่ต้องกดดัน
ตัดครูออกไปตัดนักเรียนออกไป
ตัดหัวโขนออกไปทุกคนไม่มีตำแหน่ง คุยเหมือนเป็นแม่เป็นพ่อพ่อเด็กเด็กมาดูกลายเป็นผลตอบรับที่ดีเด็กเค้าสามารถพูดได้โดยไม่มีกำแพงกั้นศักดิ์ศรีช่วงอายุคุณครูตำแหน่งมันหายไปหมดเลย
เราโตกันมาสามคนพี่น้องในรุ่นเจนสามเนี่ยด้วยการซึมซับในเรื่องของการให้การศึกษามากกว่าที่จะมองผลประโยชน์เป็นหลักมีแรงศรัทธามีอุดมการและแรงที่จะให้มากกว่าเป็นความสุขทางการสอนทางการศึกษามากกว่าที่เรื่องของเงินทอง
มันสนุกในเรื่องของการบริหารจัดการนี้แหล่ะช่วยคุณแม่ปั๊บคำว่าช่วยคุณแม่เนี่ยมันพูดถึงว่าเราบริหารแทนทั้งหมดโดยที่ทุกคนต้องมีความสุขนักเรียนมีความสุขคุณครูมีความสุขผู้บริหารคุณแม่ทุกคนก็มีความสุขเราอยู่ด้วยกันแบบไม่โอฟู่ไม่ได้มีเงินทองเป็นแบบเยอะแยะไม่ได้มีหลังคาดีดีมากมายแต่เราต้องพัฒนาเป็นสิ่งที่เราอยู่กับธุรกิจการศึกษาของโรงเรียนประเทืองทิพย์วิทยามันมาเป็นลูกโซ่กว่า 60 ปีเราก็เราก็อยู่นี้ อย่างมีความสุขได้ สนุกกับการบริหาร สุข สุข