การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังไม่จบ แม้การมาของวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 จะทำให้เราเห็นทางรอด และถึงแม้จะฉีดวัคซีนไปแล้วก็ตาม เรายังควรต้องการ์ดป้องกันไว้อยู่ดี แล้วเราจะรับมือหรือใช้ชีวิตอย่างไรให้ร่างกายและจิตใจสตรองในช่วงการระบาดของโควิดระลอกนี้
จากการสำรวจพบคนไทยกว่า 60% พร้อมรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่ยังเข้าใจผิดว่า ฉีดวัคซีนแล้วจะไม่มีโอกาสติดเชื้อและไม่แพร่เชื้ออีก และอาจทำให้การ์ดที่เราทำมาตั้งแต่แรกลดลง มาอัพเดทการใช้ชีวิตแบบ New Normal กันดีกว่า
สวมหน้ากากอนามัย
เมื่อจำเป็นต้องออกไปในที่สาธารณะหรือพบปะพูดคุยกับผู้อื่น ควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค เพราะเชื้อไวรัสประเภทไข้หวัดสามารถติดต่อได้ง่ายโดยระบบทางเดินหายใจ ดังนั้นแค่พูดคุยกันอย่างใกล้ชิด ยังไม่ทันโดนตัวก็สามารถติดได้แล้ว ดังนั้นการสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะเป็นสิ่งจำเป็น
หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด หรือมีคนเยอะๆ
ชีวิตวิถีใหม่เมื่อจำเป็นต้องอยู่นอกบ้าน ควรหมั่นสังเกตเหตุการณ์รอบตัว เพื่อรู้ว่าควรหลีกเลี่ยงสถานที่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่ที่มีคนเยอะ แออัด หรือรวมตัวกันเยอะ เช่น ตลาด สถานีขนส่งผู้โดยสาร โรงพยาบาล ฯลฯ หรือหากจะเป็นต้องไปสถานที่มีคนเยอะ ควรสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างในการติดต่อสื่อสาร ล้างมือบ่อยๆ ทำความสะอาดพื้นที่ที่ต้องใช้ร่วมกับคนอื่น อย่าง ห้องน้ำ ฝารองนั่งชักโครก ปุ่มลิฟต์ โต๊ะ เก้าอี้ ฯลฯ ด้วยสเปรย์แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อทุกครั้ง และเตรียมถุงสำหรับใส่ของที่ต้องรับมา อย่าง บัตรจอดรถ เงินทอย สำหรับใส่แยกเพื่อไม่ให้ปะปนกับของใช้ส่วนตัว
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
ปอดแข็งแรงด้วยอาหารหากินง่าย!!! 10 แหล่งอาหาร หาง่าย กินประจำช่วยบำรุงปอด
กระทรวงสาธารณสุข เผย 7 เมนูเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และอุดมไปด้วยประโยชน์
อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ
การติดต่อสื่อสารเป็นสิ่งจำเป็นไม่ว่าจะด้วยเรื่องการงาน ความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิด เพื่อนฝูง การเยียวยาจิตใจ หรือจับจ่ายซื้อของ ซึ่งคนยุค New Normal สามารถติดต่อสื่อสาร พูดคุย รับส่งข้อมูล และประชุม ผ่านทางออนไลน์ เพื่อลดการพบปะกันและการแพร่ระบาดของโควิด-19 เราสามารถใช้สื่อโซเชียลในการพูดคุย เห็นหน้า ส่งความรู้สึก ความห่วงใย และให้คำปรึกษากันได้
เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 - 2 เมตร
เมื่อจำเป็นต้องออกไปในที่สาธารณะ การเว้นระยะห่างเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อเป็นการป้องกันการติดหรือแพร่กระจายของเชื้อโรค เราควรเว้นระยะตามจุดที่เค้าเว้นไว้ หรือประมาณ 1-2 เมตร เราอาจจะคำนวณเองคราวๆ คือ 2 ช่วงศอกโดยประมาณ
ทำความสะอาดมือบ่อยๆ
ไม่ว่าจะอยู่ในบ้านหรือในที่สาธารณะ เมื่อเราสัมผัสสิ่งของหรือพื้นผิวต่างๆ สิ่งเหล่านั้นอาจมีเชื้อโรคติดมือเรามาด้วย เพราะฉะนั้นควรล้างมือบ่อยๆ หรือทำความสะอาดมือด้วยเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อ ที่สำคัญห้ามเผลอเอามือไปสัมผัสหน้า ขยี้ตา โดยเด็ดขาดเพราะเป็นการสัมผัสเชื้อโรคโดยตรง
ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกันผู้อื่น
เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ห้ามใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ ช้อน ส้อม ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า หลอดดูดน้ำ ฯลฯ ถึงแม้จะเป็นคนในครอบครัวหรือสนิทกันแค่ไหนก็ตาม ควรแยกของที่เป็นส่วนตัว
เสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย
การเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าภูมิคุ้มกันโรคแข็งแรง เชื้อโรคต่างๆ ก็ไม่สารมารถทำร้ายเราได้ การเสริมภูมิต้านทานนั้นเริ่มตั้งแต่การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นไปที่ผักผลไม้ที่มีวิตามินในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ต่อด้วยการดื่มน้ำให้ได้ 2 ลิตรต่อวัน และออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ซึ่งเมื่ออยู่ในบ้านก็สามารถออกกำลังกายได้ เช่น กระโดดเชือก กระโดดตบ สควอท เต้น หรือโยคะ ปิดท้ายของวันด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
สร้างภูมิคุ้มกันให้กับจิตใจ
การระบาดของโควิด-19 นอกจากจะส่งผลกระทบต่อร่างกายแล้วยังส่งผลกระทบต่อจิตใจด้วย ซึ่งหากเรามีภูมิคุ้มกันด้านจิตใจที่ดี จะสามารถเข้าใจ ปรับตัว และข้ามผ่านปัญหาและอุปสรรคไปได้ การมองโลกในแง่ดีด้วยความเป็นจริง ทุกอย่างไม่ว่าจะร้ายหรือดีย่อมมีที่สิ้นสุด เปลี่ยนวิกฤตินี้ให้เป็นโอกาสในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะโอกาสได้ดูแลคนในครอบครัว อาชีพใหม่ๆ ค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบ พัฒนาความสามารถในสิ่งที่ตัวเองสนใจ และอย่าลืมผ่อนคลายจิตใจและความเครียดจากสถานการณ์หรือข่าวต่างๆ เพื่อไม่ให้วิตกกังกลเกินเหตุ เช่น อ่านหนังสือที่สนใจ ฟังเพลง เล่นดนตรี ดูหนังที่ตอนงานยุ่งยังไม่มีเวลาได้ดู ฯลฯ