แบรนด์ AsirA (อศิระ ) แบรนด์แฟชั่นที่เกิดมาจากการเล็งเห็นศักยภาพของน้องๆ ผู้พิการในการสร้างสรรค์ผลงานซึ่งนำมาต่อยอดเป็นสินค้าแฟชั่น อย่าง รองเท้า หรือเสื้อผ้า
แบรนด์ AsirA ขับเคลื่อนโดยคุณปรันตวัฒน์ คิ้วเกียรติสกุล และน้องๆ ที่มีความบกพร่องทางด้านร่างกาย ซึ่งเปรียบเสมือนพาร์ทเนอร์ในการสร้างสรรค์ผลงาน
จุดเริ่มต้นของ AsirA และแรงบันดาลใจ
จริงๆ ผมเพิ่งเริ่มทำแบรนด์มา 2 ปี หลักๆ คือผมเป็นอาสาสมัครของมูลนิธิศูนย์รวมมิตรเพื่อเด็กและเยาวชนที่เชียงราย ทำงานกับน้องๆ ผู้พิการทางการเคลื่องไหว เรารู้สึกว่าน้องๆ บางคนมีศักยภาพที่จะสร้างงานต่อได้ก็เลยเล็งเห็น เริ่มจากค่อยๆ เรียนรู้โดยเข้าไปอบรมกับโครงการต่างๆ ของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด เป็นกลุ่มแฟชั่นล้านนาตะวันออก เป็นแฟชั่น เป็นเสื้อผ้า จริงๆ เราไม่ได้มีความรู้อะไรมาก พอได้เข้าโครงการเรียนรู้ ปีที่ 1-2 เราก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาจนมาเห็นผลงานของน้องอางิ้งซึ่งเป็นเด็กดาวน์ซินโดรม จนเกิดแรงบันดาลรู้สึกว่าเราอยากสร้างงานให้กับเขาน้องๆ บางคนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย ซึ่งผู้พิการทางการเคลื่อนไหวจะช่วยเหลือตัวเองค่อนข้างลำบาก แล้วเราก็จะดูว่าผู้ปกครองสามารถทำอะไรได้บ้างที่จะดูแลไปด้วย ทำงานไปด้วย
ผลงานหลักๆ เลยจะเป็นของอางิ้ง เป็นน้องกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งมีงานปักที่เด่นและสวยมากเป็นเอกลักษณ์ น้องเห็นแม่ปักผ้า ก็เลยให้ลูกปักผ้าเล่นดีกว่านั่งอยู่เฉยๆ เป็นการฝึกสมาธิไปด้วย ก่อนหน้านี้ชิ้นงานน้องก็เอามาเป็นผ้าขี้ริ้ว ในชุมชนเขามองว่ามันไม่สวยเหมือนเด็กปักไปเรื่อย แต่ผมเห็นว่ามันน่าจะขายได้ ก็เลยคุยกับแม่เขาขอซื้อชิ้นงานเพื่อที่จะทำเป็นสินค้าต่างๆ ซึ่งตอนนี้ก็เหมือนครอบครัวกันไปแล้ว เราคุยงานกันโดยที่เราไม่ได้จำกัดน้องเค้าว่าต้องใช้สีนี้นะ ต้องทำแบบนี้นะ คือเรื่องสีเรื่องลายน้องเป็นคนเลือกหมดเลยครับ เป็นเหมือนงานที่มีชิ้นเดียวในโลก จะสังเกตได้ว่าแต่ละงานจะมีลายเส้นของเค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เราก็เลยซื้อผลงานเค้า
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
Landmeé กับคอลเลคชั่น ชุดอยู่บ้าน Redesign ใหม่ ใส่ได้ทุกโอกาส!
Valentina Sampaio นางแบบทรานส์เจนเดอร์ชาวบราซิล Face คนใหม่ของ Armani Beauty
HOMME PLISSÉ ISSEY MIYAKE กับ โปรเจกต์ภาพถ่ายแฟชั่นผ่านมุมมองช่างภาพไทย
น้องๆ เรียนรู้การปักผ้ามาจากที่ไหน
คือมันเป็นวิถีชีวิตของเค้าอยู่แล้ว เค้าเห็นแม่ทำ ที่บ้านก็มีส่วนช่วยให้ลูกทำ อันนี้เพื่อเป็นการฝึกสมาธิ ดีกว่าไม่รู้จะลูกทำอะไร ให้ลูกเล่นปักผ้าไปเรื่อยๆ เอาเข็มเอาด้ายมาให้ปัก น้องเค้าก็ฝึกไปเรื่อยๆ จนเค้ารู้ว่าตัวเองมีรายได้จากฝีมือตัวเองแล้ว เค้าก็มีกำลังใจในการปัก พอเค้าปักได้จำนวนหนึ่ง เค้าก็จะบอกแม่โทรหาพี่เค้าหน่อย มาเอางาน งานได้แล้วนะ ซึ่งเราก็จะไปรับงานน้องเค้ามา มีหลายคนขอซื้อเป็นชิ้นงานของเค้าเลย ซึ่งเราก็จะไม่ขาย ยกเว้นแต่สถาบันการศึกษาจะเอาไปใช้ในงานเพื่อสาธารณประโยชน์เรายินดีที่จะขายให้ในราคาที่คุยกับน้องเค้าไว้ ถ้าบุคคลทั่วไปมาขอซื้อเราก็จะไม่ได้ขายเพราะผมอยากสร้างมูลค่าให้กับผ้าของน้องเค้ามากกว่า
เมื่อน้องปักผ้ามาให้เราแล้วเราก็มาทำต่อว่าทำอะไรดี แรกๆ ผมก็หาผลิตภัณฑ์ที่จะทำนะว่าทำอะไรดี จะวางไลน์ผลิตภัณฑ์ยังไง ก็มาจบที่การทำรองเท้า เราทำออกมาแล้วมันเด่นแล้วลูกค้าก็ให้การตอบรับดีมาก ครั้งแรกที่ไปออกงานแล้วก็ให้ลูกค้าสั่งเป็นพรีออเดอร์ เราไม่ได้ผลิตเยอะๆ เพราะไซส์เท้าคนเราจะต่างกัน ประกอบกับมันมีต้นทุนเกิดขึ้น เลยใช้เป็นการพรีออเดอร์โดยมีแบบให้ลูกค้าดู ลูกค้าเลือกผ้าเลือกลาย แล้วเราก็จะมีช่างที่ชำนาญงานด้านการเย็บรองเท้าทำมือ ที่เป็นเป็นพาร์ทเนอร์กัน
ตอนนี้มีน้องๆ ร่วมโครงการ มีน้องอางิ้ง กับน้องอีกคนซึ่งน้องกำลังเพิ่งเริ่มทำ ให้แม่เค้าฝึกงานอยู่ เพราะแม่น้องต้องมีภาระหน้าที่เยอะเราก็เลยเอางานไปให้แม่ทำด้วย แล้วก็มีน้องที่เป็นคนพิการจากฝั่งลาวด้วย ซึ่งงานก็จะมีอัตลักษณ์อีกแบบ เราก็ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นผู้พิการที่เป็นคนไทย หากเป็นผู้พิการอยากมีงาน เราก็ยินดีที่จะช่วยเหลือดีลงานให้ครับ
ทำงานกับน้องๆ ผู้บกพร่องทางการเคลื่อนไหวมีความยากง่ายอย่างไร
เป็นเรื่องภาษาที่ใช้สื่อสารครับ เพราะน้องส่วนใหญ่จะใช้ภาษาของชาติพันธุ์ของเขา เราก็จะคุยกับแม่เพื่อให้แม่สื่อสารกับน้อง เราทำงานด้วยกันโดยให้ความเคารพที่เป็นตัวน้อง ไม่บังคับให้น้องทำแบบนี้ๆ ให้เค้าทำตามแบบอย่างที่เค้าคิดเลย เพราะฉะนั้นงานก็เลยออกมาสวยในสไตล์ของเขา ส่วนตัวของน้องๆ ก็อารมณ์ดี อัธยาศัยดี
มีผลิตภัณฑ์อะไรออกมาแล้วบ้าง
ตอนนี้ก็จะมีรองเท้า ทั้ง สลิปเปอร์ รองเท้าบู๊ทหุ้มข้อ แล้วก็มีแจ๊กเก็ต ซึ่งเราก็กำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่นอีก ซึ่งก็กำลังจะมีเสื้อเชิ้ตซึ่งต้องขอขอบคุณโครงการของจังหวัดน่าน โดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดน่าน อุตสาหกรรมสิ่งทอ เป็นโครงการบูรณาการในการพัฒนาอุสาหกรรมแฟชั่นล้านนาออกสู่ต่างประเทศ ซึ่งโครงการนี้จะเข้ามาพัฒนาให้ผลิตภัณฑ์ของเราได้มาตรฐานที่สามารถจะส่งออกไปต่างประเทศได้ด้วย
ชื่อแบรนด์คือ AsirA (อศิระ)
แปลว่าการอวยพรครับ ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งดี ทุกคนต้องการสิ่งดีในชีวิต เหมือนเป็นการอวยพรให้กับทุกคน การทำแบรนด์นี้ผมทำเองทั้งหมดประกอบกับมีพาร์ทเนอร์ที่ดี ซึ่งก็คือน้องๆ ผู้บกพร่องทางการเคลื่อนไหว และยังมีพาร์ทเนอร์ที่เป็นดีไซเนอร์ออกแบบให้ด้วย เพราะฉะนั้นลูกค้าที่ได้สินค้าไปบอกเลยจะเอ็กซ์คลูซีฟมาก
หากใครสนใจสามารถสั่งเข้าไปส่องไอเท็มสวยๆ ได้ที่ https://www.facebook.com/AsirA88 หรือติดต่อสอบถามโทร 088 999 8903