svasdssvasds

ใช้สมุนไพรไทยยังไงให้ดีกับสุขภาพ ไม่ใช้ผิดชีวิตเปลี่ยน!!!

ใช้สมุนไพรไทยยังไงให้ดีกับสุขภาพ ไม่ใช้ผิดชีวิตเปลี่ยน!!!

รู้ไหมว่าสมุนไพรไทยอยู่ในชีวิตประจำวันของคนไทยมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งใช้เป็นทั้งอาหารและใช้เป็นยารักษาโรคด้วยประโยชน์ในการเพิ่มรสชาติให้อาหารและสรรพคุณทางยา

ในปัจจุบันโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ได้มีเครื่องดื่มสมุนไพรไทยที่ใช้บรรเทาอาการของโรค หลายคนสงสัยว่าดีจริงหรือไม่? และใช้สมุนไพรไทยในชีวิตประจำวันอย่างไรให้ดีกับสุขภาพ นายแพทย์จักราวุธ เผือกคง ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับเรื่องนี้

นายแพทย์จักราวุธ เผือกคง ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

ช่วงนี้มีสูตรสมุนไพร เช่น น้ำขิงหรือน้ำกระชายตามท้องตลาดมากมาย ช่วยเสริมภูมิต้านทานให้สุขภาพจริงหรือไม่ หรือแก้หวัดได้จริงไหม?

ขิงกับกระชายก็เป็นอาหารอยู่แล้ว คนไทยใช้เป็นอาหารกินเป็นประจำทุกวันได้ ซึ่งสมุนไพรไทยเวลาจะนำมาใช้เพื่อ 2 วัตถุประสงค์หลักๆ คือ นำมาเป็นอาหารซึ่งจะอยู่ในชีวิตประจำวันของเราทั่วๆ ไป อย่าง นำมาทำเป็นน้ำดื่มหรือแปลงเป็นอาหารสำเร็จบางอย่าง สมุนไพรที่นำมาทำเป็นอาหารร่างกายก็จะนำเข้าสู่ระบบไหลเวียนเลือดแล้วร่างกายก็จะขับส่วนที่ไม่ได้ใช้ออกมา แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เรามีอาการเจ็บป่วย สมุนไพรตัวเดียวกันเราสามารถเอามาทำยาด้วย เช่น ขิง กระชาย ขมิ้นชัน ก็จะนำมาทำเป็นยา แต่เวลาจะนำมาทำเป็นยานั้น

1. ต้องเพิ่มขนาดของสมุนไพรให้มีขนาดแรงขึ้นส่วนใหญ่ก็จะ 3-4 เท่าขึ้นไป

2. มีการปรับรูปแบบในการแปรรูปให้มีสรรพคุณทางยามากขึ้น

3. เราอาจจะต้องนำมารวมกันกับสมุนไพรตัวอื่นเพื่อที่จะเสริมในการออกฤทธิ์ให้ดีขึ้น บางครั้งสมุนไพรตัวหนึ่งถ้าเราต้องการกินให้ออกฤทธิ์มากๆ เราต้องกินปริมาณเยอะเกินจนเกิดอาการข้างเคียง ดังนั้นจึงต้องมีสมุนไพรตัวอื่นเข้ามาเสริมฤทธิ์เพื่อที่จะต้องไม่ได้กินในปริมาณมากๆ

เนื้อหาที่น่าสนใจ :

หากกินสมุนไพรติดกันเป็นเวลานานๆ ดีหรือไม่ มีผลอย่างไร?

วัตถุประสงค์ของสมุนไพรไทยที่ใช้อยู่ตอนนี้ เป็นลักษณะรูปแบบของการนำมาทำเป็นอาหาร หรือทำเป็นเครื่องดื่ม ยกตัวอย่าเช่น ขิงกับกระชาย ซึ่งอาจจะเป็นเครื่องดื่มที่กินทุกวันก็ได้ แต่ถ้าปริมาณมากเกินมันจะกลายเป็นยาแล้วทีนี้ มันจะมาปรับระบบการทำงานของร่างกาย เพราะฉะนั้นการดื่มน้ำขิงหรือน้ำกระชายทุกวัน เราต้องมาดูว่าร่างกายเราเป็นอย่างไร สรรพคุณของขิงกับกระชายก็คือ ช่วยในการย่อยอาหาร ช่วยในการไหลเวียนของเลือด ช่วยลดอาการปวดเมื่อยแก้อักเสบ ทำให้ลำไส้เคลื่อนตัว ดูดซึมได้ดี ช่วยขยายหลอดเลือด ช่วยปรับภูมิต้านทานให้ดีขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น

ใช้สมุนไพรไทยยังไงให้ดีกับสุขภาพ ไม่ใช้ผิดชีวิตเปลี่ยน!!!

นี่คือสรรพคุณของขิงและกระชาย ถ้าเรากินทุกวันสรรพคุณจะไปอยู่ในเรื่องของการช่วยย่อยอาหาร ช่วยเรื่องการเคลื่อนของลำไส้ ช่วยในการดูดซึมเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี ลดอาการปวดเมื่อย นี่คือสรรพคุณทั่วไปของขิงเมื่อนำมาทำเป็นอาหาร เพราะฉะนั้นถ้าไม่มีอาการเหล่านี้ก็ไม่จำเป็นต้องกินทุกวัน

การกินทุกวันอาจจะทำให้ร่างกายเราได้รับสารที่เป็นยาในสมุนไพรตัวนั้นมากเกินไป มากเกินไปคือ เมื่อร่างกายได้รับทุกวัน มันจะมาปรับสมดุลร่างกายจากที่มีความสมดุลอยู่แล้ว ให้เสียสมดุลได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นอาหารอยู่แล้วแต่การกินทุกวัน อาจจะมีสารบางอย่างที่เป็นยา เมื่อเราได้รับทุกวันจนร่างกายขับทิ้งไม่หมดก็อาจจะทำให้เกิดอาการข้างเคียงทีหลังได้

หากถามว่า น้ำขิง น้ำกระชาย ควรดื่มทุกวันไหม? คำตอบคือ ดื่มได้แต่ไม่ใช่ในปริมาณมาก เพราะการกินทุกวันไม่ใช่การกินสมุนไพรที่ดี ให้เรากินตอนที่มีอาการจะดีกว่า เช่น รู้สึกอาหารไม่ย่อยท้องอืดแน่นท้อง รู้สึกเลือดลมไหลเวียนไม่ค่อยดี มึนงง อันนี้จะใช้มาช่วยเรื่องอาการเหล่านี้ได้

ใช้สมุนไพรไทยยังไงให้ดีกับสุขภาพ ไม่ใช้ผิดชีวิตเปลี่ยน!!!

สมุนไพรไทยใช้ป้องกันหวัด หรือรักษาโรคได้หรือไม่?

อาการหวัดของเราส่วนใหญ่ เกิดจากระบบภูมิต้านทานแปรปรวนมากกว่าการติดเชื้อ พอเราได้กินขิงกับกระชาย ก็จะช่วยในเรื่องของอาการหวัดได้ อย่างที่ 2 คือ อาการหวัดที่เกิดจากเชื้อไวรัส การได้รับเชื้อไวรัสเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันที่มันแปรปรวน เพราะฉะนั้นการกินขิงกับกระชายก็จะเป็นการช่วยเสริมภูมิต้านทานให้เรามีภูมิคุ้มกันดีขึ้น เวลาเราได้รับเชื้อไวรัส เราก็มีโอกาสเป็นหวัดน้อยลง ซึ่งมีประโยชน์ในเรื่องการป้องกันหวัดทั้ง 2 ด้าน คือ หวัดจากอากาศแปรปรวนและหวัดจากเชื้อไวรัส แต่ไม่ได้มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อไวรัสโดยตรง

ใช้สมุนไพรอย่างไรให้ดีกับสุขภาพ ไม่ใช้ผิดชีวิตเปลี่ยน!

การใช้สมุนไพรผิดส่วนใหญ่ จะนำสมุนไพรที่ใช้เป็นยา นำมาทำเป็นอาหาร สมุนไพรบางตัวคนไทยโบราณจะรู้อยู่แล้วว่าตัวไหนควรนำมาทำเป็นอาหารหรือเป็นยา ถ้าสมุนไพรตัวไหนที่ใช้เป็นยา แล้วนำมาทำเป็นอาหารทานทุกวัน จะมีอาการข้างเคียงหรือทำให้ร่างกายเรามีอาการผิดปกติได้ เช่น การนำใบดีหมีมาต้มเป็นน้ำชาดื่มทุกวัน ถ้าอย่างนี้เรียกว่าใช้สมุนไพรที่เป็นยา นำมาทำเป็นอาหาร เพราะใบดีหมีเป็นพืชที่มีคุณสมบัติเป็นยา ใช้ในการลดไข้ ไม่นิยมนำมาทำเป็นอาหาร การที่เรานำมาต้มเป็นน้ำชาดื่มทุกวัน อาจจะได้ปริมาณยาที่มากเกินไปแล้วร่างกายขับทิ้งไม่ทัน

การใช้สมุนไพรไทยในชีวิตประจำวันให้ดีกับสุขภาพ คือ ในแต่ละวันเราควรกินอาหารที่มีประโยชน์และให้สารอาหารครบ แต่ถ้าเรามีอาการอะไรหรือรู้สึกว่าร่างกายแปรปรวน เราก็แค่เพิ่มเครื่องดื่มสมุนไพรเข้าไปเพื่อที่จะปรับอาการนั้นให้เข้าที่ หรือเราปรับอาหาร เช่น อาจจะเพิ่มสมุนไพรรสที่เผ็ดร้อนเข้าไป อย่าง คนที่กินอาหารรสจืดอาจจะใส่พริกไทยเข้าไปเล็กน้อย ถ้าทำต้มจืด ข้าวต้มหรือโจ๊กก็ใส่ขิงเข้าไปเยอะหน่อย คือ อาหารไทยส่วนใหญ่ วัตถุดิบที่ใช้จะมีคุณสมบัติทางยาอยู่แล้ว ซึ่งคนไทยโบราณจะกินอาหาร ปรุงอาหารเพื่อให้เป็นยารักษาโรคและป้องกันโรคด้วย เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเอาสมุนไพรที่เป็นยามากินแทนอาหารเหมือนอย่างในปัจจุบัน